มุมมองทองคำ ประจำสัปดาห์
วันอาทิตย์ที่ 14 ก.พ. 2021
เมื่อทองคำ ยังย่ำไม่ไปไหน...
🌟บทความที่ 3 ของมุมมองทองคำประจำสัปดาห์จาก "หนีดอย"
สัปดาห์ที่ผ่านมาถือว่าทองคำย่ำอยู่กับที่ครับ (8-12 ก.พ. 2021)
โดยระหว่างสัปดาห์ที่แล้วทำจุดสูงสุดที่ 1,855 USD/Oz.
และทำจุดต่ำสุดที่ 1,808 USD/Oz. ราคาผันผวนราวๆ $47
โดยล่าสุดราคาทองคำปิดที่ $1,823
🌟มุมมองทองคำ ผมขอแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆคือ
1. ปัจจัยทางเทคนิค
2. ปัจจัยทางพื้นฐาน
เพื่อให้ผู้อ่านใช้ประกอบการตัดสินใจเข้าลงทุนทองคำได้ครับ
#ปัจจัยทางเทคนิค
💭หลังจากทองคำทำจุดต่ำสุดที่ 1785 ก่อนหน้านี้ ทองคำก็สามารถยืนเหนือ 1800 ได้มาโดยตลอด และพยายามจะทดสอบแนวต้านเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน(เส้นสีม่วง) ที่ 1854 สุดท้ายก็ไม่ทะลุผ่านแล้วกลับลงมา จากกราฟที่นำคือ Timeframe ระดับ Day จะเห็นว่า แนวโน้มระยะสั้นยังคงเป็น Downtrend หรือขาลงครับ โดยเฉพาะแท่งเทียนนั้นได้หลุดจากเส้นค่าเฉลี่ย 200 วัน (สีม่วง), MACD อยู่ในช่วงติดลบ และ RSI อยู่ที่ 43 โดยประมาณ
💭ทองคำมีแนวรับที่สำคัญคือ 1765 โดยประมาณ และแนวรับทางจิตวิทยาที่ 1800 โดยมีแนวต้านสำคัญคือ 1840
💭เมื่อเปรียบเทียบกับ US dollar index ของภาพกราฟฝั่งขวา โดยล่าสุดปิดที่ 90.48 เป็นการปรับตัวลดลงมาหลังจากที่ดัชนีนี้ได้ปรับตัวขึ้นมาแรงไปแตะที่ 91.6 จุด
กราฟเปรียบเทียบความสัมพันธ์ระหว่างทองคำ และ US dollar index : 12 FEB 2021
#ปัจจัยทางพื้นฐาน
💭เนื่องจากทองคำนั้นสัมพันธ์กับ Real Yield โดยล่าสุด อยู่ที่ -1.014% ขณะที่สัปดาห์ก่อนอยู่ที่ -1.028% ซึ่งถือว่าไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยยะอะไรครับ
💭โดย Real Yield ดูได้จาก U.S. 10 Year TIPS
ซึ่งมีสมการคือ Real yield = Nominal yield - Expected inflation rate
อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล - ความคาดหวังอัตราเงินเฟ้อ
(ข้อมูลจาก www.cnbc.com/quotes/US10YTIP)
ข้อมูลล่าสุด 12 FEB 2021
💭ข้อมูลถัดมาที่อยากให้ดูคือ การถือครองทองคำย้อนหลังของ SPDR® Gold Shares กองทุนที่ลงทุนในทองคำแท่งที่ใหญ่ที่สุดในโลก
💭ที่มาข้อมูลจาก traderider.com/forex/spdr-กองทุนทองคำแท่ง/
สำหรับข้อมูลการถือครองของ SPDR Gold Shares (GLD)
💭จะพบว่ามีการลดการถือครองลงจาก 1,156.51 ตัน เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว มาเป็น 1,142.22 ตัน โดยทั้งเดือนมกราคมมีการขายออกไป 10.61 ตัน ซึ่งพอๆกับปริมาณการขายในช่วงเดือนตุลาคม ปีที่แล้ว และเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมามีขายออกไป 17.91 ตัน ถ้าตัวเลขนี้มีการปรับลดลงเกินซัก 25-30 ตันอาจมีผลต่อราคาทองคำอย่างมีนัยยะสำคัญ
การเปลี่ยนแปลงการถือครองทองคำของกองทุน SPDR GOLD SHARE : 12 FEB 2021
กราฟเปรียบเทียบปริมาณถือครองทองคำ กับ ราคาที่เข้าซื้อขาย : 12 FEB 2021
สรุปรายเดือน/รายปี ปริมาณการถือครองทองคำกองทุน SPDR Gold Share : 12 FEB 2021
💭นอกจากนี้ ปัจจัยพื้นฐานต่อมาที่ส่งผลต่อราคาทองคำให้ปิดบวกเหนือ 1,800 ได้ แต่ยังคงย่ำไม่ไปไหนในกรอบนั้นก็มาจาก
1.ทางสหรัฐเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานออกมาสูงกว่าคาดในสัปดาห์ที่แล้วโดยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ 793,000 ราย โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 760,000 ราย แต่ตํ่ากว่าระดับ 812,000 รายที่มีการรายงานในสัปดาห์ก่อนหน้านี้
2. ความวิตกกังวลเกี่ยวกับความตึงเครียดระหว่างจีนและสหรัฐ หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้น ผิง ของจีนและประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้สนทนากันทางโทรศัพท์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปธน.ไบเดน เข้ารับตําแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ และดูเหมือนว่าการสนทนาจะเกิดความขัดแย้งกันในประเด็นส่วนใหญ่ อาทิ ในเรื่องการขยายอิทธิพลของจีนในอินโด-แปซิฟิก การปฏิบัติของจีนในฮ่องกง ซินเจียงและไต้หวัน ขณะที่ประธานาธิบดีสีเตือนว่า การเผชิญหน้ากันจะเป็น "หายนะ" สําหรับทั้ง 2 ประเทศ สถานการณ์ดังกล่าวก่อให้เกิดการคาดการณ์ว่าสหรัฐจะยังคงรักษาท่าทีในเชิงแข็งกร้าวต่อจีนซึ่งเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย
💭จากข้อมูลทั้งหมดทั้งทางเทคนิคที่ยังไม่มีสัญญาณขาขึ้นระยะสั้นชัดเจน และทางพื้นฐานที่ยังไม่เป็นบวกต่อทองอย่างชัดๆ ภาพรวมจึงออกมาไปในทางลบกดดันต่อราคาทองคำในระยะสั้น ทำให้กรอบราคาของทองคำกลับมาซื้อขายกันช่วง 1800-1840 USD/OZ.
💭มุมมองของผมในระยะยาวที่ Fed ยังคงทำ QE จากนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายต่อเนื่อง มีผลทำให้เงินสกุลดอลลาร์มีแนวโน้มอ่อนค่าลง เป็นปัจจัยบวกต่อราคาทองคำในระยะ 2-3 ปีนี้ ที่สามารถขึ้นมาอยู่ในระดับ 2000 USD/Oz. ได้เป็นอย่างน้อย หรือมากกว่า
💭โดยมีแนวรับที่น่าเข้าสะสมทองคำที่ระดับ 1765, 1785, 1800, 1820 หรือแม้แต่ 1840 เพื่อคงปริมาณทองคำอยู่ในพอร์ทการลงทุนราวๆ 5-15%
💭กรณีที่คนมีแล้วอยากจะขายรินกำไรออก ก็มีแนวต้านตั้งแต่ 1865, 1890, 1900, 1920,1965 ครับ ที่พอทยอยขายได้
💭หากอ่านบทความนี้แล้ว ใครที่ต้องการลงทุนทองในกองทุนทองคำ ก็มีอยู่หลายกองครับ จะเป็นแบบ Hedge ค่าเงิน อย่าง SCBGOLDH หรือมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินก็ได้ หรือจะเลือกแบบไม่ Hedge ก็ได้เช่นกันครับ อย่าง SCBGOLD
💭สำหรับคนที่ต้องการลงทุนในกองทุนทองคำที่ไม่ Hedge ค่าเงิน หากเงินบาทอ่อนค่าและราคาทองคำขยับขึ้น ก็เหมือนได้กำไรทั้งค่าเงิน และกำไรส่วนต่างจากราคาทองคำ
💭 กลับกันหากเงินบาทแข็งค่า เราก็จะขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนครับ ซึ่งหลังจากไบเดนได้เป็นประธานาธิบดีสหรัฐ และมีนโยบายการค้าที่ดูสนับสนุนเงินทุนไหลเข้าเอเชีย ก็อาจส่งผลให้เงินบาทแข็งค่าขึ้นไปอีก ซึ่ง ณ ที่เขียนบทความ ค่าเงินบาทก็อยู่ที่ 29.88 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐแล้วครับ
💭 ผมเลยอยากแนะนำให้เลือกเป็นกองทุนที่ Hedge ค่าเงินมากกว่า แต่สุดท้ายก็แล้วแต่การตัดสินใจครับ ส่วนจะเป็นกองไหนก็ได้นะครับ ไม่จำเป็นต้อง SCB เท่านั้นครับ
💭ภาพกราฟภาพแรกสุดที่เห็นมาจาก Tradingview.com
หรือสามารถโหลด app ชื่อ Tradingview มาใช้ได้ครับ
เป็น 1 ใน app แนะนำ ที่ทุกคนควรมี
มีแบบ version ฟรี ที่จำกัดการใช้เครื่องมือ
กับ version เสียเงิน ที่มีฟังก์ชันให้ใช้งานมากขึ้นแบบไม่มีกั๊ก
💭หากใครสนใจว่า เราควรมี App ไหนบ้าง
ที่ช่วยเราด้านการลงทุน
ผมได้รวบรวม 18 App ที่ "ต้องมี" ในการลงทุน
สำหรับพันธบัตร กองทุน หุ้น(ไทยและเทศ)
ETFs ทอง คริปโต ค่าเงิน อัตราดอกเบี้ยนโยบาย
(ยกเว้น อสังหาริมทรัพย์)
ในรูปแบบ iOS สามารถคลิกเข้าไปอ่านเพิ่มเติมได้เลยที่ >>> blockdit.com/articles/600ad03130959805a11ae4d8
เพราะการลงทุนนั้น ไม่ต้องซื้อให้ถูกที่สุด
แต่ขอให้ห่างจากจุดที่เรียกว่า "ดอย" ก็พอ
ใครชอบบทความดีๆแบบนี้ รบกวนกด Like เป็นกำลังใจให้แอดมิน
ใครคิดว่าบทความนี้ใช่ รบกวนกด share ให้เพื่อนๆมีความรู้เพิ่มในการลงทุน
หรือใครมีข้อเสนอแนะ ติชมอะไร พิมพ์ทิ้งไว้ได้เลยครับ
==================================
***การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษารายละเอียดให้ดีก่อนการลงทุนทุกครั้ง
==================================
หากใครอยากได้ข้อมูลการลงทุนแบบฉับไว
ไม่พลาดทุกการลงทุนในทุกสินทรัพย์
กด Follow Twitter "หนีดอย"
พร้อมกดกระดิ่งแจ้งเตือนได้ที่ www.twitter.com/needoykan
- 20
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
