31 มี.ค. 2021 เวลา 16:49
สวัสดีครับ ห่างหายไปนานพอสมควรสำหรับงานเขียน ตอนนี้ที่อังกฤษปลดล็อคดาวน์มาตั้งแต่วันที่29 มีนาคม ร้านอาหารสามารถเปิดให้บริการ แบบนั่งทานภายนอกร้านได้เดือนหน้า วันที่ 12เมษายน และผมก็จะกลับไปทำงาน หลังจากที่หยุดมา 5เดือนเต็ม ยังโชคดีที่ได้เงินสนับสนุนจากทางรัฐบาลช่วย ยังพอมีเงินส่งกลับไปให้แม่ที่เมืองไทย เราจะยังไงก็ช่างครับ ครอบครัวต้องมาก่อน ยังดีที่หลานๆ ที่เลี้ยงมาทั้งสามคน ตอนนี้เรียนจบ ป.ตรีหมดทุกคนแล้ว ทำงาน และช่วยแบ่งเบาไปได้เยอะทีเดียว...รักหลานๆครับ(แอบอ้อนหลานนิดนึง😁) แต่หลานๆไม่รู้หลอกครับว่าผมเขียนบทความ
เมื่อวันที่ 29มีนาคม ผมกับแฟนได้ไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด เข็มแรก ซึ่งเป็นของ Astrazeneca และเข็มที่2 จะฉีดในวันที่15 มิถุนายน...เป็นความประทับใจมากๆ ที่ไปเข้ารับบริการ เจ้าหน้าของ NHS ตลอดจนอาสาสมัคร น่ารักและให้ความเป็นกันเอง กับผู้เข้ารับบริการมาก ไม่รู้สึกว่าโดนเลือกปฏิบัติ ผมใช้เวลาไม่เกิน15 นาที ตั้งแต่การตรวจเลขที่นัดหมาย การสอบถามรายละเอียด จนถึงการเข้ารับการฉีดวัคซีน...คืนแรกจะรู้สึกไม่สบายตัว อ่อนเพลีย แค่ก็ไม่มีผลกระทบอย่างอื่น ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็ได้แจ้งไว้แล้วถึงผลข้างเคียง และถ้ามีอาการที่รุนแรงให้ติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ทันที พร้อมให้แผ่นพับกลับมาอ่านด้วย
เอาล่ะครับพากลับเข้าเรื่องเลย สิ่งที่จะเขียนในวันนี้ ตั้งใจว่าจะมาต่อเรื่องประสบการณ์การทำงาน ที่เคยเขียนทิ้งไว้ครั้งสุดท้ายเมื่อหลายเดือนก่อน ตอนที่ทำงานเป็นCustomer Service Assitant.อยู่ที่มหาวิทยาลัย...ตอนนั้นที่ทำงาน ผมเป็นที่ยอมรับมากขึ้นเรื่อย ๆ ขยันและเรียนรู้งานเร็ว ทำได้หมดทั้งงานเสริฟ์ แคขเชียร์ สต็อก แต่ขณะเดียวกันสิ่งที่ผ่านเข้ามาก็ดป็นบททดสอบ การดูถูกทั้งเรื่องของภาษายังมีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่ก่อนมาอังกฤษผมก็มั่นใจภาษาในระดับนึง แต่คงดีไม่พอ ยอมรับนะครับว่าหมดความมั่นใจไปเยอะเลย ทั้งที่เวลาเรียนภาษาจากโรงเรียนในอังกฤษเราได้อยู่ระดับต้นๆ แต่ก็สู้ครับ เพื่อน ซึ่งเป็นหัวหน้างานของผม เป็นคนดีมาก เค้าชื่อGoncalo (กอนซาโล) เป็นชาวโปรตุเกส ซึ่งผมได้รู้จักเค้าเพราะผมได้เรียนภาษาอังกฤษกับภรรยาของเค้าซึ่งเป็นขาวบราซิลชื่อDaniele (ดาร์เนียลล่า) ซึ่งต่อมาเป็นเพื่อนสนิทของผมจนถึงทุกวันนี้ และเรื่องราวชีวิตของเพื่อนผมคนนี้ก็น่าสนใจมากๆ ไว้ผมมีโอกาสจะมาเล่าให้ฟัง ดาร์เนียลล่าแนะนำให้รู้จักกับกอนซาโลจนเราทั้ง3 คนสนิทกัน หลังจากนั้นกอนซาโลแนะนำผมให้มาสมัครงานทำที่Sussex University
เพื่อนรักของผม สองคนนี้ที่พูดได้เต็มปากเลยว่าคือเพื่อนจริงๆ ในประเทศนี้
ผมทำงานไปได้เกือบปี ก็มีตำแหน่งTream Leader ว่างเนื่องจากคนเก่าลาออก และคนเก่าคนนี้เป็นคนที่คอยหาเรื่องผม ตั้งแต่วันแรกที่เจอหน้า ซึ่งทุกวันนี้ก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม เค้าชื่อ Sam เป็นคนอิตาเลี่ยน ความรู้สึกเหมือนเค้าไม่ชอบคนเอเชีย การมอง การแสดวออกไม่เป็นมิตรกับผมเลย แต่เค้าเป็นรองหัวหน้า ทุกครั้งที่เจอจะต้องโดนSamหาเรื่องตลอด ครั้งใหญ่ๆก็มี 2 ครั้ง คือไม่ยอมให้ผมเบรกทานอาหาร แค่ให้ทุกคนไปเบรกหมดแล้ว จนผมเกือบเป็นลม ทนทำงานมือเริ่มสั่น ใจหวิวๆ ทำงานตั้งแค่เช้าจนเกือบ5 โมงเย็นไม่ได้เบรก คนมาทำงานหลังผมไปเบรกกันหมดแล้ว ผมเข้าไปบอก Sam แต่เขาปฏิเสธบอกให้รอก่อน ผมบอกว่า ผมทำงานตั้งแต่เช้า จนจะกลับบ้านแลเวยังไม่ได้พักเลย Sam ไม่ฟังอะไรครับ จัดการโทรไปฟ้องArea Managerบนออฟฟิศ ใส่ความว่าผมต้องการจะเบรคทั้ง ๆ ที่คนไม่พอ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ฉลาดเลยนะสำหรับผม กฏหมายคุ้มครองแรงงานที่นี่ก็มีชัดเรื่องการเบรค ทำงานเกิน 6ชม.แล้วยังไม่ได้กินข้าวเลย ลืมบอกไปนะครับว่าSam ทำมานาน สิ่งที่ทุกคนพูดเหมือนกันหมดคือ ขี้เกรียจและหน้าหม้อสุดๆ อู้งานเป็นที่หนึ่ง ผมเองก็เห็นว่าจริงตามที่ทุกึนเล่ามา ภาษาอังกฤษของเค้าก็ไม่ได้ดีไปกว่าผมแต่ก็ชอบพูดเหน็บผม เราก็งง คือโดนอยู่คนเดียว.... เรื่องนี้จบลงตรงที่ผมได้ไปเบรค ทางArea Manager ฟังเรื่องทั้งหมด แล้วบอกว่าไม่สมควรที่จะเกิดขึ้นกับพนักงาน และให้Sam ขอโทษผม และสั่งให้Sam เอาตารางงานของพนักงานมาดู ว่าเพราะอะไรยังมีพนักงานที่ตั้งแต่เช้ายังไม่ได้เบรค...หลังจากนั้นก็มีปัญหาอีกเรื่อยๆ จนมาอีกครั้งหนึ่ง กล่าวหาว่าผมหนีกลับบ้านก่อน...ซึ่งผมก็มีพยาน และเรื่องก็ถึงArea Manager อึกแล้ว เขาตะโกนด่าผมต่อหน้าลูกค้าและเพื่อนร่วมงาน กล่าวหาว่าผมละทิ้งงาน...เหมือนตั้งใจเล่นงานเราเต็มที่ผมแจ้งว่าผมเลิกงานสองทุ่ม ผมตามหาSam เพื่อจะบอกว่าผมเลิกแล้ว แต่หาไม่เจอตั้งแต่หกโมงเย็น ซึ่งSam มักจะล่องหน ปล่อยพนักงานให้ทำงานกันเอง ส่วนตัวเองจะออกไปนั่งคุยโทรศัพท์ข้างนอก...ผมจึงแจ้งกับเพื่อนร่วมงานขื่อAlexว่ากลับนะ ถ้าSamมาให้บอกด้วย ทั้งที่จริงแล้วPass บัตรออกก็จบ ไม่ต้องบอกแถมCCTVก็มี ...สรุปของเรื่องนี้ก็จบตรงที่ว่าSamไม่สามารถตอบAreaNanager ได้ว่าหายไปไหน แล้วผมก็มีเพื่อนร่วมงานที่ยืนยันว่าผมกลับตรงเวลาเข็คเวลาออกจากบัตรก็ตรงเวลา...เป็นอีกครั้งนึงที่Samต้องขอโทษผมกับเรื่องนี้...ทุกอย่างดำเนินไปเรื่อย ๆ ปัญหาก็มีมาตลอด อึดอัดมาก ผมได้คุยกับกอนซาโล เพื่อหาทางออก โดยมีการสลับตารางงาน เพื่อไม่ให้ตรงกัน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แค่เราก็ยิ้มและอดทนสู้ กัดฟัน คนที่ดีกับเราก็มี และที่สำคัญนึกถึงแม่ครับ กำลังใจสำคัญ...แม้บางครั้งจะมีคำถามขึ้นมาว่า "มาทำอะไรที่นี่ว่ะ"
1
ผ่านไปเกือบปี Sam ได้งานใหม่ และสิ่งที่ทำให้ผมประหลาดใจคือ Samขอคุยกับผมและเข้ามาขอโทษผมกับทุกเรื่องที่ผ่านมา และบอกกับผมว่า ผมเหมาะสำหรับตำแหน่งTream Leader ขอให้ผมสมัครตำแหน่งนี้ ผมให้อภัยนะครับ แต่ไม่ลืมว่าระหว่างที่ทำงานขึ้นมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง เคยโดนกล่าวหาว่าขโมยเค้กไปกินตอนกลางวัน ทั้งที่ผมซื้อ และโชคดีที่ผมเก็บใบเสร็จไว้จึงมีหลักฐาน...หลายสิ่งหลายอย่างที่เกิดขึ้น ไม่ใช่จากSam แค่คนเดียว ผมไม่ถามนะครับว่าเพราะอะไรเขาถึงคอยจะหาเรื่องผม ผมคิดว่าต่างคนต่างไป สิ่งที่เขาทำไม่ฉลาดเลย....การที่ผมไม่ได้เป็นคนของประเทศนี้ ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าคนบางคนคิดกับเรายังไง ผมไม่สามารถบอกให้ใครมาเข้าใจเราได้ แต่เราก็ให้อภัยและเรียนรู้ แม้บางครั้งจะท้อและเสียน้ำตาแต่เราก็ต้องผ่านไปได้...ยอมรับนะครับ ตั้งแต่เกิดมา เรียนจบมหาลัยและเริ่มต้นทำงานครั้งแรกที่ไทย จนถึงปัจจุบันนี้...ชีวิตที่นี่หนักหนาสาหัสจริงๆ แต่ไม่ใข่เฉพาะผมคนเดียว ยังมีอีกหลาย ๆ คนที่โดนเหมือนผมและอาจจะหนักกว่าด้วย
1
กอนซาโล เพื่อนของผมที่ตอนนี้เป็นผู้จัดการในหน่วยที่ผมทำอยู่สนับสนุนและขอร้องผม ให้สมัครเลื่อนขั้นในคำแหน่งTream Leader ซึ่งก่อนหน้าที่Samออก ก็มีตำแหน่งนี้ว่างเพราะ กอนซาโรได้เลื่อนเป็นผู้จัดการ แต่ผมก็ปฏิเสธที่จะสมัคร แต่สุดท้าย ผมก็ต้องเป็นคนที่สอนงานให้กับTream Leader คนใหม่.....เพื่อนร่วมงานของผมเกือบทุกคนต่างเชียร์ให้ผมสมัคร มีแม้กระทั่งไปบอกกับArea Managerว่าต้องการให้ผมเป็นรองหัวหน้าที่นี่...ซึ่งในใจลึกๆ ผมก็ภูมิในนะครับที่เพื่อนๆร่วมงานมองเห็นว่าเราทำงานเป็นยังไง ผมคุยกับกอนซาโล ซึ่งแน่นอน เพื่อนผมคนนี้สนับสนุนผม และไม่แค่นั้นยังมีการพูดคุยกับArea Managerว่าต้องการผมมาทำงานในส่วนนี้...ผมมีความไม่มั่นใจแค่เรื่องภาษา แต่ทุกคนบอกไม่ปัญหาเลย ทุกคนเข้าใจเวลาผมสื่อสาร...ผมได้คุยกับกอนซาโล ถึงเรื่องนี้และบอกกับเพื่อนว่า ถ้าหากเป็นเรื่องงานอย่างที่เห็น ไม่มีใครตำหนิผมได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องภาษาแล้วคงเป็นเรื่องเดียว ที่เค้าจะตำหนิได้...ผมได้รับกำลังใจอย่างมากทุก ๆ คน...ผมคัดสินใจลงสมัครกับตำแหน่งนี้ และผ่านไปไม่กี่วัน ก็มีพนักงานอีกคนนึงซึ่งทำPart time จากอีกร้านนึงในหมาวิทยาลัยเข้ามาสมัคร เธอชื่อNancy ซึ่งผมเคยเจอเธอครั้งนึงตอนเธอมาช่วยงาน และผมก็เป็นคนสอนงานให้ Nancy เป็นนิสัยดี อายุ50 พี่สาวเธอเป็น Head Office อยู่หน่วยที่ผมทำ
1
ผมได้คุยกับกอนซาโล ว่า ถ้าผมไม่ได้งานในตำแหน่งนี้ ผมคงต้องพิจารณาตัวเองนะ คงต้องขยับขยายไปที่อื่นแทน เพราะเท่ากับว่าผมไม่สามารถโตในหน่วยงานนี้ได้อีกแล้ว ผมบอกเพื่อนว่า เรื่องงานไม่มีปัญหาแน่นอน ถ้าจะติก็คงเป็นเรื่องของภาษา ไม่ใช่ผมฟังไม่ออก พูดไม่ได้ เขียนไม่ได้นะครับ ผมทำได้หมดแต่จะให้สำเนียงเป๊ะๆเหมือนคนที่นี่ก็ไม่ง่ายสำหรับผม ตอนนั้นผมอายุ40 แล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับคนอายุขนาดนี้ ลิ้นไม่ไปแล้ว😂😂😂
การสัมภาษณ์ผ่านไปด้วยดี และเป็นอย่างที่คิดไว้ ผมไม่ได้ คนที่ได้คือNancyซึ่งเหตุผบที่ผมได้รับคือข้อตำหนิเรื่องภาษา...ซึ่งเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ทำให้ผมเห็นว่ามีคนรักผมเยอะขนาดไหน ทุกคนเข้ามาให้กำลังใจ พนักงานหลายคนเข้าไปคุยกับทางArea Manager ...ตัวของNancyเองก็มาคุยกับผมเพราะเธอรู้สึกไม่ดีที่เธอได้ แถมผมยังต้องเป็นพี่เลี้ยงสอนงานเธอ Nancyถามผมจากปากว่าสาเหตุที่ไม่ได้คืออะไร ผมก็บอกตามตรงว่า แค่เรื่องภาษา ซึ่งเมื่อNancyได้ฟังก็ยิ่งรู้สึกแย่ เธอบอกกับผม แค่เรื่องภาษาเนี่ยนะ...ใช่ครับแค่นั้นจริง ๆ มีการหยิบยกเรื่องภาษากับTream Leader คนก่อนมาเปรียบเทียบ ซึ่งคนก่อนหน้านี้สื่อสารแทบจะไม่รู้เรื่องเลย...แต่ก็อย่างที่ผมคิดไว้ครับ เค้าต้องเลือกคนพูดภาษาเดียวกันก่อนอยู่แล้ว
ผมได้รับมอบหมายให้ดูแลNancy สอนทุกเรื่อง ตั้งแต่เตรียมหน้าร้าน เขียนรายการอาหาร จัดพื้นที่วางสินค้า การใข้เครื่องขงกาแฟ ห้องสต็อก ทำแคชเชีย การเคลียเงิน ซึ่งยิ่งสอนเธอยิ่งรู้สึกผิดเพราะเธอไม่รู้เรื่องงานที่ทำ แต่ผมก็ให้กำลังใจ Nancyพูดกับผมว่า เธอเหมาะกับตำแหน่งนี้มากกว่าขั้น ผมไม่พูดอะไร กอดและให้กำลังใจ..ขณะเดียวกันอย่างที่ผมบอกถ้าผมไม่ได้ที่นี่ นั้นแสดงว่าผมไม่มีความสามารถที่โตต่อไป สู้ไปหาที่อื่นเพื่อที่จะโตต่อไปดีกว่า หรือไปเริ่มจากตำแหน่งเดิมเพื่อโตต่อไป ดีกว่าอยู่ที่เดิม...ผ่านไปนานผมก็สมัครงานเป็นCustomer Service Assistant ที่วิทยาลัย ใกล้กว่า เงินดีกว่า ตัวงานคล้ายกัน ผมได้งานครับ ดีใจสุดๆ แต่มีเรื่องพลิกผันครับ ไว้ผมจะมาเล่าให้ฟังครั้งหน้านะครับ....บอกได้คำเดียวว่าครบรส ทั้งสุข ทุกข์ การหลอกลวง มิตรภาพและการจากลาครับ
โฆษณา