จำคุก 3 ปีชายแท้เกาหลีคลั่ง ทำร้ายผู้หญิงเพราะขัดลูกตาว่าผมสั้น
คดีสะท้อนปัญหาสังคมเหยียดผู้หญิงของเกาหลีใต้
แม้จะยอมรับแบบไร้ข้อกังขาใดๆว่า เกาหลีใต้ เป็นอีกหนึ่งประเทศในเอเชียที่ก้าวขึ้นสู่ระดับประเทศที่พัฒนาแล้ว และมีเศรษฐกิจ ความเจริญในระดับแถวหน้าขอโลก แต่ทว่าในสังคมเกาหลีใต้ก็ยังมีปัญหาแก้ไม่ตก ที่ฝักรากลึกถึงระดับแก่นค่านิยมของคนบางกลุ่ม ที่ยังมองว่า สังคมต้องขับเคลื่อนด้วยผู้ชายเท่านั้น และสถานะของผู้หญิงต้องอยู่แถวหลังเสมอ
แต่เมื่อสังคมเปลี่ยนไปในเกาหลีใต้ ชาย-หญิง มีโอกาสเข้าถึงระบบการศึกษา และ โอกาสประสบความสำเร็จทางเศรษฐกิจได้พอๆกัน แต่กรอบสังคมแบบอนุรักษ์นิยมยังคงอยู่อย่างเข้มข้น
จึงเกิดการรวมกลุ่มของผู้หญิงเกาหลีเพื่อเรียกร้องสิทธิ และความเสมอภาคทางสังคมเช่นเดียวกับผู้ชายมากขึ้น เพื่อทำลายค่านิยมเดิมๆ ที่ตีกรอบบทบาท รูปลักษณ์พิมพ์นิยมในอุดมคติของผู้ชายที่มีต่อผู้หญิงเกาหลีมาตั้งแต่สมัยโบราณให้หมดไป และ หนึ่งในคือ "ผู้หญิงต้องมีผมยาว"
อาจจะฟังดูแปลกสำหรับบ้านเรา ที่ผู้หญิงจะไว้ผมทรงไหน จะสั้น จะยาว ไม่ได้มีผลต่อความรู้สึกของสังคมอะไรขนาดนั้น หากใครมาทัก มีสิทธิ์โดนสวนหน้าหงายว่า หนักหัว***คุณหรือ แต่กลับไม่ใช่ที่เกาหลีใต้ ที่มีชายแท้บางกลุ่มต่อต้านการตัดผมสั้นของผู้หญิงอย่างรุนแรง และมองมาเป็นการกระทำที่ผิดจารีต ต่อต้านสังคมของผู้หญิงที่ไม่สมควรให้อภัย🤔
อย่างเช่นคดีที่เกิดขึ้นในเมืองจินจู ของเกาหลีใต้ เมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว (2023) เมื่อมีชายอายุราวๆ 20 ปี เข้าไปใช้บริการในร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง และได้พบกับพนักงานหญิงในร้านที่ตัดผมสั้น เขาจึงพุ่งตัวเข้าไปทำร้ายเธอทันที ทั้งเตะ ทั้งต่อย ไม่ยั้ง อย่างไร้ความปรานีใดๆ
ซึ่งในขณะนั้นมีลูกค้าชายสูงวัย อายุ 50 ปี อีกคนอยู่ในร้านด้วย เขาจึงรีบเข้าไปช่วย แต่ก็ไม่วาย ถูกชายแท้บ้าเลือดทำร้ายกลับจนบาดเจ็บ ที่เป็นต้นเหตุให้เขาต้องออกจากงานประจำหลังเหตุการณ์นั้น
ด้านตำรวจ ก็สามารถจับกุมชายก่อเหตุได้อย่างทันท่วงทีขณะที่ยังทำร้ายพนักงานร้านทั้ง 2 คนไม่หยุด ซึ่งหนุ่มคลั่งก็ได้ให้การกับตำรวจหน้าตาเฉยว่า เขาพูดใส่หน้าพนักงานหญิงว่า "ก็ผมเธอมันสั้น น่าจะเป็นพวกเฟมินิสท์ (กลุ่มสตรีนิยม) ส่วนผมก็เป็นชายแท้ชาตินิยมแรงซะด้วย พวกเฟมินิสท์ก็สมควรถูกอัดให้เข็ด ก็ถูกต้องแล้วไม่ใช่หรือ"
ตำรวจเกาหลีใต้ได้ลงบันทึกว่า หนุ่มคลั่งก่อเหตุขณะเมาสุรา และถูกส่งไปรักษาอาการทางจิต ซึ่งหมอวินิจฉัยว่าเขาเป็นโรคจิตเภทชนิดหนึ่ง แต่ด้านเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายทั้ง 2 คน ถึงจะไม่ได้บาดเจ็บรุนแรงถึงชีวิตก็ตาม แต่พนักงานหญิง ได้รับบาดเจ็บที่เส้นเอ็น และสูญเสียการได้ยินอย่างถาวร ส่วนชายสูงวัยที่เข้ามาช่วย บาดเจ็บจนต้องออกจากงาน และยังมีอาการประสาทหลอนจากเหตุการณ์ดังข่าว จนถึงวันนี้
หลังจากผ่านไปเกือบ 6 เดือน วันนี้ศาลเกาหลีใต้ ตัดสินว่า จำเลยชายแท้คลั่งมีความผิดจริง ให้จำคุก 3 ปี และต้องชดใช้ค่าเสียหายให้กับเจ้าของร้านสะดวกซื้อเป็นเงินจำนวน 2.5 ล้านวอน (6.7 หมื่นบาท) และ จ่ายค่าทำขวัญให้ชายวัย 50 ปีที่เข้ามาช่วยพนักงานร้านจนได้รับบาดเจ็บเป็นเงิน 10 ล้านวอน (2.7 แสนบาท)
หลังฟังคำพิพากษา เหล่าบรรดานักสิทธิสตรีในเกาหลีก็ขึ้นเลย เพราะโทษที่ชายแท้คลั่งควรได้รับ ต้องจำคุกนานถึง 5 ปี เพราะเข้าข่ายคดีอาชญากรรมที่เกิดจากความเกลียดชัง แต่ทว่าศาลพิจารณาเห็นว่าจำเลยมีสภาพจิตใจที่ไม่มั่นคง (เมา) ขณะก่อเหตุ
แต่อีกประเด็นที่สงสัยคือ ศาลตัดสินให้คนร้ายชดเชยให้เจ้าของร้านได้ ชดเชยให้ลุงน้ำใจงามได้ แล้วค่าชดเชยให้กับเหยื่อพนักงานหญิงที่โดนซ้อมอย่างหนักจนบาดเจ็บ และ สูญเสียการได้ยินอย่างถาวรเลยนี่ จะไม่พูดถึงเลย
เหรอ?
ต่อให้ไม่ได้เป็นนักสิทธิสตรี หรือ เฟมินิสท์ตัวตึง ในฐานะผู้หญิงทั่วไป ฟังคำตัดสินแล้วมันก็เจ็บเหมือนกันนะ และก็เข้าใจเลยว่า ผู้หญิงเกาหลีใต้ต้องอดทนกับความไม่เท่าเทียมที่ฝังรากลึกถึงแกนระบอบสถาบันทางสังคมมากมายขนาดไหน
คดีนี้ได้รับความสนใจจากสื่อต่างชาติพอสมควร และมองว่า หากพิจารณาจากบรรดากลุ่มประเทศที่มีการพัฒนาด้านเศรษฐกิจในระดับสูงแล้ว เกาหลีใต้ยังอยู่อันดับรั้งท้ายด้านความเท่าเทียมทางเพศ และ ผู้หญิงทำงานในเกาหลีใต้ยังต้องทนกับสภาพความไม่เท่าเทียมที่เลวร้ายมาก
และดูเหมือนจะแย่ลงเรื่อยๆ จากการขยายตัวของกลุ่มต่อต้านเฟมินิสท์อย่างมากในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาของกลุ่มชายแท้สายอนุรักษ์นิยมสุดขั้ว ที่รังเกียจกลุ่มเรียกร้องสิทธิสตรีเข้าไส้ เพราะมองว่าพวกเธอเข้ามาแย่งสิทธิ์ และ โอกาส ที่เคยมีของผู้ชาย
เป็นธรรมชาติชองสังคม ที่ใดมีการกดขี่ ที่นั่นย่อมมีการต่อต้าน ซึ่งเรื่องราววัฒนธรรมการกดขี่ผู้หญิงในเกาหลีนั้นก็มีอยู่จริง ที่กดให้ผู้หญิงต้องมีบทบาทหน้าที่เป็นภรรยา มีลูกชายให้ตระกูล ดูแลบ้าน และไว้ผมยาวสยายรอปรนนิบัติสามีอยู่ที่บ้าน ตามค่านิยมความงามในอุดมคติของผู้ชายเกาหลีเท่านั้น จึงไม่แปลกใจที่เกาหลีใต้จะมีกลุ่มสตรีนิยม เฟมินิสม์ที่เข้มข้น ลุกขึ้นมาต่อต้านค่านิยมเหล่านี้ จนถึงขั้นถูกมองว่ามีแนวคิดเหยียดผู้ชายสุดโต่ง
ซึ่งแคมเปญ ผู้หญิงผมสั้น ก็มีจุดเริ่มต้นมาจากกลุ่มเฟมินิสต์ในโลกออนไลน์จริงๆ ราวปี 2020 ที่เกิดแฮชแท็ก #women_shortcut_campaign และโพสต์ภาพทรงผมสั้นของตัวเองลงโซเชียล เพื่อประกาศว่า เป็นผู้หญิงจะตัดผมทรงไหนก็ได้!!
และนั่นจึงเป็นจุดที่ผู้หญิงผมสั้น ถูกเชื่อมโยงกับกลุ่มเฟมินิสท์ในเกาหลีใต้ ที่ถูกชายแท้มองเป็นศัตรูทางสังคมตัวฉกาจ ถึงขนาดผุดแคมเปญต้านผู้หญิงผมสั้น และลามปามไปถึงความเชื่อที่ว่า อัดพวกเฟมินิสท์ "ไม่บาป"
แต่ตัวอย่างของการต่อต้านผู้หญิงผมสั้นของผู้ชายเกาหลีใต้ (บางคน) ที่ทำเอางงกันทั้งโลก คือการตามถล่ม ตามบูลลี่ "อัน ซัน" นักกีฬาธนูหญิง เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก ทั้งประเภทเดี่ยว และ ทีม ที่จัดขึ้นในกรุงโตเกียว ญี่ปุ่นเมื่อปี 2021 ของกลุ่มชายแท้ในเกาหลีใต้ชนิดไม่เผาผี
ซึ่งถ้าเป็นบ้านเรา นักกีฬาทีมชาติคว้าเหรียญทองมาได้ถึง 2 เหรียญ สร้างชื่อเสียงให้ประเทศขนาดนี้ คงแห่รอบเมืองไปแล้ว แต่ อัน ซัน กลับถูกชาวชายแท้เกาหลีใต้ถล่มอย่างหนัก เพียงเพราะเธอเป็นผู้หญิงผมสั้น และถูกตราหน้าว่าเป็นพวกเฟมินิสท์
ประเด็นทางสังคมระหว่างกลุ่มชายแท้ และ เฟมินิสท์ ในเกาหลีใต้ จึงกลายเป็นเรื่องตลกร้ายที่ขำไม่ออก ซึ่งตราบใดก็ตามที่ปัญหาเรื่องความเสมอภาคทางเพศในเกาหลีใต้ยังคงอยู่ คู่กรณี หญิงแท้ - ชายแท้ ที่ยืนอยู่สุดขอบสเปกตรัมคนละด้าน คงปรองดองกันได้ยาก
และสุดท้าย ผู้หญิงเกาหลีใต้ก็ยังเป็นเหยื่อความรุนแรงต่อไปไม่จบสิ้น แถมถูกละเลยแม้กระทั่งการเยียวยาจากสังคมอยู่ร่ำไป 😢
****************
ติดตามบทความของ "หรรสาระ" เพิ่มเติมได้ที่
Facebook - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
Twitter - @HunsaraByJeans
Blockdit - หรรสาระ By Jeans Aroonrat
แพลทฟอร์มคุณภาพ ไม่ปิดกั้นการมองเห็นเนื้อหา
****************
แหล่งข้อมูล
- 10
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
