3 พ.ค. เวลา 11:14 • หุ้น & เศรษฐกิจ

#INTERVIEW: STEC ยกชั้นเป็นโฮลดิ้ง รุกสัมปทาน-พลังงาน ส่ง STECX ลุยธุรกิจอินเทรนด์

บมจ.ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น (STEC) TOP 3 ผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ของไทย ประกาศปรับโครงสร้างแป็นบริษัทโฮลดิ้ง จัดตั้งบริษัทชื่อว่า บมจ.สเตคอน กรุ๊ป (STECON Group) ขยายการลงทุนธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ STEC ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 60 ปี ปัจจัยอะไรที่ทำให้ STEC ปรับโครงสร้างบริษัท
นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ STEC ให้สัมภาษณ์กับ"อินโฟเควสท์" ถึงเหตุผลที่ STEC ต้องลุกขึ้นมาจัดทัพใหม่ครั้งนี้ว่า บริษัทมองเห็นว่าถึงจังหวะเวลาการเปลี่ยนแปลง STEC จากที่ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาอย่างเดียวที่ยอมรับว่าต้องเหนื่อยหางานใหม่ปีต่อปีเพื่อมาเติมงานในมือ (Backlog) อย่างน้อยปีละ 3 หมื่นล้านบาท เพื่อให้คงระดับ Backlog มากกว่า 1 แสนล้านบาท ขณะที่การแข่งขันธุรกิจนี้สูงมาก อีกทั้งกำไรจากธุรกิจบางมาก อัตรากำไรขั้นต้นอย่างเก่งทำได้เพียง 7-8% อัตรากำไรสุทธิ 3-4%
อย่างไรก็ดีในระยะหลัง STEC ได้ร่วมกับพันธมิตรเข้าไปรับงานสัมปทาน ทำให้เห็นว่าจริงแล้ว ธุรกิจสัมปทานเปิดกว้างมาก จากที่รัฐบาลเปิดให้เอกชนรับงานสัมปทานมากขึ้น ทั้งงานรถไฟฟ้า งาน O&M มอเตอร์เวย์ งานสนามบิน จึงเป็นที่มาการขยายธุรกิจลงสู่ธุรกิจสัมปทาน ที่สามารถจะสร้างรายได้ประจำ (Recurring Income) รวมถึงการลงทุนธุรกิจพลังงานที่มีแนวโน้มธุรกิจเติบโตได้ดี
โดยเฉพาะพลังงานสะอาด ที่ผ่านมา STEC ก็ได้ลงทุนหุ้นบมจ.กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ถืออยู่ 1.88% และ บมจ.ไทย โซลาร์ เอ็นเนอร์ยี่ (TSE) ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ที่ 9%
นายภาคภูมิ กล่าวว่า STECON Group วางเป้าหมายเพิ่มมูลค่าตลาด (Market Cap) 1 แสนล้านบาทภายใน 7 ปี และใช้เงินลงทุนปีละ 2 พันล้านบาท/ปี ใช้ในการขยายกิจการ โดยเฉพาะ STECX Venture ที่จะเน้นรุกขยายธุรกิจใหม่ๆ ด้วยการ M&A การรุกเข้าธุรกิจไอที ซึ่งจะช่วยสร้างกำไรให้กับกลุ่มในอนาคต
STECON Group บริษัทโฮลดิ้งใหม่ จัดโครงสร้างธุรกิจ ดังนี้
- ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง ภายใต้การบริหาร STEC ยังคงเป็นรายได้หลัก (Core Business) ให้กับบริษัทในช่วง 5 ปีนี้ ยังคงเดินหน้าเข้าประมูลงานภาครัฐซึ่งในปี 67 ที่คาดว่าจะมีงานโครงการพื้นฐานจำนวนมาก STEC คาดว่าจะมีงานใหม่เข้ามา 4 หมื่นล้านบาท เติม Backlog ที่มีอยู่ปัจจุบัน 9 หมื่นกว่าล่านบาท และคาดว่าจะรับรู้รายได้ในปีนี้ราว 3 หมื่นล้านบาท
- ธุรกิจพลังงานและสาธารณูปโภค ในชื่อ บริษัท สเตคอนเพาเวอร์ จำกัด อาทิ ไฟฟ้า ระบบพลังงาน น้ำ ซึ่งระยะหลังรัฐบาลเปิดให้เอกชนเข้าไปรับสัมปทานมากขึ้น
- ธุรกิจโลจิสติกส์ และคมนาคมขนส่ง ซึ่งจะจัดตั้งบริษัทใหม่รองรับ เพื่อเข้าประมูลงานสัมปทานของคนนาคม อาทิ ทางด่วน รถไฟฟ้า สนามบิน
- ธุรกิจใหม่ ภายใต้การบริหาร STECX Venture
นายภาคภูมิ กล่าวว่า ระหว่างนี้ บริษัทอยู่ระหว่างยื่นไฟลิ่งบริษัทโฮลดิ้งใหม่ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) หลังตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเห็นชอบแล้ว หลังจากนั้น บริษัทเริ่มกระบวนการ swap หุ้นเดิมกับหุ้นใหม่ที่คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือน ก.ค.-ส.ค. และ STECON Group เข้าตลาดแทน STEC ที่จะ delist ออกไป และจากนั้นจะโอนกิจการที่ไม่เกี่ยวกับ STEC มาอยู่กับ STECON Group ภายในสิ้นปีนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์
โฆษณา