8 ธ.ค. 2018 เวลา 11:13 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี
มะเร็งฆ่าคนได้ยังไง
อะไรที่ทำให้มะเร็งน่ากลัว
มันเกิดมาได้ยังไง แล้วมันทำอะไรกับเรา
วันนี้มาด้วยเรื่องใกล้ตัว ที่อาจจะคิดว่าไกล
แต่มันใกล้กว่าที่คิดนะครับ
Cancer cell from SEM
ในประวัติศาสตร์ของมะเร็ง มีมายาวนานมากแล้วครับ มีการบันทึกไว้ตั้งแต่สมัย 1600 BC ใน Egypt ลงบนกระดาษ Papyrus เกี่ยวกับมะเร็งเต้านมในสมัยนั้นด้วย
หมอเทพยุคแรกๆอย่าง Hippocrates ก็เคยบันทึกเกี่ยวกับมะเร็งไว้ แต่ความก้าวหน้าไม่ได้ไปไหนเท่าไหร่นัก สมัยนั้นทำได้แค่เอาก้อนมะเร็งมาผ่าดู ละบอกว่าเส้นเลือดมันยุ่บยั่บ หน้าตาคล้ายๆปูที่มีขา (หรอ) เลยอธิบายว่าเออคล้ายปูนะ เรียก crab ละกัน ต่อมาใครซักคนเปลี่ยนชื่อเป็น cancer อย่างทุกวันนี้
ในปีศตวรรษที่ 15-17 เริ่มมีการผ่าศพคนที่เป็นมะเร็งออกมาตรวจ ความรู้ก็เริ่มมากขึ้น เริ่มมีสมมุติฐาน หาสาเหตุต่างๆ เดากันไปต่างๆนาๆ บางคนบอกเกิดจากน้ำนมที่อุดตัน กลายเป็นมะเร็งเต้านม บางคนบอกน้ำเหลืองตะหาก อีกคนบอกเกิดจากสารเคมี บางคนบอกเป็นโรคติดต่อได้ด้วยนะ เดาล้วนๆ
1
ถัดมาในปีศตวรรษที่ 18 ก็เริ่มศึกษาจนรู้แล้วว่า มะเร็งจากที่นึงเนี่ย มันกระจายไปตามน้ำเหลืองได้แล้วไปโผล่อีกที่นึงได้ด้วยนะ ดูน่ากลัวมากเลย สมัยนั้นเรียกกันว่า cancer poison เหมือนยาพิษเลย
แผ่นสามเหลี่ยมสีม่วงเข้มๆ ด้านบนขวาอ่ะ มะเร็ง
จนปี 19 เริ่มมีการนำกล้องจุลทรรศน์มาใช้ส่องดูเซลล์ของมะเร็ง ร่วมกับความรู้และวิทยาการแพทย์เริ่มก้าวหน้าแล้ว การผ่าตัดถูกนำมาใช้รักษามะเร็ง เมื่อตัดก้อนออกมา นำมาส่องกับกล้องจุลทรรศน์ หมอสมัยนั้นก็พอบอกได้หยาบๆว่าอันนี้มะเร็งนะ อันนี้ไม่ใช่นะ อันนี้ +- [สมัยนี้หมอที่ทำงานด้านนี้เรียกพยา-ธิแพทย์ (pathologist) ไม่เกี่ยวกับพยาธิ (parasite) เท่าไหร่]
พอส่องกล้องไป เค้าก็เริ่มรู้แล้วว่าลึกลงไปถึงใน cell ว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงด้วย หน้าตา cancer cell มันไม่เหมือน cell ข้างๆเลย มันแหวกออกมา ลึกลงไปถึงใน nucleus ตัวกลุ่มก้อนสารพันธุกรรมในนั้นมันหน้าตาไม่เหมือนกันด้วย สีมันเข้มกว่ากัน มันต้องมีอะไรผิดปกติในนั้นแน่ๆ แต่ก็ยังไม่รู้ว่ามันคืออะไร
ถ้าคิดว่าการตัดก้อนมะเร็งออก แล้วจะหาย มันก็ฝันหวานไปแล้วครับ ชีวิตมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้น
1
Skin cancer
การผ่าตัดในสมัยนั้นไม่ได้ทำให้คนหายจากโรคมะเร็งได้ซะทีเดียว มันตัดไปแค่ก้อนใหญ่ แต่ไม่มีทางรู้หรอกว่ามันได้ออกลูกออกหลานฝังตัวอ่อนเอาไว้หมดแล้ว
1
แล้วตกลงมะเร็งมันคืออะไรล่ะ มะเร็งมันก็มาจาก cell ชาวบ้านปกติทั่วไปนี่แหละ แต่ก่อนมันก็เป็นเพื่อนกัน แต่ในช่วงที่กำลังแบ่งตัวสร้าง cell ตัวใหม่ มันดันโดน dark side เข้าครอบงำ ทำให้มันกลายเป็นตัวร้าย แถมเป็นต้วร้ายระดับบอสเลย
อะไรที่ทำให้มัน welcome to the dark side ปัจจัยพวกนี้ บอกก่อนว่ามันเป็น multifactorial คือหลายๆอย่างรวมกัน เหมือนหุ้นจะขึ้นจะลง บอกไม่ได้ว่าเกิดจากอะไรแน่ บอกไม่ได้ว่าจะขึ้นเท่าไหร่ รู้แต่ว่าไอเนี่ยมีผล ไอเนี่ยไม่เกี่ยว
แล้วมะเร็งมันก็มีหลายชนิดมาก factor ที่มีผลกับชนิดนึง อาจจะไม่เกี่ยวกับอีกชนิดเลย แต่ที่สำคัญอันนึงเลยก็คือ อายุ ยิ่งแก่ยิ่งเสี่ยง
อย่างอื่นที่ช่วยเร่งให้เป็นเร็วขึ้น ภาษาทางการเรียก สารก่อมะเร็ง เป็นได้หลายรูปแบบ อาหาร มลพิษ บุหรี่ กรรมพันธ์ รังสี รวมถึงการติดเชื้อบางชนิด และสุดท้ายคือโชค
1
อันนี้จริง เชื่อถือได้
เด็กบางคนเกิดมาพร้อมกับมะเร็งติดตัวอยู่แล้ว
บางคนเกิดมาพร้อมก้อนที่พร้อมจะพัฒนาไปเป็นมะเร็ง เรียกว่าดวงและกรรมพันธ์ล้วนๆ
สังเกตุนะครับ ว่าคนส่วนมากจะเป็นมะเร็งตอนแก่ๆ อายุที่มาก cell ของเราก็แก่ตามไป ในการแบ่ง cell แต่ละครั้งแม้จะมีการเช็คแล้วเช็คอีกไม่ให้พลาดเหมือนถ่าย Xerox ยังงั้นเลย
แต่ชีวิตจริงมันมีความผิดพลาดที่ซุกซ่อนอยู่ ความผิดพลาดเล็กๆน้อยๆสะสมลงไปรุ่นสู่รุ่น เมื่อมันสะสมไปเรื่อยๆถึงจุดนึง dark side ก็จะตื่นขึ้นมา เมื่อถึงจุดนี้แล้ว จากเดิมที่ต้องรอคำสั่งถึงจะแบ่งตัว มันจะแบ่งตัวแบบไม่คิดเลย วันๆไม่ทำอะไร กรุจะแบ่งตัวอย่างเดียว ถ้าพลังงานไม่พอหรอ ไม่ต้องห่วง เดี๋ยวกรุไปแย่งคนอื่นมาใช้เอง
จริงๆร่างกายเรามีหน่วยกำจัดมะเร็งอยู่
ซึ่งส่วนใหญ่มันก็ใช้ได้ดีนะ บอกก่อนว่า cell ปกติถ้ามันทำงานงงๆ ผิดปกติไป มันจะมี เม็ดเลือดขาวเพชรฆาต เดินมาหาละก็บอกว่า
"นายๆ ผลงานช่วงนี้ดูไม่ค่อยดีเลยนะ
เราว่านายไปพักดีกว่า"
ละเม็ดเลือดขาวเพชรฆาตก็จะเอามีดจิ้มทะลุพุง เลือดไหล ไส้ทะลัก cell ที่น่าสงสารก็จะจมกอง(เลือด?)ตายไป เหมือนดั่งที่ใครซักคนในสามก๊กกล่าวไว้ว่า
"คนโง่แต่ขยันต้องเอาไปฆ่าทิ้ง มันเปลืองทรัพยากร"
ระเบิดทิ้งงง
แต่ตัวมะเร็ง Dark side มันระดับบอสแล้ว ใส่เกราะกันกระสุนเดินไปเดินมา เม็ดเลือดขาวโง่ๆแค่นี้ เอามีดจิ้มไม่เข้าหรอก ไม่พอมันยังไปกินทรัพยากรของเพื่อนซะหมดเกลี้ยง ยังไม่หยุด มันโลภมากกว่านั้น มันจะเรียกท่อประปา เรียกเสาไฟฟ้ามาปักลงหน้าบ้านตัวเอง [มันจะทำให้เส้นเลือดโตไปหามันได้เยอะมาก เลยมีพลังงานเยอะ] แล้วเขมือบพลังงานมาใช้ในการแบ่งตัวสร้างฟาร์มมะเร็ง นับวันยิ่งโตวันโตคืน
Cancer cell มีอำนาจเอาเส้นเลือดลงมาเยอะๆ
เมื่อโตได้ระดับนึง มันก็เริ่มจะอึดอัด อยากขยายอาณาเขตแล้ว [ในระยะนี้บางคนมีอาการแล้วบางคนมีแต่ไม่เยอะเลยไม่ได้สนใจ] มันจะทำการ export ตัวเองออกไปนอกอวัยวะ แล้วกระจายไปตามน้ำเหลือง แล้วก็ไปที่อวัยวะอื่นๆเท่าที่มันจะไปได้ ไปดึงทรัพยากรที่อื่นมาเป็นของมันเองอีก คล้ายๆการล่าอาณานิคมมะเร็ง เป้าหมายคือครองพิภพร่างกายมั้ง
1
แต่ไม่ว่ามะเร็งจะกระจายไปที่ไหน ต้นกำเนิดของมันจะยังเหมือนเดิม มะเร็งปอดที่กระจายไปกระดูก เอากล้องมาส่องดูกระดูก เราก็จะเจอ cell มะเร็งปอดที่กระดูก ไม่ใช่ cell กระดูกที่เป็นมะเร็ง แต่มันทำให้กระดูกแย่ไปด้วย มันแย่งอาหารของอวัยวะที่มันไปเกาะ มันขยายขนาด ทำให้รูปร่าง การทำงานของอวัยวะเสียไป เช่นในลำไส้ ก้อนมะเร็งที่โตมากทำให้ลำไส้อุดตัน ในปอดทำให้อากาศเข้ามาแลกเปลี่ยนไม่ได้ อวัยวะนั้นก็จะพังไป ต้องยอมแขวนป้าย out of service
1
มะเร็งปอด ก้อนขาวๆด้านบนนั่นแหละ ตัวร้ายยย เห็นปอดดำๆงี้ ผมว่าหมดค่าบุหรี่ไปเป็นแสน
แล้วมันจะไม่หยุด จนกว่าร่างกายเราจะหยุดทำงานไป เอาให้เจ๊งกันไปข้าง จนเราตาย พลังงานหมด มะเร็งก็จะตายตามกันไป
ความรู้ทางการแพทย์ในสมัยนี้พัฒนาไปก้าวไกลมาก สามารถแบ่งมะเร็งเป็นร้อยๆพันๆชนิด
แต่ละชนิดจะมีวิธีรักษาที่แตกต่างกันออกไป เพื่อจะ specific แต่ละชนิดนั้นๆ
ระยะ (Staging) ของมะเร็งก็เป็นอีกปัจจัยสำคัญในการเลือกวิธีรักษา ในระยะแรกๆ เป็นก้อนเล็กๆ
อาจจะกำลังโตไปเป็นมะเร็ง dark side หรืออยู่แค่ grey zone เทาๆ ถ้าไปรักษาช่วงนี้ส่วนมากจะได้ผลดี และหายขาดได้
แต่กลับกันเมื่อมันล่าอาณานิคมไปไกลถึงต่อมน้ำเหลือง ถึงอวัยวะอื่น มันไม่หยุดแค่นั้นแล้ว เราจะไปตัดมันยังไง ในเมื่ออวัยวะนั้นๆเราก็ต้องใช้ เราขาดอวัยวะนั้นไม่ได้ ขาดเราก็ตาย ไม่กำจัดมะเร็ง ก็ตายอยู่ดี บางทีทางเลือกเหลือให้เราไม่มากนัก
การทำ Chemotherapy หรือการใช้ยารุ่นใหม่ๆที่มีความจำเพาะมากขึ้น ถือว่าทำได้ดีในมะเร็งที่แพร่ไปในระยะต้นๆ แต่ก็ยังไม่สามารถกำจัดกับมะเร็งที่แพร่ไปทั้งตัวแล้วได้ ถ้ามาถึงจุดนี้แล้ว หมอมักจะแนะนำให้ Palliative care แปลว่าทำให้คนไข้เจ็บปวดน้อยที่สุดก่อนจะสิ้นใจ เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ขนาดนี้คงเอาไม่ไหวแล้ววว
มะเร็งเกือบทุกชนิด ถ้าเจอในระยะแรกๆ ส่วนมากจะรักษาให้หายได้ อย่างที่บอกไป ตอนนั้นพลังมันยังน้อย แต่ถ้าปล่อยเอาไว้ สิ่งที่เราเสียคือ "เวลา"
เวลาเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มันโต เวลาที่เราเสียไป ไม่ยอมคิดจะไปตรวจ หรือเราเลือกเดินผิดทาง
ไปรักษาในทางที่ไม่ได้ผล เวลานั้น มะเร็งมันจะค่อยๆโตขึ้นเรื่อยๆ จนถึงจุดที่เราทำอะไรกับมันไม่ได้อีกแล้ว เวลานั้นไม่ไหลย้อนกลับ มะเร็งก็เช่นกัน
การรักษาแผนปัจจุบันยังไม่สามารถรักษามะเร็งได้หาย 100% ได้ มีส่วนที่หาย มีส่วนที่แย่ลง เพราะมันขึ้นกับหลายปัจจัยมากๆ แต่ส่วนมากจะดีขึ้นช้าๆ บางคนอาจจะรับผลข้างเคียงของการรักษาไม่ไหว ต้องล้มเลิกไป บางคนรับได้ และกลับมาเป็นปกติ
ทางการแพทย์จะไม่ขายฝันว่าหายแน่นอน ไม่มีผลข้างเคียง รับรองอะไร 100% แน่นอนว่าเราต้องให้ข้อเท็จจริงกับผู้ป่วยได้ตัดสินใจ ความเสี่ยงที่จะไม่หายมันมี ผลข้างเคียงมีแน่นอน แต่มันเป็นวิธีที่มีโอกาสหายมากที่สุด
ให้ Chemo กันเป็นเดือน ชีวิตต้องสู้
ผมอ่าน FB, Line บางทีก็รวมถึง Blockdit ด้วย
Post ที่แชร์เรื่องสุขภาพ หลายเรื่องมันไม่ใช่ แต่ถ้ามันไม่อันตรายก็ยังโอเค อ่านไปสนุกๆ
แต่ว่าบางครั้งมันดูเหมือนจะไม่อันตราย
ความจริงมันอันตรายมาก โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับมะเร็ง เช่น น้ำผึ้งมะนาวโซดารักษามะเร็ง การกินน้ำมะนาวหอมเย็นชื่นใจไม่ทำอันตรายอะไรหรอกครับ แต่สิ่งที่เสียไปคือเวลา เวลาที่ควรจะไปรักษาจริงจัง การปล่อยให้มันยืดเยื้อนั่นแหละคือตัวสำคัญ
การไปทำสมาธิ หายใจลึกๆ กินน้ำมนต์ เข้าวัดป่า หมอบ้านเป่ายา กินยาหมอวิเศษ สูบกัญชา สิ่งที่เสียไปแน่นอนคือเวลา และเป็นเวลาที่มีค่า เวลาที่ชี้เป็นชี้ตายของชีวิต ถ้าอ่านแชร์ตาม FB มะเร็งดุแต่ใจเสาะ แล้วเชื่อเป็นตุเป็นตะ หยุดยา เลิกรักษากับโรงพยาบาล หันเข้าหาความเชื่อที่ผิด ผลร้ายจะเกิดกับคุณเองแน่นอน สุดท้ายเมื่ออาการไม่ดีขึ้น มันแย่ลง จะกลับมาที่โรงพยาบาล ถึงตอนนั้นมันก็ไม่ทันแล้ว
ช่วงเวลาที่ยังรักษาได้ คือโอกาสชีวิตของคนที่คุณรัก
ผมกินส้มตำตลอดชีวิตคงไม่เป็นมะเร็ง จะบ้าเรอะ (•__• ")
เห็นคนในเฟสเข้าใจผิดกันเยอะ ต้องแก้ให้ชัดๆ
น้ำมะนาวกินได้ แต่มันไม่ช่วยรักษามะเร็ง
สำคัญคือต้องทำการรักษาแผนปัจจุบันไปด้วย
ขอแถมอีกเรื่องละกันครับ เส้นเลือดสมองแตก สมองตีบ [Stroke อันดับ 2 ในตารางข้างล่าง] ที่แชร์กันเยอะๆว่าเอาเข็มเจาะปลายนิ้วระบายเลือดแล้วจะหายเนี่ย เห็นนอนเป็นผักทั้งนั้นเลยครับ โรคนี้เป็นอีกโรคที่เวลาสำคัญมาก ยิ่งมาถึงโรงพยาบาลเร็ว โอกาสหายยิ่งมาก
มะเร็งฆ่าคนเยอะขนาดไหน ในปี 2016 WHO ทำสถิติออกมา มะเร็งปอดติดอันดับ Top 10
วันนี้เน้นความรู้นิดนึง ตึงๆหน่อย อาจจะไม่ค่อยสนุก เพราะอยากให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้องไว้ตัดสินใจจะได้ไม่พลาด เสียเวลาหลงทางไปครับ :)
ขอบคุณที่อ่านจบครับ
โฆษณา