16 มี.ค. 2019 เวลา 14:30 • ปรัชญา
"ผม" สนทนากับ "คนบ้า"
วันนี้ผมมีโอกาสได้สนทนากับคนที่เรียกตัวเองว่า"คนบ้า"
ผม : คุณคือคนบ้ารึครับ?
คนบ้า : ใช่แล้ว เราคือคนบ้า
ผม : ทำไมท่านจึงคิดว่าตัวเองบ้า?
คนบ้า : ก็ข้าไม่เหมือนคนส่วนใหญ่บนโลกนะซิ
ผม : บ้านของคุณอยู่ไหนครับ?
คนบ้า : บ้านเหรอ ข้าขอถามเจ้าก่อน บ้านของเจ้าล่ะเป็นยังไง กระท่อม ตึกแถว คอนโด หรือ คฤหาสถ์?
ผม : เป็นแค่ตึกแถวหลังหนึ่งครับ ก็ไม่ใหญ่มากครับ
คนบ้า : บ้านของเจ้าคงเล็กกว่าข้าแน่ๆ
ผม : แล้วบ้านของท่านใหญ่มากแค่ไหนครับ
คนบ้า : กว้างใหญ่มากๆ โลกทั้งใบคือบ้านของข้า ข้ามีไฟฟ้าคือแสงอาทิตย์และแสงจันทร์ มีน้ำประปาคือน้ำฝนและแม่น้ำ ข้ามีอ่างอาบน้ำที่ใหญ่มโหฬารคือแม่น้ำทุกที่ บางคราข้าก็อาบน้ำด้วยน้ำจากฝักบัวนั้นก็คือน้ำฝน สวนสาธารณะทุกแห่งก็คือสวนหน้าบ้านของข้า ข้าฟังเพลงอยู่ตลอดเวลานั้นก็คือเสียงทุกเสียงในธรรมชาติไม่ว่าจะเป็นเสียงนก เสียงสุนัขเห่า เสียงแมว เสียงฝนตก เสียงฟ้าผ่า ทุกอย่างที่ข้าพูดมาไม่ต้องใช้เงินซื้อสักบาทเดียว
ผม : แล้วท่านมีอาชีพอะไรครับ?
คนบ้า : ข้าก็รับจ้างทั่วไป เก็บของเก่าขาย หาเช้ากินค่ำ
ผม : ชีวิตของท่านก็ไม่มั่นคงนะซิครับ
คนบ้า : มั่นคงรึ? ฮ่าๆๆๆ แล้วเจ้าล่ะ มั่นคงรึยัง
ผม : ผมก็กำลังพยายามสร้างอยู่ครับ
คนบ้า : แล้วเพื่อนของเจ้าล่ะ มั่นคงรึยัง
ผม : เพื่อนของผมแต่ละคนก็กำลังพยายามสร้างอยู่เหมือนกันครับ
คนบ้า : แล้วเมื่อไหร่จะสร้างเสร็จสักทีล่ะความมั่นคงน่ะ
ผม : ก็คงต้องใช้เวลาเหมือนกันครับ
คนบ้า : ความมั่นคงในความหมายของเจ้าคืออะไรล่ะ
ผม : ก็คงอยู่ในจุดที่เราไม่ต้องพะวงถึงเรื่องการเงินมั้งครับ
คนบ้า : แต่ทำไมข้าก็ยังเห็นมนุษย์ทั่วไปที่ร่ำรวยมหาศาลก็ยังหน้าดำคร่ำเครียดอยู่กับการหาเงินอยู่เลย ส่วนข้ามีน้อยใช้น้อย มีมากก็ใช้น้อย ทำแค่นี้ข้าก็รู้สึกว่าข้ามั่นคงทางการเงินแล้ว
ผม : ก็จริงนะครับ แล้วท่านมีคู่ครองไหมครับ
คนบ้า : ฮ่าๆๆๆ ข้าอยู่เป็นโสดตัวคนเดียวก็สบายๆอยู่แล้ว เรื่องอะไรที่ข้าต้องสร้างความสัมพันธ์ต่างๆให้ใจของข้ามันหนักขึ้นมาด้วยล่ะ มีเมียข้าก็ต้องคอยเป็นห่วงเมีย เกิดเมียข้าเจ็บป่วยเป็นอะไรขึ้นมา ข้าก็ต้องเศร้าโศกเสียใจอีก ยิ่งถ้าข้าเกิดมีลูก ข้าก็ยิ่งต้องคอยเป็นห่วงลูก เกิดลูกข้าเจ็บป่วยเป็นอะไรขึ้นมา ข้าก็ต้องเป็นทุกข์ไปอีก ข้าอยู่เป็นโสดตัวคนเดียวไม่ต้องคอยเป็นห่วงใคร และไม่ต้องทุกข์เพราะใครไม่ดีกว่ารึ
ผม : แล้วท่านไม่คิดออกบวชหรือครับ
คนบ้า : ออกบวชรึ ข้าก็ออกบวชอยู่นี่ไง
ผม : แต่ท่านไม่เหมือนพระเลย?
คนบ้า : พระคืออะไร โกนหัว ห่มผ้าเหลืองรึ แล้วทุกวันนี้คนที่โกนหัว ห่มผ้าเหลืองแต่เป็นโจร ค้ายา กินเหล้าเมายา เจ้าเรียกว่าพระรึเปล่าล่ะ ข้าบวชเป็นพระ แต่บวชที่ใจ ไม่ใช่บวชที่กาย
ผม : ผมสนทนากับท่านในวันนี้ ทำให้ผมคิดว่า ท่านไม่ได้เป็นคนบ้าอย่างที่ท่านบอก แต่ท่านอาจเป็นคนปกติมากกว่าคนทั่วไปด้วยซ้ำ
คนบ้า : ฮ่าๆๆๆๆ
ผม : ถ้างั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ว่าแต่ท่านจะไปที่ไหนต่อครับ
คนบ้า : เจ้าอย่าลืมซิ บนโลกใบนี้คือบ้านของข้า ทุกที่ๆข้าจะไปก็คือบ้านของข้า พวกมนุษย์นี้แปลกคน ชอบแบ่งแยกสถานที่ต่างๆให้ออกจากกัน บ้านคือที่พักอาศัย พอจะทำงานก็ต้องเดินทางไปที่บริษัท พอจะหาความสุขก็ต้องเดินทางไปที่ห้างสรรพสินค้า พออยากได้ความสงบก็ต้องไปที่วัด แต่สำหรับข้า ที่ๆข้ายืนอยู่ ณ ตรงนี้ มันสามารถเป็นได้ทั้งที่พักอาศัย ที่ทำงาน ที่หาความสุข และยังเป็นที่ๆข้าสามารถหาความสงบก็ยังได้
ผม : ผมอยากเป็นอย่างท่านจังเลยครับ ผมรู้สึกว่าถ้าผมเป็นอย่างท่าน ชีวิตของผมคงมีความสุขและมีอิสระกว่านี้แน่ๆเลยครับ
คนบ้า : ถ้าเจ้าอยากเป็นอย่างข้า หรืออยากเป็นอย่างคนนั้นคนนี้ เจ้าก็ยังไม่มีทางพบกับความสุขและความอิสระแน่ๆ แต่ถ้าเจ้าไม่อยากเป็นอย่างข้า หรือไม่อยากเป็นอย่างใคร ไม่อยากเป็นอะไรกับอะไรทั้งนั้น เจ้าก็จะพบกับความสุขและความอิสระ
ผม : ขอบคุณครับ
คนบ้ายิ้มเล็กน้อยก่อนเดินจากไปด้วยความสุข โดยที่คนปกติอย่างเราๆคงได้แต่อิจฉา
"มนุษย์เขียน"
โฆษณา