17 มี.ค. 2019 เวลา 02:16 • ไลฟ์สไตล์
ผู้ชายเลือก ผู้หญิงยังไง
"เรียนคุณผู้หญิง
ผมจะขอตอบสิ่งที่คุณอยากรู้ตามความเป็นจริง และผมเชื่อว่าผู้ชายจำนวนไม่น้อย
(ร้อยละ 90) ก็คิดเช่นนี้ อย่างไรก็ดี (ไหนๆ ก็ไม่ได้รักษาภาพพจน์แล้ว)
ผมไม่อยากให้คุณตัดสินว่า “อะไรถูก - อะไรผิด” และทำไมความคิดของผู้ชายถึงต่างจากคุณ
แต่อยากให้คุณเข้าใจว่าธรรมชาติของผู้ชายเป็นอย่างไร
สิ่งที่ผู้ชายสนใจในตัวผู้หญิงแบ่งออกเป็น 3 เรื่องใหญ่ ๆ คือ
(1) กามารมณ์
2) ความรัก
(3) ความนับถือ
ทั้ง 3 ส่วน “แยกจากกัน” แต่สัมพันธ์กัน ผู้ชายจะตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่มีคุณสมบัติครบทั้งสามส่วนมาเป็นภรรยา(***ส่วนอาจต่างกันไปสำหรับผู้ชายแต่ละคน) ส่วนผู้หญิงที่มีคุณสมบัติไม่ครบจะเป็นแค่ทางผ่าน
1. สิ่งแรกที่ผู้ชายสนใจ คือ “กามารมณ์” (รูป-เสียง-กลิ่น-รส-สัมผัส) อันนี้เป็นด่านแรกที่ผู้ชายสนใจ ผู้ชายทุกคนจะเริ่มที่จุดนี้ ลองสังเกตดู
ก่อนอื่นผู้ชายจะสนใจผู้หญิงที่สวย น่ารัก รูปร่างหน้าตาดี ผิวพรรณดี แต่งตัวดี (เรื่องของรูปทั้งหลายที่ผ่านทางตา) พูดจาไพเราะ เสียงหวาน เสียงออดอ้อน(เรื่องของเสียงทั้งหลายที่ผ่านทางหู) กลิ่นกายหอมยวนใจ (เรื่องของกลิ่นที่ผ่านทางจมูก) ความสุขจากการกอดจูบ มีเพศสัมพันธ์
(เรื่องของสัมผัสทั้งหลายที่ผ่านทางกาย) ที่ผู้ชายพูดกันเล่น ๆ ว่า “ขาว สวย หมวย sex” นั่นแหละ (***ส่วน - ทางกาย 40%
- ทางตา 40% - ทางหู 15% - ทางจมูก 5%) สำหรับเรื่อง sex นี่ถึงจะพิสูจน์ไม่ได้แต่ก็จินตนาการได้ และเป็น “แรงจูงใจ”
ที่ทำให้ผู้ชายทั้งหลายตามตื้อตามจีบคุณอยู่ทุกวันนี้ (ตราบใดที่ 40% นี้ยังไม่ประสบความสำเร็จ แรงจูงใจจะยังคงมีต่อไป ไม่ละความพยายาม...)
อย่างไรก็ดี แม้กามารมณ์จะเป็น “อันดับแรก” ที่ผู้ชายสนใจ แต่กลับเป็น “อันดับสุดท้าย” ในการตัดสินใจเลือกผู้หญิงที่จะขอแต่งงาน
คุณผู้หญิงเคยสังเกตไหม มีผู้ชายจำนวนไม่น้อยที่ไปเที่ยวผู้หญิง แต่ไม่เคยมีสักคนที่คิดจะจีบหรือขอหญิงที่เที่ยวมาเป็นภรรยา
(ยกเว้นจีบเพื่อกินฟรี) ทั้งๆที่ผู้หญิงเหล่านี้เจนจัดในการสนองกามารมณ์ของผู้ชาย
แถมหากผู้ชายรู้ว่าแฟนของตนผ่านเรื่องพรรค์นี้มากลับเป็นเรื่องใหญ่! หรือคงจะเห็นได้บ่อย ๆ
ที่เป็นแฟนกันแล้วผู้หญิงถูกทิ้งหลังจากเสียตัวให้ฝ่ายชาย (อาจทิ้งทันทีหรือรอสักระยะจนเบื่อ)
เพราะฉะนั้นผู้หญิงคนไหนที่คิดว่าตัวเอง “ไม่สวย” ไม่ต้องเสียใจเลยครับ
การที่ผู้ชายสักคนจะมาชอบคุณอาจต้องอาศัยเวลาหน่อยกว่าจะมองเห็นคุณสมบัติในด้านอื่นๆ แต่ถ้าเขารักคุณด้วยเหตุผลอื่นที่เหนือกว่า
คุณกลับมีโอกาสสูงที่จะได้เป็น “ภรรยา” ไม่ใช่ “คู่นอน” และไม่ต้องถูกทอดทิ้งในภายหลัง
ความเข้าใจผิดประการหนึ่งของผู้หญิงสมัยนี้ คือความคิดที่จะผูกมัดผู้ชายด้วย “sex”
กลัวเขาจะทิ้งหากไม่ยอม ผมกล้าพูดได้เต็มปากชนิด100% เลยว่า
“ถ้าผู้ชายคนไหนบอกว่าจะทิ้งคุณไปเพราะเหตุว่าคุณไม่ยอมมีอะไรกับเขาผู้ชายคนนั้นกำลังหลอกคุณและเขาหวังเฉพาะเรือนร่างของคุณโดยไม่ได้รักคุณเลย!!!!!”
จริงอยู่กามารมณ์เป็นสิ่งที่ผู้ชายต้องการ แต่ไม่ใช่สิ่งที่สามารถผูกมัดผู้ชายไว้ได้
เขาจะมีคุณคนเดียวหรือมีผู้หญิงอื่นอีกเท่าไหร่ก็ได้เพราะไม่เกี่ยวกัน (ชอบกินส้ม ไม่ได้หมายความว่าจะไม่กินทุเรียน น้อยหน่าฯลฯ)
กามารมณ์เป็นสิ่งที่จากไปได้เร็วกว่าคุณสมบัติอื่น ๆ (มาก่อนก็ไปก่อน)
คนที่สวยกว่ายังมี อายุมากขึ้นก็สู้สาว ๆ ไม่ได้แล้ว หรือพอเคยชินเข้าก็เบื่อ
นอกจากนี้ “แรงจูงใจที่ได้รับการตอบสนองแล้วจะไม่สามารถใช้จูงใจได้อีก”
ดังนั้น ถ้าผู้หญิงรู้จักใช้แรงจูงใจทาง sex ที่ยังไม่ได้รับการตอบสนองของผู้ชายให้เป็นประโยชน์
ดึงให้ผู้ชายผ่านระยะเวลาจนมีพัฒนาการทางด้าน (2)ความรัก และ (3)ความนับถือเรื่อยไปจนถึงการแต่งงาน จึงจะนับว่าเป็นผู้หญิงฉลาด ไม่ต้องเสียคนรักไปในภายหลัง( ถ้าจะเสียก็เสียผู้ชายเลว ๆ
ที่ไม่ได้รักเราจริง
แต่ไม่ต้องเสียตัวเสียใจเมื่อวันนึงเจอผู้ชายดี ๆ ที่รักเราจริงและเราต้องเป็นแม่ของลูกเขา)
2
2. สิ่งต่อไปที่ผู้ชายต้องการจากผู้หญิงคือ “ความรัก”
ความรักหมายถึงการเข้าอกเข้าใจ ความเป็นห่วงเป็นใยเอื้ออาทร การพูดคุยกันรู้เรื่อง
ฯลฯ ที่เป็นเรื่องของจิตใจล้วนๆ แบบเดียวกับที่ผู้หญิงรักผู้ชายนั่นแหละ ไม่ต่างกัน
ความรักจะมีอิทธิพลในระดับสูงกว่ากามารมณ์ที่กล่าวถึงในตอนต้น
แต่สำหรับผู้ชายการที่จะพัฒนาความสัมพันธ์จนกลายเป็นความรักจะช้ากว่าผู้หญิงเพราะมัวไปหลงด้านกามารมณ์ซะมาก(ที่บอกว่ารักก็อิงกับกามารมณ์ไม่ใช่รักแบบที่ผู้หญิงคิด) จนเมื่อเวลาผ่านไป
ผ่านอุปสรรคความยากลำบากต่าง ๆ มีการพิสูจน์ใจกัน มีการมุ่งมั่นสร้างหลักฐานเก็บเงินแต่งงาน สร้างอนาคตพิสูจน์ตัวเองให้พ่อ-แม่ฝ่ายหญิงยอมรับ ฯลฯ จึงเกิดเป็นความรัก
ผู้หญิงสมัยนี้ชอบเสียท่าผู้ชายก่อนที่ผู้ชายจะเกิดความรักจริง ๆ จึงต้องเสียใจที่ถูกทิ้ง
ที่จริงแล้วคนสมัยก่อนเขามีกุศโลบายให้ผู้หญิงรักนวลสงวนตัว ให้ผู้ชายอดทนทำงานเก็บเงินมาสู่ขอ ก็เพื่อพัฒนาตรงจุดนี้
เพราะมันต้องใช้เวลาและผ่านความยากลำบากมาจึงจะเกิดความรักแบบนี้ได้
(สำหรับผู้ชาย) ก็ไปหาว่าหัวโบราณบ้าง ไม่ทันสมัยบ้าง ที่จริงคนสมัยนี้ยิ่งเรียนก็ยิ่งโง่
แล้วก็มานั่งเสียใจไม่รู้ว่าชีวิตทำไมมีแต่ปัญหา
อีกเรื่องที่ไม่ค่อยยุติธรรมคือ ส่วนใหญ่ผู้ชายที่รักผู้หญิงจริงชนิดหมดหัวใจกลับไม่ค่อยกล้าที่จะบอกหรือแสดงว่ารัก ส่วนผู้ชายที่ปากหวาน บอกรัก กลับเป็นผู้ชายประเภทเจ้าชู้ที่ผ่านผู้หญิงมามาก (และจะผ่านต่อไป)สาเหตุก็คือ ผู้ชายที่รักเดียวใจเดียวจะไม่ค่อยสันทัดกับการจีบผู้หญิงและไม่ค่อยมีประสบ
การณ์ทางด้านนี้ กลัวว่าหากทำอะไรผิดพลาดอาจสูญเสียคนที่ตนรักไป ในขณะที่ผู้ชายเจ้าชู้จะมีประสบการณ์มามากในการจีบผู้หญิงรู้ว่าจะต้องพูดอย่างไร และถึงจีบไม่สำเร็จก็ไม่กลัวเพราะไม่ได้รักอะไรมากมาย
1
... แต่เชื่อไหม? ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับมองไม่ออกว่าผู้ชายคนไหนที่รักจริง (รำคาญด้วยซ้ำ) ชอบแต่จะฟัง “คำพูด” แค่บอกว่ารักก็เชื่อสนิท...
เสร็จเสือผู้หญิง!
3. สิ่งต่อไปคือ “ความนับถือ” หรือ “ความดี”
ผู้ชายต้องการให้ผู้หญิงวางตัวในลักษณะเป็นที่น่านับถือเกรงใจหรือพูดง่าย
ๆ คือ “เป็นคนดี วางตัวเหมาะสม”> ผู้ชายส่วนใหญ่จะชอบผู้หญิงที่อ่อนหวาน
เรียบร้อย รักนวลสงวนตัว ให้เกียรติและมีความซื่อสัตย์ต่อสามี และมีวุฒิภาวะทางอารมณ์สูง
(ไม่จู้จี้ขี้บ่น ไม่หึงหวงแบบไร้เหตุผล ไม่ทำตัวหวาดระแวงเป็นนักสืบ ฯลฯ)
อย่างเช่นผู้ชายแอบไปมีเมียน้อยหรือเที่ยวผู้หญิง (อย่างที่กล่าวข้างต้น กามารมณ์กับความรักสำหรับผู้ชายเป็นคนละส่วนกันผู้ชายทุกคนชอบดูรูปโป๊แต่ไม่เคยจำหน้าผู้หญิงในรูปได้) แต่จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่วางตัวเหนือกว่าทางด้านวุฒิภาวะ ลองผู้หญิงนิ่งๆ รู้ทันแต่ไม่เอะอะโวยวายดูสิ ขี้คร้านผู้ชายจะเกรงใจไม่กล้าทำอีก...
เรื่องความดีหรือความนับถือนี่เป็นสิ่งที่สำคัญ “มากที่สุด” ที่ผู้ชายอยากได้หญิงบริสุทธิ์มาเป็นภรรยาก็เพราะมันมีส่วนสัมพันธ์กับความดี
ไม่ใช่เห็นแก่ตัวอย่างที่ผู้หญิงคิดกัน (แต่ทางกามารมณ์ก็มี อยากได้ของใหม่ ๆสะอาด กระชับ ได้อารมณ์ และเป็นของเราคนเดียวไม่ใช้ร่วมกับใคร)
อย่างน้อยก็มั่นใจได้ว่าไม่ใช่ผู้หญิงใจง่ายหรือมีพฤติกรรมไม่เหมาะสม (ก็ขนาดพ่อแม่รักจะตายยังขาดความยับยั้งชั่งใจแอบหนีไปมีอะไรกับใครได้
จะมั่นใจได้ยังไงว่าต่อไปจะไม่แอบไปมีชู้)
ผู้ชายที่หลอกฟันหญิงบริสุทธิ์แล้วทิ้งก็เพราะเขาไม่คิดว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนดีที่น่านับถืออีกต่อไป (ผู้หญิงดี ๆ ที่เป็นหม้ายเพราะสามีตาย
ยังน่าขอแต่งงานด้วยมากกว่าผู้หญิงโสดที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม)อย่างไรก็ตามผู้หญิงคนไหนที่ชีวิตผิดพลาดไปแล้วขอให้หยุดแค่นั้น
อย่าให้เกิดขึ้นอีก(ถ้าคุณเป็นคนที่ดีจริง ๆ เขาจะอภัยให้คุณ แม้จะเสียใจลึกๆ)
คุณลองดูคู่แต่งงานที่อยู่กินกันมานาน ดูคุณพ่อคุณแม่คุณก็ได้ ทุกวันนี้เขายังหวานแหววแบบหนุ่มสาวไหม เมื่อเวลาผ่านไป
ความสำคัญทางกามารมณ์ลดลง
ก็จะมี “ความรัก” และความนับถือหรือ “ความดี” นี่แหละที่จะทำให้อยู่กันไปได้ตลอด
3
ที่เขียนมาทั้งหมดก็หวังจะให้เป็นวิทยาทานแก่คุณผู้หญิงทั้งหลายนะครับ(คุณผู้หญิงคงจะอ่านไปด่าไปที่ผู้ชายมีความคิดสกปรกเห็นแก่ตัวแบบนี้)
สำหรับตัวผมเองเป็นผู้ชาย อยู่ในสังคมของผู้ชาย ย่อมเข้าใจนิสัยของผู้ชายดี
ก็อยากให้ผู้หญิง (ที่พอจะรับฟังในสิ่งที่ผมพูด) มีความสุขสมหวัง ไม่ต้องเสียอกเสียใจ และพบกับปัญหาชีวิตคู่ (แบบว่าเห็นมามาก)
ยังไงก็ตามอ่านแล้วก็อย่านึกด่าผมนะครับ เพราะตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยทำให้ผู้หญิงคนไหนเสียใจ...
ทิ้งท้ายคาถาให้บทหนึ่ง ***
ขอให้เป็นกุลสตรีที่รักนวลสงวนตัววางตัวเหมาะสมเรียบร้อย(เขาจะขอคุณแต่งงาน) แต่เป็นสาวเร่าร้อนแรงสูงเวลาอยู่บนเตียง(เขาจะได้ไม่ไปหาหญิงอื่นเพื่อชดเชย)
***
... นี่คือผู้หญิงอันดับ 1 เลยครับที่ผู้ชายทั้งหลายใฝ่ฝัน...
ต้องรู้จักเวลา เรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น อย่าเอามาปนกัน "
เครดิต. Mr.Aon
โฆษณา