17 เม.ย. 2019 เวลา 10:43 • การศึกษา
เจาะจิตอาชญากร(ฉบับเต็ม)
การเป็นอาชญากรนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่ใครๆก็สามารถเป็นกันได้ เพราะอาชญากรทุกคนล้วนมีที่มาอันน่าเจ็บปวด...
หลังจากได้มีโอกาสอ่านบทความของคุณ
"red diary" ทำให้ผมซึ่งสนใจกับเรื่องคดีเเบบนี้อยู่เเล้ว สนใจขึ้นไปอีก ในก่อนหน้านี้ได้มีโอกาสเขียนเจาะจิตอาชญากรไปเเล้ว เเต่เป็นภาคเเยก วันนี้ผมจึงนำมาเรียบเรียงใหม่ ซึ่งทำเป็นบทความเดียวจบ อยากรู้ว่าการเป็นอาชญากรนั้น เป็นได้อย่างไร ติดตามเลยครับ
"เจาะจิตอาชญากร" นี้จะพาไปทำความรู้จักกับปัจจัยที่ทำให้คนๆหนึ่ง ลุกขึ้นมากลายคนเลวในสายตาของสังคม ซึ่งมีอยู่ 3สาเหตุ
1. พันธุกรรม
2. ปัญหาทางด้านสมอง
3. ประสบการณ์
1. พันธุกรรม...
หลายคนอาจจะสงสัยกันเเล้วว่า "ฮ่ะ!!...อะไรนะ การเป็นอาชญากรเป็นมาตั้งเเต่ยีนเลยหรือ...?"
เเต่ถ้าถามอย่างนั้นก็ไม่ถูกเลยเสียทั้งหมด เพราะเป็นเพียงต้นเหตุเฉยๆ หากไม่ประกอบกับอีก2ปัจจัยที่กล่าวมาก็จะไม่มีปัญหาอะไร...
ทีมนักวิจัย จากมหาวิทยาลัย
Florida State University,มหาวิทยาลัยไอโอ
เเละมหาวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ ได้ทำการวิจัยยีน เผยให้เห็นว่า ผู้ที่เป็นอาชญากร มีจำนวนยีน
#monoamine oxidase A หรือ(MAOA) โดยมีชื่อเล่นว่า "ยีนนักรบ" (Warrior gene) ในจำนวนที่มาก
โดยยีนชนิดนี้จะพบได้ 1ใน100 คน ลักษณะการเเสดงออกของยีนชนิดนี้คือ ชอบความเสี่ยงท้าทาย หรือทดลองสิ่งใหม่ๆที่้ป็นอันตราย เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง
งานวิจัยเผยว่า ผู้ชาย 30%มียีนนี้อยู่ เเละผู้ชายจะมีมากกว่าผู้หญิง
ทั้งนี้ตามที่ได้กล่าวมาเเล้วว่า เหตุปัจจัยการมียีน"นักรบ"เป็นเพียงส่วนหนึ่งที่ทำให้ผู้ที่มียีนนี้มีโอกาสเป็นอาชญากรได้มากขึ้น
เเต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งตัดสินว่าจะเป็นต้องเป็นกันทุกคน เพราะคนที่มียีนเหล่านี้ เพียงเเต่ชอบความเสี่ยงเท่านั้น เเต่หากขาดอีก2ปัจจัยคือ ปัญหาด้านสมอง กับ ประสบการณ์เลวร้ายในชีวิตที่ได้พบเจอ ก็หมดห่วง เพียงเเต่ต้องรู้จักควบคุมอารมณ์ เเละระมัดระวังตัวเองเท่านั้น
ชมวิดีโอเพื่อเข้าใจยีนนักรบมากขึ้นครับ
จากปัจจัยเเรกตอนนี้เราจะพูดถึงปัจจัยที่2 ของการเป็นอาชญากร
🚩ปัจจัยที่2 นี้คือ ความปกพร่องทางสมอง
อาจเเบ่งได้2กรณี คือ
-ผิดปกติเเต่กำเนิด
-ผิดปกติจากสิ่งเเวดล้อม
⏩เเล้วสมองส่วนไหนที่ผิดปกติ...?
#ส่วนนั้นคือ Obitofrontal cortex หรือ(OFC)
ซึ่งสมองส่วนนี้ทำหน้าที่ : ตัดสินใจ ยับยั้งชั่งใจ ควบคุมอารมณ์ การใช้ตรรกะเหตุผล รวมถึงการจินตนาการ สมองส่วนนี้นี่เองที่ทำให้มนุษย์เเตกต่างโดยสิ้นเชิงจากสัตว์
Obitofrontal cortex หรือ(OFC)
⏩ซึ่งจากการวิจัยพบว่า สมองส่วนนี้ของอาชญากร ส่วนใหญ่มีขนาดเล็ก หรือพัฒนาไม่สมบูรณ์ ซึ่งทำให้เขาไม่อาจยับยั้งชั่งใจได้ ตัดสินใจโดยใช้อารมณ์เป็นหลัก
สมองส่วนนี้อาจเจริญผิดปกติมาเเต่กำเนิดหรืออาจได้รับการกระทบกระเทือนจากภายนอก ก็จะทำให้ได้รับผลกระทบได้เช่นเดียวกัน
⏩ซึ่งในกรณีภายนอกต้องนับว่า เป็นเรื่องของสังคมเป็นซะส่วนใหญ่ เช่น การเสพสารเสพติด ควันบุหรี่ ขาดสารอาหาร
⏩ทั้งนี้สมองของมนุษย์สามารถยืดหยุ่นไม่จีรัง สามารถซ่อมเเซมได้หากอยู่ในปัจจัยที่ดีพอ อย่างเช่น อาชญากรที่ได้รับการดูเเลให้อยู่ในสภาพ
เเวดล้อมที่ปกติก็สามารถกลับมาเป็นคนปกติได้
#นั่นหมายความว่าอะไร...หมายความว่าหากเราขาดปัจจัย อยู่ในสภาพเเวดล้อมที่สุ่มเสี่ยง หรือไม่ใช้สมองคิดยับยั้งตัวเองจากอารมณ์ก็ทำให้การตัดสินใจลดลง เป็นประหนึ่งอาชญากรได้เช่นกัน
⏩สมองอีกส่วนที่เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยคือ (Amygdala)
"Amygdala" เป็นสมองส่วนที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการรับรู้ อารมณ์ต่างๆ สมองส่วนนี้ของอาชญากรที่โหดเหี้ยมอำมหิตจะมีส่วนนี้น้อย เนื่องจากไม่สามารถรับรู้อารมณ์ของอีกฝ่ายได้
1
⏩อาชญากรประเภทที่น่ากลัวที่สุดคือ กลุ่มฆาตกรต่อเนื่อง (Serial killer) พวกนี้จะมีIQที่สูงกว่าคนปกติ 97% ของโลก กล่าวคืออยู่ในระดับอัจฉริยะ พวกนี้เข้าสังคมได้เก่งมากเเต่ไม่ได้เข้าเพื่อต้องการเพื่อนเเต่เพื่อเป้าหมาย ที่น่ากลัวอีกอย่างพวกนี้มักหว่านเสน่ห์เก่ง เขาสามารถเเปลงอารมณ์ของตัวเองเป็นอะไรก็ได้
ยกตัวอย่างฆาตกรต่อเนื่องที่โด่งดังไปทั่วประเทศจีน
หยาง ซินไห่
เขาชื่อ หยาง ซินไห่ เป็นฆาตกรต่อเนื่องชาวจีน เขาฆ่าคนไปถึง 67ศพ เมื่อเขาถูกจับคำพูดที่กล่าวต่อสาธารณะคือ...
้ "เมื่อผมฆ่าคน มันทำให้ผมเกิดความปรารถนา(ที่จะฆ่าอีก) นี่เป็นแรงบันดาลใจให้ผมฆ่าต่อไป ผมไม่สนหรอกว่าพวกเขาควรจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหรือไม่ มันไม่เกี่ยวอะไรกับผม ผมไม่ต้องการจะเป็นส่วนหนึ่งของสังคมนี้ ผมไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับสังคม”
ซึ่งบางอย่างนักวิทยาศาสตร์ก็ยังไม่เข้าใจสาเหตุที่เเท้จริง เพราะมนุษย์เป็นสัตว์ที่มีความซับซ้อนอย่างมาก
🚩เเต่เมื่อ ทั้งสาเหตุที่ 1-2ประกอบกันก็ยังไม่เท่ากับสาเหตุที่3 เพราะคนทั้งหมดอาจเเค่ มีความรุนเเรง ชินชา ไม่คบใคร ก็เท่านั้นเเต่หากมี สาเหตุที่3ด้วยนั่นคือ ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีตพวกเขาก็พร้อมเป็นอาชญากรได้ทุกเมื่อ
🚩สาเหตุที่3 คือ
พวกเขามี "ประสบการณ์ที่เลวร้ายในอดีต"
ซึ่งเเน่นอนส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นในช่วงวัยเด็ก
เพราะเด็กจะจดจำเหตุการณ์ต่างๆได้อย่างฝังใจ
⏩เหตุการณ์ที่เป็นฉนวนเหตุเช่น พ่อเเม่ทอดทิ้ง ถูกคนใกล้ชิดกระทำชำเรา เพื่อนเเกล้งอย่างรุนเเรง อื่นๆมากมาย
เหตุการณ์เหล่านี้เมื่อผ่านเเล้ว เมื่อโตขึ้นเด็กอาจไม่เเสดงอาการ เเต่มีความฝังใจยิ่งเป็นคนที่ฉลาดมากยิ่งคิดการวางเเผนเเก้เเค้นไว้อย่างดี
งานวิจัยพบว่าช่วงเวลาตั้งเเต่1-13ปีเด็กจะซึมซับเรื่องราว ความรู้สึกต่างๆที่ผ่านมาได้ดีที่สุด นั่นหมายความว่า หากเขาได้รับความอบอุ่นที่มากพอหรือการสั่งสอนในเเบบที่ควรจะเป็น เด็กจะมีโอกาสที่จะเติบโตมาเป็นคนที่ดีต่อสังคมได้
เเต่หากไม่เป็นเช่นนั้นก็กลับขั้วกันโดยสิ้นเชิง
🚩ตัวอย่างฆาตกรชื่อ เรย์มอนด์ ทิบเบตส์
ผลการสืบสวนพบว่า นายทิบเบตส์และพี่ชายเคยถูกมัดติดอยู่บนเตียงเดียวกันในเวลากลางคืน และไม่ได้รับอาหารเท่าที่ควร อีกทั้งยังถูกโยนลงจากบันได ถูกตีด้วยเครื่องครัวที่บริเวณนิ้ว อีกทั้งยังถูกพาตัวไปจ่อกับเครื่องทำความร้อน
⏩บทสรุปสุดท้ายนี้เเสดงให้เห็นว่า ในคราบเเห่งความชั่วช้าที่เขาได้กระทำ เบื้องหลังคือคราบน้ำตาของผู้ที่เคยถูกกระทำมาก่อน
🚩ผมไม่ได้ออกมาประกาศว่าเราควร ยกเลิกการลงโทษอาชญากร เเต่เเสดงให้เห็นถึงในอีกเเง่ความคิดที่ว่า พวกเค้าเป็นอีกด้านหนึ่งของสังคมที่สะท้อนออกมา หลายคนอาจคิดว่าสังคมปัจจุบันนั้นดี เเต่ความจริงไม่ใช่ ยังมีด้านมืดของความรุนเเรง สิ่งโสมมอาศัยอยู่ตามซอกหลืบ เราทุกคนควรเห็นได้เเล้วว่า "พวกเค้าคือภาพสะท้อนสังคมอันน่าดีงามนี้"
-เเอดมินออกมาต่อต้าน ความรุนเเรงต่อผู้หญิงเเละเด็ก รวมถึงทุกคน สิ่งเหล่านั้นไม่ควรเกิดขึ้นกับผู้ใด....
🚩ในโลกนี้ไม่มี"คนเลว" มีเเต่คนที่"ตัดสินใจทำทำความเลว" พระอาจารย์พรหม...
หากชอบบทความของเเอด ก็อย่าลืมกดติดตามเป็นกำลังให้กันนะครับ
โฆษณา