10 พ.ค. 2019 เวลา 08:52 • บันเทิง
กาลเวลาหนึ่งที่บุคคลต้องการครองตนอยู่ใน “ความเรียบง่าย” ใช้ของแบรนด์หรูได้ไหม
คงเป็นคำถามที่คนหลายคนคงมีคำถามต่อตนเอง หรืออยากถามชาวมินิมอลลิสต์
จากการที่กาลเวลาหนึ่งได้ศึกษาแนวคิดของชาวมินิมอลลิสต์ เช่น Joshua becker, Marie Kondo, Fumio Sasaki และท่านอื่นๆ ก็พูดถึงเรื่องชาวมินิมอลลิสต์เน้นของที่มีคุณภาพมากกว่าจำนวนของที่มี
แบรนด์หรูที่เรามักเห็นได้ดาษดื่นคงจะเป็น กระเป๋า นาฬิกา เสื้อผ้า พอดีลงทุนแมนเขียนถึงกระเป๋าแบรนด์หรูเลยจุดประกายให้นึกถึงคำถามนี้ที่ผู้คนมักมีคำถามที่ว่า
”หากคนที่ครองตนอยู่ใน “ความเรียบง่าย” ใช้ของแบรนด์หรูได้ไหม?” หากยึดตามแนวคิดชาวมินิมอลลิสต์ที่เอ่ยข้างต้น คำตอบคือ ”ใช้ได้คะ” ให้คำนึงถึงคุณภาพ มากกว่าปริมาณ แต่ไม่ได้พูดถึงเรื่องราคานะคะ ซึ่งของเหล่านั้นก็ราคาแพงอยู่ ซึ่งของแพงไม่ได้ต้องมีคุณภาพเสมอไป เพียงแต่ของแพงแค่มีโอกาสสร้างของที่มีคุณภาพได้มากกว่า เพราะมีทุนทางการเงินที่ดีกว่า แต่บ่อยครั้งในกาลเวลาหนึ่งนี้ บางอย่างแพง แต่ด้อยคุณภาพและขาดประโยชน์ใช้สอย สรุปง่ายๆ คือ ของสิ้นเปลือง ดังนั้นคนที่ต้องการความเรียบง่ายเป็นแกนการใช้ชีวิต คงไม่ใช่เรื่องของการถกเถียงกันว่าจะเป็นแบรนด์หรูหรือไม่ แต่เป็นการถกเถียงกันระหว่าง คุณภาพกับปริมาณของที่มี ของที่สะสมไว้ต่างหากคะ
แต่ปัจจุบันคนเราดูห่างไกลความเรียบง่ายมากกันขึ้นเหลือเกินในกาลเวลาหนึ่งนี้ เพราะนอกจากคนจะชอบใช้แบรนด์หรูไม่ใช่เพียงเพราะต้องการคุณภาพให้ใช้ของ 1 ชิ้น ใช้ทรัพยากร 1 อย่างให้นานที่สุด แต่ปัจจุบันลัทธิบริโภคนิยม ผลักดันให้ผู้คนนอกจากจะต้องการใช้แบรนด์หรูแล้ว ยังต้องมีให้มากๆๆๆๆๆ...ชิ้นอีกด้วย เพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกัน
ขอขอบคุณข้อมูลจากลงทุนแมนที่โพสต์กาลเวลาวันนี้ วันที่ 10 พ.ค. 2562
ยืนยันได้จากมูลค่าการขายของสินค้าแบรนด์เนมดังเหล่านี้ ที่ลงทุนแมนเอามาสรุปไว้อย่างน่าสนใจ รวมกันทุกแบรนด์ โอ้โห!!! มีมูลค่ารวมกันเป็นนับล้านๆบาท ต่อปีนะคะ หลายปีก็คูณกันต่อเนื่องไปคะ...
เมื่อมาพิจารณาจำนวนประชากรบนโลกก็ไม่ใช่คนส่วนใหญ่ที่มีโอกาสครอบครองกระเป๋าแบรนด์เนมเหล่านี้ มีเพียงคนไม่กี่เปอร์เซ็นต์เท่านั้น
นั่นหมายความว่า คนกลุ่มน้อย ได้ครอบครองกระเป๋าแบรนด์เนมนี้ คนละหลายๆใบ มากน้อยสุดแต่ความชอบและฐานะทางเศรษฐกิจ
กาลเวลาหนึ่งนี้ ไม่ได้ขอให้เราท่าน ถกเถียงกันว่าถูกหรือผิดที่จะมีแบรนด์เนม หากต้องการครองตนอยู่ในความเรียบง่าย
แต่ย้อนกลับมามองตัวเราเองว่า เรามีของเหล่านี้ในครอบครองมากเกินจำเป็นหรือไม่ ถ้ามีมากความเรียบง่ายก็จะเกิดยาก ถ้ามีน้อยความเรียบง่ายจะเกิดง่ายกว่า แต่ถ้าไม่ยึดติดแบรนด์เนม งดสะสม หรือลดสะสม คงแต่เห็นคุณค่าจากคุณภาพที่คงทน กาลเวลาหนึ่งนั้นก็จะเห็น “ความเรียบง่าย” ให้เกิดในจิตใจได้มากขึ้นเช่นกัน
ไปสำรวจกันดูนะคะ ว่าเรายึดติดแบรนด์เนมเป็นสรณะไหม จนมันรบกวนจิตใจฝั่งเรียบง่าย อีกทั้งขอให้พิจารณาว่าเราสะสมจนเกินกำลังทั้งทางการเงิน (บางคนยอมเป็นหนี้สินเพื่อสะสมของเหล่านี้) หรือรบกวนพื้นที่จัดเก็บไหม (บางคนต้องยัดของในตู้ ใช้คำว่ายัดนะคะ ไม่ใช่วาง มันแน่นจริงๆคะ) แล้วหาสมดุลที่เหมาะสม ว่าฐานะ พื้นที่จัดเก็บ และที่สำคัญที่สุด คือ ความจำเป็น เมื่อหาดุลยภาพได้แล้ว “ความเรียบง่าย” จะเกิดขึ้นในกาลเวลาหนึ่งนั้นทันทีคะ
กาลเวลาหนึ่งของตัวฉันก็พยายามลด ละ เลิก ให้พอดีเช่นกัน เพื่อหวังว่าชีวิตกาลเวลาหนึ่งในอนาคตจะเรียบง่ายขึ้นในทุกๆวัน
ขอขอบคุณข้อมูลจาก “ลงทุนแมน” อีกครั้งที่ให้ทั้งข้อมูล ภาพ และจุดประกายคำถามที่เคยได้รับจากหลายๆคนให้มาเขียนหัวข้อในกาลเวลาหนึ่งนี้ #ลงทุนแมน #blockdit
โฆษณา