15 มิ.ย. 2019 เวลา 13:37
"ความจริงที่ควรรู้"... สำหรับผู้ที่สนใจอาชีพนักบิน
ตั้งใจมานานแล้วครับว่าจะเขียนบทความนี้เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องสำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นนักบิน...เป็นข้อความง่ายๆบนความจริงไม่แต่งเติม
ใส่ความรู้สึกใดๆ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจได้ง่ายมากที่สุด
อยากให้อ่านทำความเข้าใจ โดยเฉพาะข้อที่สำคัญที่สุดที่ผมอยากให้ทุกคนได้เข้าใจว่า
แท้ที่จริงแล้วนักบินขาดแคลนจริงหรือ??
เริ่มจาก..ต้องเรียนอะไรถึงจะได้เป็นนักบินพาณิชย์?
ผู้ที่จะเป็นนักบินมาจากสามเส้นทางนี้เท่านั้นครับ
1 เรียนจบปริญญาตรีแล้วสอบชิงทุน Student Pilot ของสายการบินต่างๆ จากนั้นสายการบินส่งไปเรียนที่
รร.การบินจนได้ Commercial Pilot License หรือ "CPL" แล้วรับมาเป็นนักบินฝึกหัด,เป็นพนักงานของสายการบินนั้นๆ
2 จบปริญญาตรีแล้วใช้ทุนส่วนตัวไปเรียนที่ รร.การบิน
จนได้ CPL จากโรงเรียนการบิน
แล้วสอบ Qualified Pilot ของสายการบินต่างๆ (ค่าเรียนประมาณ 2 ล้านกว่าบาท)
3 เรียนในมหาวิทยาลัยที่มีคณะการบิน
สำเร็จการศึกษาได้วุฒิ ป.ตรี พร้อมกับได้ใบอนุญาต CPL แล้วสอบ Qualified Pilot ของสายการบินต่างๆ(ค่าเรียนประมาณ 3 ล้านบาท)
จะเห็นว่าความเข้าใจเดิมที่หลายคนเข้าใจว่า การเป็นนักบินพาณิชย์ต้องเป็นนักบินทหารมาก่อน
เป็นความเชื่อที่ไม่จริงเสมอไป
(จริงอยู่..ในอดีตมีความร่วมมือผลิตบุคลากรการบินร่วมกันระหว่างกองทัพและบริษัทการบิน,ก็เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้น)
ฉะนั้นการเป็นนักบินพาณิชย์จึงเป็นโอกาสสำหรับทุกคนเสมอภาคกันครับ
ขอเพียงจบ ป.ตรีคณะหรือสาขาใดก็ได้
2
จะเห็นว่าหากต้องการเป็นนักบินพาณิชย์
สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ"ใบอนุญาตนักบินพาณิชย์ตรี"หรือ “CPL” ไม่ว่าจะได้ CPL มาจากการได้ทุนจากสายการบินซึ่งปัจจุบันหลายสายการบิน(ยกเว้นการบินไทย)
ผู้รับทุนเมื่อได้รับเงินเดือนจากสายการบินแล้วจึงผ่อนใช้คืนบริษัททีหลัง หรือจะลงทุนเรียนเองไม่ว่าจะเรียนที่โรงเรียนการบินหรือเรียนที่มหาวิทยาลัยที่มีสอน
**...มาถึงตรงนี้ผมอยากให้ทุกคนอ่านและทำความเข้าใจข้อมูลจากนี้ต่อไปให้ดีนะครับ...**
ความจริงก็คือ การได้ CPL มาแล้วไม่ได้หมายความว่า จะได้เป็นนักบินพาณิชย์เสมอไป…
อาจจะใช่...สำหรับผู้ที่ได้รับทุน Student Pilot … เพราะเมื่อเรียนจบได้รับใบอนุญาต CPL เรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปคือการฝึกเป็นนักบินผู้ช่วยกับเครื่องบินโดยสารไม่ว่าจะเป็น Airbus,Boeing ซึ่งหลังจากนั้นจะได้"ใบอนุญาต"ในเครื่องบินแบบนั้นซึ่งเราเรียกว่า
On Type Rating และได้เป็นนักบินพาณิชย์สมใจ
"On Type Rating" นี่แหละครับทำให้นักบินที่มี CPL หลายคนยังไม่ได้งานเป็นนักบินพาณิชย์
ปัจจุบันมีข่าวว่านักบินขาดแคลน??
ใช่ครับเราขาดแคลนนักบิน..
แต่ขาดแคลน “นักบินที่มี On Type Rating”
ล่าสุดเดือนนี้มีสายการบิน Thai Vietjet
เปิดรับนักบิน ซึ่งคุณสมบัติก็ระบุไว้ชัดเจน
ต้องเป็น "On Type Airbus 320 เท่านั้น"
(นักบินที่มีประสบการณ์กับเครื่อง A320 มาแล้ว)
คำถามต่อมา..น้องที่จบ CPL ไม่ว่าจะใช้เงินลงทุนเรียนเองหรือจบจากมหาวิทยาลัยที่เป็นคณะการบิน ทำอย่างไรถึงจะได้ใบอนุญาตที่มี "On Type Rating"
1
คำตอบคือต้องสอบ Qualified Pilot ของสายการบินให้ได้ เพราะจะว่าไปสายการบินต่างๆก็คือ รร.การบิน
ขนาดใหญ่ดีๆนี่เองครับ และแถมยังเป็น รร.การบิน
ที่สามารถให้ Type Rating ได้อีกด้วย
(นอกจากสายการบิน คงไม่มี รร.การบินไหน ลงทุนซื้อเครื่องบินแอร์บัสหรือโบอิ้งมาให้นักเรียนฝึกบินหรอกนะครับ)
ส่วนข้อแตกต่างระหว่างการสอบ Student Pilot กับ
Qualified Pilot คือ”การลงทุน”ที่ต่างกันมากครับ
ผู้ที่จะสอบ Qualified Pilot
ต้องใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมากคือ 2-3 ล้านบาท
ปัจจุบันการรับ Qualified Pilot ก็มีการแข่งขันที่สูงมาก อัตราส่วนผู้สมัครและผู้ผ่านการคัดเลือก
ไม่ถึง 10%
ว่ากันว่าก็ปัจจุบันมีตัวเลขผู้ถือใบอนุญาตใบพาณิชย์ตรี
( CPL)รอสอบเข้าเป็นนักบินพาณิชย์ของสายการบินต่างๆเกินกว่า 600 กว่าคน!
(บางส่วนก็ผันตัว เก็บ ชม.เพิ่มไปเป็นครูการบินตามโรงเรียนการบินต่างๆหรือบริษัทการบินเช่าเหมาลำ
นักบินเกษตร,นักบินฝนหลวง ซึ่งก็มีไม่มากนัก)
ทั้งหมดคือ “ความจริง” ที่ผมนำมาเล่าให้ฟัง
...และต่อจากนี้คือคำแนะนำจากผมนะครับ
แน่นอนครับ..อ่านมาถึงตรงนี้ใครๆก็คงอยากสอบทุน Student Pilot (ในกรณีที่อายุไม่เกิน 28,29 ปี)
แม้การแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่ง"การลงทุน" ก็มีเพียงการ”ลงทุนกับตัวเอง” เตรียมตัวและเตรียมพร้อม
2
สำหรับ Qualified Pilot
“ถ้าเงินจำนวน 2-3 ล้านนี้ไม่ใช่ปัญหาสำหรับท่าน”
ไม่ว่าจะใช้เงินทุนส่วนตัวเรียนเองหลังจบปริญญาตรี
หรือเรียนในคณะการบินของมหาวิทยาลัยต่างๆ
การเรียน 4 ปีในมหาวิทยาลัย กับสิ่งที่ชอบ,สิ่งที่รัก
คงมีความสุขและเป็นทางเลือกที่น่าสนใจนะครับ
และอาจจะได้เป็นนักบินที่อายุน้อยกว่าคนอื่นด้วย
1
ผมอยากให้ถามตัวเองให้ดีครับ
เรามีทางเลือก,ทางสำรองและยอมรับ"ความเสี่ยง"
ได้มากน้อยขนาดไหน
ใช่ครับ..ไม่แน่..ในอนาคตสายการบินอาจจะเพิ่มจำนวนการรับ Qualified Pilot มากขึ้นกว่านี้
แต่ถ้าไม่ใช่ละ….??
“การมีแผนเพียง 1 ทางเลือก
ถือว่าคือการไม่มีแผนสำรองนะครับ..”
หากการใช้เงิน 2-3 ล้าน แล้วทำให้ท่านได้เรียนในสิ่งที่รักและมันไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับตัวเอง
ผมก็พร้อมส่งแรงใจให้กับทุกคนที่เดินบนเส้นทางนี้
ที่เขียนในวันนี้ เกิดจากความรู้สึกของผมที่ต้องรับผิดชอบในสิ่งที่ผมเคยเขียนถึงเรื่องชีวิตที่ประสบความสำเร็จของหลายๆคนที่ลงทุนเรียนโรงเรียนการบินด้วยตัวเองไม่ว่าจะเป็นพี่ตี๋,น้องบิ๊ก,น้องโทนี่...ในเพจ
"Takeoff your life by กัปตันหมี"
1
น้องๆหลายคนได้อ่านบทความเหล่านั้นก็เกิดแรงบันดาลใจเดินตามความฝันเข้าสู่เส้นทางอาชีพนักบิน
หลายครั้งที่ผมเจอลูกศิษย์แล้วบอกว่าได้แรงบันดาลใจจากการอ่านบทความเหล่านั้น…
ผมต้องรับผิดชอบ ให้ข้อมูลครอบคลุมครบทุกด้าน
เพื่อให้น้องๆได้เลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับชีวิตของตัวเอง
1
“ชีวิตที่ทุกคนออกแบบได้
...ชีวิตที่ไม่จำเป็นต้องเหมือนใคร”
"รักการบิน" ไม่จำเป็นต้องเป็นนักบินอาชีพเสมอไปนะครับ เป็นอาชีพใดก็ได้ บางคนใช้เงินส่วนหนึ่งซึ่งไม่มากนักไปเรียนเป็นนักบินเครื่องบินเล็ก และได้ Private Pilot License (PPL) ก็สามารถขึ้นบินได้สัมผัสความอิสระบนฟ้าเช่นเดียวกับที่นักบินคนอื่นๆรู้สึกได้เช่นกัน
ขอเป็นกำลังใจให้น้องๆที่กำลังจะสอบ Student Pilot
ของ Thai Air Asia ในเดือนนี้ทุกคนด้วยครับ
รวมถึงส่งแรงใจมายังน้องๆนักบินที่มี CPL แล้ว
และรอสอบ Qualified Pilot ขอให้ประสบความสำเร็จ
“ทางที่เลือกแล้ว คือหนทางที่ดีที่สุดเสมอครับ”
กัปตันหมี
: ขอบคุณภาพสวยๆจากครูมอมแมมเช่นเคยครับ
โฆษณา