24 มิ.ย. 2019 เวลา 07:52 • ท่องเที่ยว
สวยงามมากๆ สวยจนอยากไปเยี่ยมชมอีก : โรมาเนีย – บัลกาเรีย (๖)
 
ได้เกริ่นไว้ในตอนที่แล้วว่า ปราสาทเพเลส (Peles Castle) เป็นปราสาทที่ได้รับการยกย่องว่าสวยงามและคงสภาพสมบูรณ์ที่สุดในโรมาเนีย
 
ปราสาทนี้สร้างในปี ค.ศ. ๑๙๔๐ โดยกษัตริย์คาโรล ที่ ๑ เพื่อใช้เป็นที่ประทับในช่วงฤดูร้อน ตั้งอยู่ในหุบเขาบูเซกิ กลางป่าสนบนเทือกเขาคาร์เปเทียน ใช้เวลาสร้างนานถึง ๑๐ ปี ตัวปราสาทเป็นศิลปะแบบเยอรมัน
 
ระหว่างที่เข้าคิวชมภายในกัน ผู้เขียนก็ถือโอกาสเดินออกมาถ่ายภาพภายนอกปราสาทเพเลสก่อน โชคดีมากครับ หากคอยถ่ายตอนกลับออกมาก็ถ่ายไม่ได้มากนักเพราะฝนตก
เข้าไปชมภายในปราสาทเพเลสกันครับ โชคดีของท่านผู้อ่านที่ได้ชมภาพเหล่านี้ เพราะค่าถ่ายภาพภายในเขาคิดเงิน ๓๐ เล ผู้เขียนมีเงินสดอยู่ แค่ ๑๐ เล ที่แลกก็ไม่มี บัตรเครดิตก็ไม่รับ
 
โชคดีที่คุณหน่อย คุณกรรภิรมย์ โฆษะปัญญาธรรม ภรรยาคุณเด่น ซึ่งได้ซื้อบัตรถ่ายภาพมา และมอบให้ ตอนแรกไม่รับหรอกครับ แต่คุณหน่อยแจ้งว่าคุณเด่นก็ซื้อบัตรอยู่แล้ว จึงรับ ก็ขอขอบคุณคุณหน่อยในความเอื้อเฟื้อเป็นอย่างยิ่งไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ
 
ภายในปราสาทตกแต่งหรูหราอลังการด้วยไม้แกะสลักเสลาลวดลายงดงาม เป็นปราสาทที่รวบรวมงานศิลปะที่สวยงามมากมายจากประเทศต่างๆ ในยุโรป เช่น โคมไฟระย้าจากอิตาลี รูปภาพติดผนังจากฝรั่งเศส เป็นต้น
 
ถ่ายภาพโดยใช้โหมด (Mode) กลางคืน บรรจงถ่ายเต็มที่ ภายในสวยงามจริงๆ ครับ มองไปตรงไหนก็น่าถ่ายไปหมด ถ่ายมากว่า ๑๒๐ ภาพ ชมกันตาแฉะเลยครับ เสียดายที่ไม่อาจนำมาเสนอทั้งหมดได้ พอเป็นตัวอย่างก็พอนะครับ
ในปราสาทมีประตูลับเยอะมาก ก็เป็นปราสาทของกษัตริย์นี่ครับ สอบถามเจ้าหน้าที่ว่ามีประตูลับเท่าไร คำตอบคือไม่เกิน ๒๐ แห่ง ครับ
ขอเสนอภาพเป็นชุดนะครับ ชุดละ ๔ ภาพ
ชุดที่สองครับ
ชุดที่สามครับ
ชุดที่สี่ครับ
ชุดที่ห้าครับ
ชุดที่หกครับ
ชุดที่ ๗ ครับ
ชุดที่ ๘ ครับ
ชุดที่ ๙ ชุดนี้ มี ๒ ภาพ ครับ
ภาพหมู่ที่เห็นอยู่นี้เป็นฝีมือของคุณเด่น คุณจิรวัธน์ โฆษะปัญญาธรรม ช่างภาพมือดีอีกท่านหนึ่ง แหมก็เล่นใช้กล้องมืออาชีพก็ย่อมดีกว่าของผู้เขียน แม้ว่าจะเป็นมือถือของหัวเหว่ยก็เถอะ
ขอแถมอีกนิดครับ
ก่อนจากขอให้ท่านผู้อ่านได้ชมวิดิโอสั้นๆ ภายในปราสาทเพเลสกันหน่อยนะครับ เชิญชมครับ https://youtu.be/0dxQCoykNns
หลังจากชื่นชมกับภาพภายในปราสาทกันทั่วแล้ว ก็ออกมาภายนอกปราสาท ถ่ายมากไม่ได้เพราะฝนเริ่มตก
หลังจากนั้น ฝนก็เทลงมาอย่างหนัก ตอนเดินกลับมาที่รถ แม้ว่าจะมีร่มหรือเสื้อซึ่งมีที่คลุมศีรษะ ก็เปียกกันพอสมควร เปียกปอนกันไปตามๆ กัน เพราะทั้งฝนทั้งลมครับ
 
แล้วเราก็เดินทางไปกรุงบูคาเรสต์ (BUCHAREST) เมืองหลวงของประเทศโรมาเนีย ระยะทาง ๑๒๑ กม. อยากหลับมากๆ แต่ก็หลับไม่ลงเหมือนเคยครับ
 
ก่อนเข้าที่พัก ก็แวะกินอาหารเย็นกันก่อน วันนั้นมีอาหารที่ไม่เคยกินมาก่อน เป็นไขวัวครับ กินได้นิดเดียวเลี่ยนมาก บางคนไม่กินเลย
เพราะไม่ชอบกินไก่ จึงขอเปลี่ยนเป็นหมู ได้หมูสับมา ชิ้นเบ้อเร่อ แต่กินได้ เพียงคำสองคำก็ต้องหยุด สาเหตุคงเป็นเพราะที่นี่เกลือคงถูกจึงเค็มเหลือเกิน ชิมไก่ของคุณสาย พิณก็เค็มครับ
 
สำหรับของหวานเป็นพายเอปเปิลและไอศกรีม กินได้เฉพาะไอศกรีม เท่านั้น ก็พายมีแป้งนี่ครับ สรุปแล้วร้านนี้คงผิดหวังอย่างมากเพราะคนไทยกลุ่มนี้กินอาหารไม่พร่องจานกันเลย
อยากให้ชมความสวยงามภายนอกของโบสถ์ St. Anton ทั้งตอนเห็นในตอนแรกและตอนกลับขึ้นรถ เพราะเวลาต่างกัน ความสวยงามก็ต่างกันด้วย
ไกด์เล่าให้ฟังว่าดินในกรุงบูคาเรสต์เป็นดินทราย ในอดีตการสร้างพระราชวังไม่ได้คำนึงถึงเรื่องนี้จึงทำให้พระราชวังทรุดและกำลังซ่อมแซมอยู่ในขณะนี้ จากบทเรียนดังกล่าว ทำให้การสร้างโบสถ์ นี้จึงวางรากฐานเป็นอย่างดี
 
คืนนั้นพักที่ Pullman Bucharest World Trade Center ในกรุงบูคาเรสต์ ไว้ตอนหน้าค่อยไปชมกรุงบูคาเรสต์ เมืองหลวงของประเทศโรมาเนียกันครับ
พุธทรัพย์ มณีศรี
ติดตามอ่านตอนที่แล้วมาได้ที่
ตอนที่ ๑ ไปโรมาเนียแต่คิดถึงกรุงแคนเบอร์ร่า
ตอนที่ ๒ ตอนที่ ๒ ชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป
ตอนที่ ๓ ร่างที่ไร้ศีรษะของท่านเค้าท์แดร๊กคูล่า 
ตอนที่ ๔ ชิมไวน์ ฟังเพลง ชมเต้นและร่วมเต้นแบบโรมาเนีย 
ตอนที่ ๕ ไปไหนก็พบแต่เรื่องราวของแดร็กกูล่า
โฆษณา