4 ก.ค. 2019 เวลา 08:38 • ท่องเที่ยว
โบสถ์ที่ดูแล้วไม่เหมือนโบสถ์ : โรมาเนีย – บัลกาเรีย (๘)
Welcome to​ ​Bulgaria ครับ เดินทางถึงประเทศบัลกาเรียแล้ว​ ประเทศนี้แม้ว่ายากจนกว่าโรมาเนีย แต่ก็แปลกที่ค่าของเงินแพงกว่า เพราะที่บัลกาเรียซี่งมีหน่วยเงินเป็นลารี่นี้ อัตราแลกเปลี่ยน ๒ ลารี่​ ประมาณ ๑ ยูโร
 
ผ่านบ้านเก่าๆ​ สมัยรัสเซียครอบครอง พื้นที่ทำการเกษตร​ซึ่งมีทั้งข้าวโพด​ มันฝรั่งองุ่นกำลังงามเชียวครับ​ ​ดินคงดีทีเดียวแหละ
 
ไกด์​ชาวบัลกาเรียที่ชื่อ Julia​ นี่ แกพูดแบบค่อยๆ เนือยๆ ไปเรื่อยๆ ครับ ไม่ค่อยสนใจว่าลูกทัวร์ฟังหรือไม่
 
เพิ่งสังเกตว่ารถทุกคันในบัลกาเรียหรือแม้แต่โรมาเนียต้องเปิดไฟตลอดแม้ในเวลากลางวัน​ นั่นเป็นเพราะกฎหมายบังคับครับ ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัย บ้านเราน่าเอาอย่างนะครับ เพราะไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ
 
เดินทางไปถึงเมืองเวลิโก ทาร์โนโว (VELIKO TARNOVO) เมืองนี้เป็นเมืองเก่าแก่ริมแม่น้ำ Yantra ตั้งอยู่บนภูเขา ๓​ ลูก คือ Tsarevets, Trapezitsa และ Sveta Gora
เมืองนี้มีความสำคัญตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากอดีตเป็นศูนย์กลางระบบเศรษฐกิจ การศึกษา และวัฒนธรรม ในภูมิภาคเหนือของบัลกาเรีย
จุดสนใจอยู่ที่ในเขตปราสาทซาร์เรเวต (Tsarevets) ครับ ปราสาทนี้ในอดีตเป็นที่ประทับของจักรพรรดิแห่งบัลกาเรีย ซึ่งภายในมีอาคารและป้อมปราการรายล้อมอยู่
ชมบริเวณที่เคยเป็นปราสาทกันก่อนครับ
ไม่ทุกคนหรอกนะครับที่ได้เดินขึ้นไปถึงโบสถ์ Assemption of Jesus Christ ซึ่งอยู่บนยอดเขาครับชั้นบนครับ​
โบสถ์นี้สร้างครั้งแรกในปี​ ค.ศ.​ ๑๒๐๐ ต่อมาถูกระเบิดทำลาย​ ได้รับการบูรณะใหม่ในปี​ ค.ศ. ๑๗๘๕ เข้าไปชมภายในโบสถ์ก็เห็นภาพวาดที่แปลกตา ไม่เหมือนโบสถ์ธรรมดาทั่วไปครับ
ก่อนออกจากปราสาทชาร์เรเวต ขออ้อยอิ่งกันนิดหนึ่งครับ
ถ่ายภาพให้เห็นตั้งแต่ตอนเข้าเมืองจนออกจากเมือง​ อนุสาวรีย์ที่เห็นในภาพสุดท้ายคือ​ Mother of Bulgaria​ ครับ
ไปชมเมืองอาร์บานาสซี่ (Abarnassi) กันครับ เมืองอาร์บานาสซี่เป็นหมู่บ้านเก่าแก่แหล่งชุมชนของชาวอัลบาเนียและชา​วกรีกที่เข้ามาตั้งรกรากตั้งแต่สมัยศตวรรษที่​ ๑๖
มีอาคารบ้านเรือนสวยงามแปลกตาที่ปลูกสร้างแบบสถาปัตยกรรมผสมผสานแบบ Bulgarian National Revival ซึ่งเรียกว่าบัลแกเรียนเรเนซองส์ (Bulgarian Renaissance)
 
เห็นชาวบ้านเต้นแบบพื้นเมืองกันก็อดจะถ่ายให้ท่านผู้อ่านชมด้วยไม่ได้ ชมดูซิครับ Dancing​ in​ Abarnassi
 
ได้เดินชมบ้านต่างๆ​ ไปเรื่อยๆ​ ผ่านบ้านหลังหนึ่งเข้าใจว่าคงจัดงานแต่งงานกันครับ
ไปที่โบสถ์​แต่เสียดายที่โบสถ์​ปิดจึงไม่อาจเข้าไปชมภายในได้ สมัยก่อนเขาห้ามสร้างโบสถ์​ ชาวบ้านจึงแอบสร้าง​ โดยสร้างบ้านเตี้ยๆ​ ไม่ให้ผู้ใดสังเกตเห็น​ ไม่มีไม้กางเขน​ บ้านที่ถ่ายภาพคู่กันนั่นแหละครับ
ที่นี่ก็มีบ้านร้างเช่นเดียวกันกับที่โรมาเนียครับ
เนื่องจากโรงแรมที่เมืองเวลิโก ทาร์โนโว (VELIKO TARNOVO) เต็ม​ จึงต้องหาที่พักใหม่​ จึงได้ใช้เส้นทางลัดมาที่เมือง Tryavna
ถนนสายนี้เป็นเส้นทางเล็กๆ​ ลัดเลาะมาทางเล็กๆ​ ผ่านอุทยาน​ คนขับเล่าให้ฟังว่าครั้งหนึ่งเคยขับพาเพื่อนมาทางสายนี้​ เพื่อนถามว่านี่เป็นถนนในเวียตนามหรือ​ ครับ​ ที่ไหนๆ ก็มีถนนแบบนี้ครับ
กินอาหารเย็นและพักที่​ Hotel Kalina Palace​ เมือง​ Tryavna
โรงแรมนี้อยู่บนเขาครับ อากาศดีมาก เสียดายที่พักที่นี่เพียงคืนเดียว ไม่งั้นได้ล้างปอดกันมากกว่านี้ ถ่ายภาพที่ระเบียงห้องพักครับ
ถ่ายภาพก่อนออกเดินทาง
จากเมือง​ Tryavna เดินทางไปเมืองคาซานลัค (Kazanlak) ใช้เวลาในการเดินทาง​ ๑​ ชม. เป็นเส้นทางเล็กๆ​ เหมือนตอนที่เดินทางมาเมื่อวานนี้​ ขับอยู่บนยอดเขา​ เห็นไกลๆ ​นึกว่าเป็นฝุ่น​ แต่เมื่อเข้ามาใกล้ๆ​ กลับเป็นเมฆ​
เห็นต้นไม้ข้างทางก็ชื่นใจครับ​ มิน่าละครับ​ เพราะธรรมชาติอุดมสมบูรณ์​ ดินถึงดี​ ปลูกต้นไม้หรือผักก็งอกงามดี ผ่านอนุสาวรีย์ชิปซ่า​ สร้างเพื่อเป็นอนุสรณ์​การทำสงครามกู้ชาติจากตุรกี
กำลังลงจากเขาสู่หุบเขาแห่งกุหลาบ เพื่อไปหุบเขาแห่งกุหลาบ (The Valley of Roses) และเทศกาลดอกกุหลาบ (Rose Festival) ซึ่งเป็นจุดที่น่าสนใจมากที่สุดของการเดินทางครั้งนี้
ไว้ติดตามชมกันในตอนหน้านะครับ
 
พุธทรัพย์ มณีศรี
ติดตามอ่านตอนที่แล้วมาได้ที่
ตอนที่ ๑ ไปโรมาเนียแต่คิดถึงกรุงแคนเบอร์ร่า
ตอนที่ ๒ ตอนที่ ๒ ชมสถานที่ที่งดงามที่สุดของยุโรป
ตอนที่ ๓ ร่างที่ไร้ศีรษะของท่านเค้าท์แดร๊กคูล่า
ตอนที่ ๔ ชิมไวน์ ฟังเพลง ชมเต้นและร่วมเต้นแบบโรมาเนีย
ตอนที่ ๕ ไปไหนก็พบแต่เรื่องราวของแดร็กคูล่า
ตอนที่ ๖ สวยงามมากๆ สวยจนอยากไปเยี่ยมชมอีก
ตอนที่ ๗ ปารีสน้อยแห่งยุโรปตะวันออก
โฆษณา