6 ก.ค. 2019 เวลา 15:51 • ประวัติศาสตร์
อาชญากรสมองเพชร “เปาโล เซอจิโอ” กับภารกิจปล้นธนาคาร ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาใต้...EP.1
มันเกิดขึ้นได้อย่างไร...?
ในตอนที่แล้ว ไมเคิล เดอ กุซมัน อาจจะร่ำรวยมหาศาลจากเหมืองทองปลอมๆ แต่อาชญากรที่จะพูดถึงต่อไปนี้ สร้างบริษัทปลอมเพื่อปล้นเงิน 70 ล้านเหรียญ จากธนาคารกลางของประเทศ
ปี 2005 ในฟอตาเลซ่า ประเทศบราซิล อาชญากรระดับหัวกะทิ ที่ลูกสมุนของเขารู้จักกันในนามว่า “เปาโล เซอจิโอ” กำลังวางแผนปล้นครั้งใหญ่ คือ การบุกเข้าปล้นธนาคาร Banco Central ซึ่งมีสถานะเทียบได้กับธนาคารกลางสหรัฐ
ธนาคาร Banco Central ไม่ได้เป็นแค่ธนาคารธรรมดาๆที่คนทั่วไปจะเดินดุ่มๆเข้าไปกดเงินที่เอทีเอ็ม หรือ ฝากถอนเงินเหมือนธนาคารอื่นๆ แต่นี่คือธนาคารที่รับผิดชอบเงินสำรองของบราซิลทั้งประเทศเลยทีเดียว
นอกจากนี้ Banco Central ยังเป็นธนาคารที่รวบรวมธนบัตรเก่าที่ติดตามไม่ได้ ซึ่งเป็นเงินที่ถูกถอดออกจากระบบแล้ว และเตรียมจะถูกทำลายทิ้ง
จริงๆแล้วเงินที่ถูกถอดออกจากระบบเหล่านี้ ในระบบการเงินของธนาคารจะมีสถานะเป็นเพียงแค่เศษกระดาษที่กำลังรอเวลาจะถูกเผาทำลายทิ้งเท่านั้น
แต่กระนั้นถ้าหากมันเล็ดลอดออกไปข้างนอกได้ มูลค่าของเงินก็ยังไม่ได้หายไปไหน มันก็จะยังคงมีมูลค่าอยู่ไม่ต่างจากเงินที่อยู่ในระบบ
ถ้ามันหลุดไปอยู่ในมือใครสักคน แน่นอนว่ามันก็ยังคงนำไปจับจ่ายใช้สอยได้ตามปกติ และที่เลวร้ายกว่านั้นคือการนำไปฟอกเงิน เพื่อให้เงินที่ถูกถอดออกจากระบบไปแล้ว กลับเข้ามาสู่ระบบอีกครั้ง
2
เป็นปกติที่ธนาคารกลางของประเทศ จะมีการตรวจตรารักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา นอกจากนี้ห้องนิรภัยขนาด 1,500 ตารางฟุต ของธนาคารแห่งนี้ ยังถูกล้อมรอบด้วยผนังคอนกรีตหนา 3.5 ฟุต (1.05 เมตร)
Banco Central Bankในฟอนตาเลซ่า ธนาคารกลางที่ดูแลเรื่องเงินสำรองของประเทศบราซิล
หลังจากที่ เปาโล เซอจิโอ และสมุนได้เตรียมแผนปล้นอยู่นาน ผนวกกับข้อมูลที่เขาได้มาจากสายลับที่อยู่ภายในธนาคาร เมื่อเขาวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดอย่างสุขุมรอบคอบ เพื่อหาจุดอ่อนของธนาคาร และเส้นทางการหลบหนีมานานนับเดือน
ในที่สุด เซอจิโอ ก็ตัดสินใจสรุปว่าทางเข้าที่ดีที่สุด เพื่อมุ่งไปยังพื้นที่นิรภัยของธนาคารคือการมุดเข้าไปจากใต้ดิน
แต่มันก็เป็นเรื่องน่าตลก ที่พื้นห้องนิรภัยของธนาคารกลับกลายเป็นจุดอ่อนเดียวในระบบนิรภัย เพราะมันไม่ได้แน่นหนาเหมือนส่วนอื่นๆของธนาคาร ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ เซอจิโอ มองเห็นจุดอ่อนนี้เข้าจนได้
นอกจากระบบเตือนภัยภายในธนาคาร และผนังคอนกรีตห้องนิรภัยที่หนา 3.5 ฟุต นั้นอาจจะดูปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว แต่พอเอาเข้าจริงๆห้องนิรภัยของธนาคาร Banco Central อาจไม่ได้แน่นหนาไฮเทคเหมือนที่หลายๆคนจินตนาการเอาไว้ในตอนแรก
1
ห้องนิรภัยที่ใช้สำหรับเก็บเงิน ซึ่งถูกถอดออกจากระบบเพื่อรอการทำลายทิ้ง มันเป็นเพียงห้องนิรภัยที่มีระบบเทคโนโลยีเตือนภัยไม่ค่อยซับซ้อนเท่าไหร่นัก โดยมีลักษณะคล้ายโกดัง ที่มีกล่องใส่เงินซ้อนกันเป็นภูเขาเท่านั้น
1
เมื่อได้ข้อมูล และวิเคราะห์จนมั่นใจแล้ว อาชญากรสมองเพชร เปาโล เซอจิโอ และสมุนของเขา กำลังเตรียมการปล้นแบงค์ครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกาใต้
โดยมีเป้าหมายใหญ่ก็คือธนบัตรไร้ตำหนิ ที่ถูกถอดออกจากระบบ ซึ่งถูกเก็บเอาไว้ในธนาคารกลาง Banco Central นั่นเอง
ในตอนนี้ เซอจิโอ มั่นใจสุดๆแล้วว่าพื้นห้องนิรภัยของธนาคารคือจุดอ่อนที่รอเวลาให้เขาและลูกสมุนเข้าไปโจมตี
สำหรับ เซอจิโอ การขุดอุโมงค์ใต้พื้นมหานครอันพลุกพล่าน โดยไม่ให้ผิดสังเกตคงทำได้ยาก และต้องมีความเสี่ยงสูงแน่ๆ
ในที่สุดหลังจากที่ครุ่นคิดอยู่นาน เขาก็คิดแผนที่แสนเรียบง่าย แต่ชาญฉลาดมากๆ ถ้าเขาทำได้สำเร็จตามแผนที่คิด เขาจะสบายไปทั้งชีวิต ด้วยจำนวนเงินมหาศาลอาจจะทำให้เขาจะหนีคดีไปชุปตัวที่ไหนก็ได้ในโลกนี้
แผนของ เซอจิโอ คือ การสร้างอุโมงค์ใต้ดินเข้าไปยังใต้พื้นห้องนิรภัยของธนาคาร การจะเจาะพื้นห้องนิรภัยนั้น เซอจิโอ ได้ระดมผู้เชี่ยวชาญมาทั้งหมด 36 คน ประกอบด้วยทีมวิศวกร ,คนงาน ,สายลับที่ทำงานในธนาคาร และคนขับรถสำหรับหลบหนี
เซอจิโอ รู้ดีว่าการขุดอุโมงค์กลางเมืองใหญ่อย่างฟอตาเลซ่า จะทำให้มีการขนอุปกรณ์เข้าออกบ่อยๆ และต้องมีดินที่ต้องขนออกเยอะมากจนน่าสงสัย
เขาจึงเริ่มใช้แผนที่เรียบง่าย แต่ชาญฉลาดมากๆ ที่เขาได้ตระเตรียมไว้ก่อนหน้านี้ ซึ่งมันจะกลายเป็นฉากบังหน้า ที่เปรียบเสมือนการพรางตัวให้กับภารกิจของเขา นั่นก็คือการจัดตั้ง และสร้างบริษัทรับจัดสวนขึ้นมา ในบริเวณใกล้ๆกับธนาคาร
ในตอนต่อไปเราจะมาดูกันว่า เปาโล เซอจิโอ จะใช้บริษัทจัดสวนที่เขาตั้งขึ้นแบบปลอมๆในภารกิจปล้นธนาคารกลางของบราซิลได้อย่างไร อย่าพลาดติดตามชมกันนะครับ
อ้างอิงโดย :
เรียบเรียงโดย : Inspire Story
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา