12 ก.ค. 2019 เวลา 01:32 • ความคิดเห็น
“จงเป็นคนขี้เกียจ ที่บริษัทต้องการ”
หมดยุคไปแล้ว ของคนขยัน ทำงานหนัก คนขี้เกียจ ต่างหาก ที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า
...
เชื่อว่า เราคงเคยได้ยินประโยคที่ว่า จงขยัน ทำงานหนัก แล้วจะประสบความสำเร็จ
ผมคิดว่าถ้าพูดเรื่องนี้ในอดีตอาจจะใช่ แต่ในยุคนี้ แค่ขยัน หรือ แค่ทำงานหนัก ไม่ได้รับประกันเลยว่าประสบความสำเร็จจริงๆ
ด้วยเพราะยุคสมัยมันต่างกัน การใช้ชีวิตของคนในยุคนี้ก็ต่างกัน องค์ประกอบ สิ่งแวดล้อม ล้วนมีผลต่อความสำเร็จเป็นอย่างมาก ดังนั้นจะแค่ทำงานหนัก หรือ แค่ขยันตัวเป็นเกลียว คงไม่พอแล้ว
“คนขี้เกียจ ต่างหาก ที่มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่า”
อย่าเข้าใจผิด คนขี้เกียจที่ว่านี้ ไม่ใช่คนเกียจคร้าน การงานไม่ทำ หรือ อยู่เฉยๆ ไม่ทำอะไรเลย
คนขี้เกียจ ที่ว่านี้ หมายถึง คนฉลาด ที่รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ หรือ อะไรที่ไม่ควรเสียเวลา หรือ อะไรที่ไม่ควรใส่ใจ เป็นต้น
..
มีงานวิจัยในต่างประเทศ ที่บ่งชี้ไปในทิศทางเดียวกันว่า คนขี้เกียจ มีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จมากกว่าคนทั่วไป ซึ่งสามารถดูได้จากตัวอย่างบุคคลสำคัญในอดีต ที่ขี้เกียจจนได้ดี อาทิเช่น
ชาลส์ ดาร์วิน ในวัยเด็ก ก็เป็นคนขี้เกียจเรียนหนังสือ หลับในห้องเรียนอยู่บ่อยๆ ในช่วงเรียนก็สำมะเลเทเมาอยู่เนืองๆ แต่ก็ประสบความสำเร็จการเป็นบิดาแห่งวิชาพันธุศาสตร์ได้
..
วินสตัน เชอร์ชิล ในวัยเด็กก็เรียนแย่มาก สอบตกก็มีหลายครั้ง แต่ในที่สุดเขาก็ประสบความสำเร็จเป็น นายกรัฐมนตรีอังกฤษได้
คนที่ขี้เกียจที่โด่งดังอีกหลายคน เช่น อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ปาโบล รุยซ์ ปีกัสโซ ที่ในวัยเด็ก หรือ วัยรุ่น ต่างก็เป็นคนไม่ค่อยเอาไหนสักเท่าไร แต่ที่ไหนได้ ต่างก็สามารถสร้างผลงานที่ยอดเยี่ยมและประสบความสำเร็จระดับโลก จนเป็นตำนานถึงทุกวันนี้
“เพราะอะไรคนขี้เกียจถึงประสบความสำเร็จง่ายกว่าคนขยัน?”
เราคงเคยเห็น หรือ เคยมีเพื่อนๆ ของเรา ที่ตอนเรียนด้วยกันไม่เอาไหนเอาซะเลย แต่ตอนนี้ กลับกลายเป็นคนที่มีตำแหน่งใหญ่โต หรือ เป็นเจ้าของกิจการใหญ่โต หรือ เป็นคนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง
นั่นแสดงว่า การขยันในวัยเรียน ไม่ได้การันตีว่า ชีวิตข้างหน้าจะประสบความสำเร็จ แต่เพราะอะไร คนขี้เกียจเหล่านั้นถึงได้ดิบได้ดี
..
“พวกเขามีความคิดสร้างสรรค์สูง” - คนขี้เกียจมักหาหนทางลงมือทำอะไรที่ยากๆ ได้ง่ายกว่าคนทั่วๆ ไป แถมทำได้ดีซะด้วย ยกตัวอย่างเช่น เรามักจะเห็นคนขี้เกียจหลายคน ชอบทำงานใกล้ๆ Deadline พวกเขาใช้เวลาน้อยมาก ในการทำงานให้สำเร็จ ซึ่งต่างกันกับอีกหลายๆ คน ที่ต้องใช้เวลาทำล่วงหน้าเป็นอาทิตย์ แถมผลงงานออกมาก็สู้คนขี้เกียจไม่ได้
..
“พวกเขารู้ว่าต้องทำอะไรเมื่อไหร่” - คนขี้เกียจ ทำตัวดูเหมือนเป้นคนที่ไม่มีวินัย แต่พวกเขารู้ว่าตอนไหนต้องทำอะไร และ พวกเขามักจะไม่ยอมเสียเวลาทำอะไรนานๆ พวกเขาคือ จอมวางแผนตัวยง พวกเขามักหาทาง หรือ หาตัวช่วยมาจัดการเรื่องยากๆ ได้เสมอ
..
“พวกเขารักสบาย แต่ก็รู้ว่าเป้าหมายคืออะไร” - คนขี้เกียจ อาจทำตัวดูเหมือนเป็นคนอู้งาน อาการที่แสดงออกมาดูเหมือนจะชิลๆ ดูเหมือนคนไม่ค่อยรับผิดชอบ แต่ที่ไหนได้ พสกเขารู้ว่าอะไรต้องทำ เป้าหมายของพวกเขาคืออะไร โดยพวกเขาจะพยายามหาวิธีการและใช้เวลาที่น้อยที่สุดในการบรรลุเป้าหมาย
..
“พวกเขาขี้เกียจสนใจเรื่องของคนอื่น” - พวกเขาสนใจแต่เฉพาะเรื่องที่เขาให้ความสำคัญ เรื่องที่เขาชอบ เช่น สตีฟ จอบส์ ที่หมกมุ่นกับเรื่องการสร้างสรรค์ นวัฒกรรมเจ๋งๆ แต่เขาไม่สนใจเรื่องอื่นๆ เลย แม้กระทั้งเรื่องครอบครัวของเขาเอง (แต่แบบนี้ก็ไม่ค่อยดีสักเท่าไร) เอาเป็นว่าไม่สนใจเรื่องดราม่าต่างๆ ในองค์กร ก็น่าจะเพียงพอแล้ว
“อาวุธที่สำคัญของคนขี้เกียจ คืออะไร?”
“เทคโนโลยี” - ด้วยเพราะเป็นคนขี้เกียจเป็นทุนเดิม จึงต้องใช้เครื่องทุ่นแรง คนขี้เกียจจะช่างสรรหาเทคโนโลยี เช่น โปรแกรม หรือ แอพพลิเคชั่น ต่างๆ มาช่วยในการทำงานของพวกเขา ทำให้พวกเขาสามารถทำงานได้ไวได้เร็วในแบบขี้เกียจ และ มีประสิทธิภาพมากกว่าคนทั่วไป
..
“แก๊งค์คนขี้เกียจ” - คนขี้เกียจ (ที่ฉลาด) มักจะรวมตัวกัน เพื่อแลกเปลี่ยเทคนิค วิธีการต่างๆ ที่จะช่วยให้งานของพวกเขาประสบความสำเร็จ หรือ พัฒนาวิธีการใหม่ๆ ที่จะทำให้ผลงานของเขาออกมาได้ไว และมีประสิทธิภาพ
..
“ทัศนคติ และ Mindset ที่ดี” - คนขี้เกียจ มักเป็นคนที่ไม่เครียดง่าย ไม่ตกเป็นทาสของอารมณ์ ดูจะเป็นคนชิลๆ และ ปล่อยวาง ซะมากกว่า ทำให้การลงมือทำอะไรต่างๆ ก็มักจะประสบความสำเร็จได้ง่ายกว่า เพราะไม่ค่อยเอาอารมณ์ หรือ ความเครียดมากดดันตนเอง
เราทุกคนก็สามารถเป็นคนขี้เกียจ ที่ประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
ถ้าเราไม่เครียด และกดดันตนเองมากเกินไป
ถ้าเราลด หรือ เลิกสนใจเรื่องคนอื่นลงซะบ้าง
ถ้าเราหัดเริ่มใช้ความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นในงานที่ทำ และ หันมาประยุกต์นำเทคโนโลยีมาเป็นตัวช่วย
และสุดท้าย ถ้าเรา เชื่อมั่นในตนเองว่า เราเองก็ทำแบบนี้ได้ เราก็จะประสบความสำเร็จได้เช่นกัน
มาขี้เกียจแบบสร้างสรรค์ กันเถอะ
อาชีพของเรากำลังตีบตันหรือเปล่า
ผ่าทางตันในอาชีพหรือหน้าที่การงานของเราได้ไม่ยาก
โฆษณา