19 ก.ค. 2019 เวลา 13:00 • ประวัติศาสตร์
จิตวิทยาขั้นสูงในการอำพรางตัวในที่ ที่อันตรายที่สุด เพื่อหลบหนีการจับกุมจากเจ้าหน้าที่ได้นานถึง 12 ปี ....EP.2 (ตอนจบ)
(ภาพซ้าย) คาราดิซ ก่อนปลอมตัว (ภาพขวา) คาราดิซ หลังปลอมตัวเป็นทด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ
ต่อจากตอนที่แล้ว ....หลังจากที่คาราดิซ ในร่างอวตาร ดราแกน ดาบิซ ประกาศตัวว่าเขาคือนักท่องจิตวิญญาณ ที่พร้อมจะช่วยรักษาผู้คนด้วยหลักจิตวิทยาบำบัด ไปพร้อมๆกับการเป็นนักเขียน มันทำให้เขาเริ่มมีบทบาทในสังคมเมืองเบลเกรดมากขึ้น
ด้วยความเชี่ยวชาญที่รู้ถึงความกังวลของมนุษย์ มันทำให้เขาสามารถช่วยรักษาผู้คนที่มีปัญหาด้านจิตใจให้ดีขึ้นได้ด้วยหลักจิตวิทยา
จากความสามารถดังกล่าว ดราแกน ดาบิซ กลายมาเป็นกูรูยุคใหม่ และหันมาจัดสัมมนาเรื่องการรักษาด้วยมนต์
นอกจากนี้เขายังสนใจด้านวิทยาการฟื้นฟูสเปิร์ม และเขียนบทความเกี่ยวกับด้านจิตเวช นั่นเป็นสิ่งที่ทำให้ ดราแกน ดาบิซ มีชื่อเสียงหนาหูขึ้นมาเรื่อยๆ
ในขณะที่เขาเริ่มมีชื่อเสียง และมีบทบาทในสังคมมากขึ้น ความเสี่ยงที่จะโดนจับสังเกตนั้นย่อมเพิ่มขึ้นเป็นเงาตามตัว
แต่ด้วยความละเอียดรอบคอบของเขาที่ระมัดระวังทุกการกระทำ ผสานกับการใช้เทคนิคทางจิตวิทยาที่ซับซ้อนขึ้น
ทำให้เขาพัฒนากลวิธีการอำพรางตัวตนที่มีความแนบเนียน และแก้ไขปิดจุดอ่อนจากการอำพรางแบบเดิมได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
ยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งมั่นใจมากเท่านั้นว่าจะไม่มีใครตามจับเขาได้ มันทำให้เขาไว้ใจในความแยบยลของตัวเอง
แม้เจ้าหน้าที่จะตามหาตัวเขาอย่างไม่ลดละ แต่ คาราดิซ ก็ไม่หวาดกลัวที่จะพาตัวเองในร่างอวตาร ดราแกน ดาบิซ ออกมาสู่โลกภายนอก เขามั่นใจว่าจะไม่มีใครสามารถมองทะลุตัวตนที่เขาสร้างขึ้นมาได้
ภาพวาดด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ
เขาออกมาเที่ยวในเมืองเช่นคนปกติทั่วไปอยู่บ่อยๆ และวันหนึ่งเขาก็ได้เข้าไปในบาร์ชื่อ เดอะ เครซี่เฮาส์ ที่มีแต่พวกเซอร์เบียชาตินิยมนั่งกันอยู่เต็มร้าน
และเรื่องที่ตลกร้ายไปกว่านั้น บนกำแพงด้านหลังโต๊ะที่เขานั่งอยู่ มีภาพๆหนึ่งที่โดดเด่น ภาพนั่นคือโฉมหน้าของ ราโดวาน คาราดิซ ในตอนที่เป็นหัวหน้าบอสเนียเซิร์บ ติดอยู่บนผนังของร้าน
แต่เขาก็ทำตัวเฉยๆโดยไม่เกิดอาการประหม่าเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าภาพๆนั้นไม่ใช่ตัวเขายังงัยยังงั้น เขาจัดการกับความรู้สึก และพฤติกรรมของตัวเองได้อย่างเป็นธรรมชาติสุดๆ
ภาพ ราโดวาน คาราดิซ บนผนังบาร์ เดอะ เครซี่เฮ้าส์ ต่อมาได้มีการนำภาพตอนที่เขาปลอมตัวเป็น ด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ มาติดไว้ข้างๆกัน
อยู่มาวันหนึ่งเขาได้กลับมาที่บาร์อีกครั้ง แล้วหยิบเครื่องดนตรีท้องถิ่นที่เรียกว่า บาราไลก้า แล้วได้เริ่มเล่นบรรเลงเพลงอย่างสุนทรีอารมณ์ อยู่ใต้รูปภาพของเขาที่ติดอยู่บนผนัง ต่อหน้าฝูงชนนับสิบที่อยู่ภายในบาร์นั่น
ไม่มีอะไรที่จะบ้าไปกว่าชายคนนี้ ที่กำลังปลอมตัวอยู่ แล้วเล่นดนตรีอยู่หน้ารูปของตัวเอง โดยไม่มีทีท่าผิดสังเกตเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างมันดูเป็นปกติมากๆ
ภาพ ราโดวาน คาราดิซ ทั้งตัวจริง และตอนปลอมตัว ติดอยู่บนผนังบาร์ เดอะ เครซี่เฮ้าส์ ภายในเมืองเบลเกรด
นอกจากเรื่องตลกร้ายที่บาร์ ยังมีเรื่องตลกที่น่าทึ่งยิ่งกว่า คาราดิซ เป็นคนที่เก่งมาก แม้แต่เพื่อนบ้านในเบลเกรดของเขา ซึ่งเป็นถึงเจ้าหน้าที่ ที่ทำงานอยู่ในหน่วยตำรวจอินเตอร์โพลที่คอยแกะรอยอาชญากรทั่วโลก
ก็ยังไม่สามารถจับพิรุจน์เขาได้ทั้งๆที่เจอหน้ากันแทบทุกวันเป็นเวลานานหลายปี คาราดิซสามารถหลอกคนที่ทำงานอยู่ในอินเตอร์โพลได้เป็นเรื่องง่ายๆเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก
1
วิชาจิตวิทยาของเขามันเข้าขั้นสุดยอดอัจฉริยะเขาแทบไม่ทิ้งร่องรอยอะไรให้เป็นจุดสังเกตเลย
หลายปีที่คาราดิซปลอมตัวอยู่นั้น ทำให้หน่วยสืบราชการลับจากอเมริกา ,อังกฤษ ,เอ็มไอซิก ,ซีไอเอ และตำรวจอินเตอร์โพล ต้องหลงทางซ้ำแล้วซ้ำเล่ากับการคว้าน้ำเหลว
ในฤดูใบไม้ผลิปี 2008 เกือบ 12 ปี หลังจากที่ใช้เล่ห์เหลี่ยมความสามารถ และการมีเส้นสายเก่าคอยช่วยเหลือ ในการปลอมตัวเป็นด็อกเตอร์ ดราแกน ดาบิซ ก็เริ่มเดินทางเข้าไกล้จุดจบ
การพลิกแผ่นดินไล่ล่า และการค้นหาอย่างไม่ย่อท้อของเจ้าหน้าที่กำลังจะสัมฤทธิ์ผล
แม้จะฉลาดเพียงใด แต่คาราดิซก็ทำพลาดจนได้ เขายังคงติดต่อกับใครบางคนอยู่ในระหว่างที่เขากำลังปลอมตัว นั่นก็คือน้องชายของเขาเอง แน่นอนว่าตำรวจก็ซุ่มจับตามอง และก็วางแผนแกะรอยจากน้องชายคาราดิซเช่นกัน
1
ลูก้า น้องชายของคาราดิซ ได้โทรหาคาราดิซโดยใช้โทรศัพท์เก่า และตำรวจก็สามารถแกะรอยข้อมูลจากซิมการ์ดได้ มันเป็นหลักฐานขยายผลสำคัญในการสาวไปถึงตัวคาราดิซ
มันเป็นเรื่องตลกร้ายที่น้องชายของคาราดิซ ดันเป็นคนขี้เมา แต่แล้ววันหนึ่งจู่ๆเขาก็โทรหานักบำบัดในเบลเกรดซึ่งมันดูผิดแปลกไปจากพฤติกรรมปกติของเขา ตำรวจจึงพยายามตามหาว่าใครคือนักบำบัดคนนี้
จากการสืบสวนแกะรอยทำให้ตำรวจทราบว่านักบำบัดคนที่น้องชายคาราดิซโทรหา ก็คือดราแกน ดาบิซ หรือชื่อเดิม ราโดวาน คาราดิซ นั่นเอง ตำรวจเจอแจ็คพ็อตใหญ่เข้าให้แล้วงานนี้
ตำรวจ และหน่วยสืบราชการลับ ได้ร่วมกันวางแผนจับตัวคาราดิซ ทันที ที่ได้รับการยืนยันเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า ด็อคเตอร์ ดราแกน ดาบิซ คือคน คนเดียวกับ ราโดวาน คาราดิซ
ในขณะที่คาราดิซในร่างอวตาร ดราแกน ดาบิซ กำลังนั่งอยู่บนรถเมล์ และตำรวจก็ได้ตามขึ้นไปบนรถเมล์ แล้วตรงไปที่เขานั่งอยู่ แล้วพูดว่าคุณคือ ราโดวาน คาราดิซ ใช่มั้ย
เขาตอบ ไม่ ผมคือ ดราแกน ดาบิซ ในตอนนั้นเขาคิดว่าเขาคงจะรอดไปได้ แต่มันก็ไม่ได้เป็นดั่งที่เขาคิด เขาโดนเจ้าหน้าที่รวบตัวทันที
ราโดวาน คาราดิซ ในวัยชราก่อนโดนจำคุกหัวโต
ในปี 2016 ศาลอาญาระหว่างประเทศตั้งข้อหา ราโดวาน คาราดิซ ในข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธ์ และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติ โดยมีโทษจำคุก 40 ปี
นั่นแปลว่า คาราดิซ อาจจะต้องจบชีวิตบั้นปลายภายในคุก เพราะตอนที่โดนจับเขามีอายุมากถึง 70 ปี แล้ว ถือเป็นการปิดตำนานนักฆ่าแห่งบอสเนีย หรือ อาชญากรล่องหน โดยสมบูรณ์
อ้างอิงโดย :
เรียบเรียงโดย : Inspire Story
ถ้าหากเรื่องราวนี้ ช่วยสร้างแรงบัลดาลใจ หรือ สร้างความน่าสนใจให้กับท่านผู้อ่าน สามารถกดแชร์ และติดตาม Inspire Story เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนด้วยนะครับ
โฆษณา