7 ส.ค. 2019 เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์
Impressionism.................
.
อิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism)
เป็นลัทธิศิลปะที่เกิดขึ้นในคริสต์ศตวรรษที่ 19
โดยเริ่มต้นที่ฝรั่งเศสซึ่งเป็นมหาอำนาจด้านศิลปะในสมัยนั้น
หากแปลเป็นไทยก็คือลัทธิแห่งความประทับใจ
.
ศิลปินในลัทธินี้ส่วนใหญ่จะใช้วิธีการป้ายฝีแปรงหยาบๆ
เพราะวาดอย่างรวดเร็ว....มากกว่าจะเกลี่ยสีให้เรียบร้อย
เนื่องจากต้องการถ่ายทอดช่วงเวลาแห่งความประทับใจ
มากกว่าเน้นเรื่องความถูกต้องหรือกฎเกณฑ์
.
เพราะพวกเค้าเชื่อว่า....ความประทับใจ
มักถูกสร้างขึ้นอย่างฉับพลัน
.
และผลของงานวิจัยในปัจจุบันก็พบว่า
มนุษย์เราใช้เวลาเพียง 3-5 วินาทีเท่านั้น
ในการรู้สึกประทับใจ
.
.
แทบไม่น่าเชื่อนะครับ แต่ก็เป็นความจริง
เพราะบางคนพูดเป็นวันก็เท่านั้น เข้าหูซ้ายออกหูขวา
แต่บางคนพูดสั้นๆ กลับประทับใจเรามากกว่า
.
หลังจากที่ล่วงรู้ความลับในการ "ประทับใจ" ของมนุษย์
แนวคิดนี้ก็ถูกขยายความและนำไปใช้ในอีกหลายวงการ
โดยเฉพาะเรื่องของชีวิตและธุรกิจ
.
.
กล่าวกันว่าการสร้างความประทับใจที่ดี.....
.
.
คือการสร้างโอกาส
.
.
ซึ่งถ้าใครมองหาโอกาส
ควรใส่ใจเรื่องนี้ให้มากนะครับ
.
.
และนักธุรกิจหรือนักขายที่ดี
ต้องสร้างความประทับใจให้ได้ภายใน 30 วินาที
ในการพบกันครั้งแรก....
.
.
ซึ่งถือเป็นโอกาสทองเพียงครั้งเดียว
ที่จะทำให้คุณปิดการขายได้ถึง 100 %
.
.
ส่วนในเรื่องของความรัก ได้มีงานวิจัยที่พบว่า
ผู้ชายส่วนใหญ่จะประทับใจหญิงจากรูปลักษณ์ภายนอก
แต่ผู้หญิงส่วนใหญ่กลับประทับใจที่ความสามารถ
และภาวะผู้นำที่มีอยู่ในตัวของผู้ชายมากกว่า
.
ดังนั้นการสร้างความประทับใจ
จึงเป็นศาสตร์ที่สำคัญในการพบปะผู้คนและธุรกิจ
.
เราจึงพบเจอผู้คนมากมายที่ให้ความสำคัญกับสิ่งนี้
ถึงกับมีการเปิดคอร์ส...เพื่อให้ผู้คนเรียนรู้เกี่ยวกับมันโดยเฉพาะ
.
เรื่องราวของความประทับใจ...ยังไม่จบลงแค่นี้ครับ
หากคุณอยากอยู่ในลัทธินี้....คุณควรเรียนรู้อีกหนึ่งคำ
.
.
เพราะสิ่งใดๆก็ตาม....ที่คุณ "ประทับใจ"
แล้วยังต้องเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันต่อไป
มันมักจะมาพร้อมกัน.....กับคำว่า .....
.
.
.
ความคาดหวัง (Expectations)
.
.
.
สำหรับธุรกิจที่เน้นเรื่องการสร้างความประทับใจ
ไม่ว่าจะเป็นภาพลักษณ์ของร้าน
หรือแคมเปญโฆษณาที่โปรโมท ฯลฯ
การเรียนรู้เรื่องความคาดหวังจากลูกค้า
เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้
เพราะมันอาจทำลายความประทับใจที่คุณสร้าง
โดยใช้เวลาไม่นานเช่นกัน...เรียกได้ว่า
ยิ่งประทับใจมาก....ก็ยิ่งคาดหวังมาก เป็นเงาตามตัว
.
.
สินค้าและบริการใดที่ทำมาตรฐาน
ได้ต่ำกว่า...ความคาดหวังของลูกค้า
มักไปไม่ค่อยรอดนะครับ
.
.
ดังที่เราเห็นตัวอย่าง ธุรกิจ SME หลายเจ้า
ที่โด่งดัง.....เพียงข้ามคืน
เพราะประทับใจจากการออกรายการหรือการโฆษณา
แต่พอใช้บริการจริง กับรู้สึกแย่กว่าที่คิดไว้
ทั้งๆที่...ถ้าเทียบกับราคา ก็ยังอยู่ในมาตรฐาน
พอๆกับร้านอื่น
.
.
.
นั่นเพราะ....ความประทับใจจากสิ่งที่เห็น
ก่อให้เกิดความคาดหวัง ที่สูงตามไปด้วยนั่นเอง
.
.
.
แต่กับชีวิตจริง
การเรียนรู้เรื่องความคาดหวัง
ควรเป็น "ผู้คนที่ประทับใจในสิ่งต่างๆ" มากกว่า
เพราะคุณจะเป็นคนทำลายความประทับใจเหล่านั้น
ด้วยตัวของคุณเอง
.
.
เราทุกคนล้วนอยู่ในลัทธิ "ความคาดหวัง"
โดยธรรมชาตินะครับ
.
.
และวิธีการที่เราใช้กับเจ้าความคาดหวัง
...ก็มักจะส่งผลที่ต่างกันออกไป
.
หากคุณถามคู่รักที่ครองรักกันยาวนาน
แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเนิ่นนานหลายสิบปี
แต่พวกเค้ายังจดจำ....ภาพที่ประทับใจ
ของอีกฝ่ายได้อย่างแม่นยำ
.
.
แต่ถ้าคุณถามคนที่เพิ่งเลิกรากันไป
ผมมั่นใจว่าส่วนใหญ่ภาพที่เคยประทับใจเหล่านั้น
มันได้หายไปจากความคิดของเค้าไปเสียแล้ว
.
.
นั่นเพราะคนกลุ่มหลังเลือกที่จะใช้
ความคาดหวัง....ไปเปลี่ยนภาพที่เคยประทับใจ
.
.
.
ให้เป็นภาพที่ตัวเองต้องการ
.
.
.
จนมันกลายเป็นภาพสะท้อน...ของตัวเอง
ที่อยู่ในตัวตนของคนอื่น.....และทำให้
คุณค่าของภาพความประทับใจนั้นหายไป
.
.
.
ส่วนคนกลุ่มแรกที่ครองรักมายาวนาน
มักจะเลือกที่จะเก็บมันไว้ ในส่วนที่ดีของความทรงจำ
ทุกครั้งที่มีปัญหากับความคาดหวัง
เค้าเหล่านั้นจะพบความประทับใจ
...ของอีกฝ่ายอยู่เสมอ
.
.
เพราะใช้มันเพื่อ "ย้ำเตือน"
มากกว่าจะเลือกความ "เปลี่ยนแปลง"
.
.
.
มาถึงตรงจุดนี้
ถ้าคุณจะเป็นนักสร้างความประทับใจ
ก็ขอให้มันออกมาจากตัวตนที่จริงใจของคุณ
เพราะมันจะไม่มีวันต่ำกว่ามาตรฐาน
.
และถ้าคุณเป็นนักคาดหวัง
ขอให้เลือกวิธีที่เหมาะสมกับมัน
.
.
อย่าคาดหวังโดยเอา "ตัวเองเป็นที่ตั้ง"
แต่ควรใช้ "ความเข้าใจ" เป็นตัวขับเคลื่อน
เพื่อรักษา "ภาพความประทับใจ" ที่ยังมีอยู่
.
.
ก่อนที่มันจะพาไปเจอเพื่อน.....ที่ชื่อว่า
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
"ความผิดหวังและความเสียใจ" ครับ
.
.
.
.
.
"รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์"
โฆษณา