4 ส.ค. 2019 เวลา 05:00 • ไลฟ์สไตล์
คนข้างๆ.....................
.
เมื่อ 10 กว่าปีก่อน สมัยที่ผมยังอยู่ในยุคอนาล็อก
สมาร์ทโฟนและโลกโซเชียลยังไม่เกิดนะครับ
ก็ได้รู้จักรุ่นพี่คนหนึ่ง แกมาจากต่างจังหวัด
แล้วดิ้นรนสร้างเนื้อสร้างตัวในกรุงเทพ
ทำแต่งาน ไม่เที่ยวเตร่
แล้วก็มีฝันอยากเปิดแกลเลอรี่เล็กๆ
.
เราเคยทำโปรเจคร่วมกัน
ก็เลยเจอกันทุกอาทิตย์
วันหนึ่งแกก็ชวนผมไปดูคอนเสิร์ตวงทีโบน
ซึ่งทำให้ผมประหลาดใจ
เพราะแกไม่เคยดูคอนเสิร์ต
หรือใช้เวลาทำอย่างอื่นนอกจากงาน
ก็เลยตอบตกลงแล้วไปดูกัน 2 คน
.
ระหว่างที่รอคอนเสิร์ตกำลังจะแสดง
แกก็เล่าเรื่องสาเหตุที่แกอยากมาดูวงทีโบนในวันนี้ว่า
แกคบกับแฟนคนหนึ่งมาตั้งแต่สมัยเรียนที่ มช.
จนถึงตอนทำงาน เป็นเวลาเกือบ 10 ปี
ฝ่ายหญิงอยู่เชียงใหม่
ส่วนฝ่ายชายย้ายมาหางานทำที่กรุงเทพ
.
แฟนของแกชอบเพลงแรงดึงดูดมาก
เพราะเป็นเพลงที่ทำให้ทั้งสองคนชอบกัน
แล้วสัญญากันว่าวันหนึ่ง
จะไปดูคอนเสิร์ตของวงทีโบนด้วยกัน
แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่เคยได้ไปดูด้วยกัน
เพราะมัวแต่ทำงานเพื่อให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
.
บางทีชีวิตก็คงไม่ได้สวยงาม
.
เพราะแฟนแกเพิ่งแต่งงานไปกับคนอื่น
เลยต้องมาดูกับผม
.
บทสรุปของความรักครั้งนี้
คงมาจากมุมมองคำว่าความสำเร็จหรือเส้นชัยที่ต่างกัน
ฝ่ายชายทำแต่งานเพื่อสร้างอนาคต
โดยมีความสำเร็จเป็นเส้นชัย เพื่อไว้ดูแลคนที่รัก
แต่ฝ่ายหญิงต้องการแค่อยู่ด้วยกัน
แล้วมีครอบครัวเป็นเส้นชัย
.
วันนี้ทั้งสองคนถึงเส้นชัยทั้งคู่
แต่เป็นความรู้สึกที่แตกต่างกันยิ่งนัก
เส้นชัยของฝ่ายชายคงเป็นเส้นชัย
ที่เงียบเหงาที่สุดในโลก
.
และคงเป็นผู้ชนะคนเดียวในโลกเช่นกัน
ที่เต็มไปด้วยความเศร้า
จากการรู้คุณค่าของคนข้างๆ
ในวันที่สายเกินไป
.
หลายต่อหลายครั้งที่เราทำคนข้างๆต้องเสียใจ
เพื่อแลกกับความฝัน ธุรกิจ หรืออะไรก็แล้วแต่
รู้ตัวอีกที คงเป็นวันที่เค้าไม่ได้อยู่ที่เดิมข้างๆเรา
.
ผมว่าถ้าวันนี้ถ้าเลือกได้
แกคงอยากเอาความสำเร็จทั้งหมด
แลกกับคนข้างๆคนเดิมกลับมา
.
พอคอนเสิร์ตเริ่มเล่น เราก็หยุดบทสนทนา
แล้วนั่งดูการแสดงของวงทีโบน
วงที่เป็นจุดเริ่มต้น
เรื่องราวความรักของคนหนึ่งคู่
.
.
เมื่อถึงช่วงท้ายของการแสดง
ในขณะที่ Intro ของเพลงแรงดึงดูดเริ่มบรรเลง
แกได้ทำบางอย่าง
ที่ทำให้เพลงๆหนึ่งเป็นได้มากกว่าเพลง
.
ก็ไม่ได้มีอะไรมากหรอกครับ
.
แค่แกหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
แล้วพูดคุยกับปลายสายว่า
"ขอโทษที่รบกวน
ตอนนี้เราอยู่ในคอนเสิร์ตทีโบน
วงที่เราเคยสัญญาว่าจะมาดูด้วยกัน
ชั้นขอโทษในหลายๆอย่าง ที่เกิดขึ้น
.
.ถึงวันนี้มันจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
ขอให้ฟังเพลงที่เธอชอบเป็นครั้งสุดท้ายร่วมกัน
.
.
เธอฟังนะ........................"
.
จากนั้นแกก็ลุกขึ้นยืนแล้วชูโทรศัพท์ขึ้นจนจบเพลง
.
ผมไม่รู้ว่าคนที่อยู่ปลายสายฟังแล้วจะเป็นอย่างไร
แต่ผู้ชายธรรมดาหนึ่งคนที่ยืนชูโทรศัพท์
กลางคอนเสิร์ตวันนั้น
.
เค้ายืนฟังเพลงนี้ด้วยน้ำตา
.
มันคงเป็นน้ำตาที่มีความรู้สึก
และความทรงจำมากมาย
ตลอด 10 ปีที่ผสมอยู่ในนั้น
.
และไม่ว่าวินาทีนั้น
คนสองนี้จะรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
แต่ผมคิดว่ามันคงเป็นเพลงแรงดึงดูด
ที่เพราะที่สุดในชีวิตของเค้าทั้งคู่
เพลงที่เป็นทั้งจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้าย
ที่ทำให้รู้จักคุณค่าของคนข้างๆ มากขึ้น
.
.
.
.
.
"เพราะโลกมันกว้าง คนข้างๆจึงสำคัญ"
คงไม่ต้องรอให้ฝันสำเร็จ แล้วค่อยดูแลกัน
.
.
จริงไหมครับ
.
.
.
"รองเท้าแตะเหยียบดวงจันทร์"
โฆษณา