5 ส.ค. 2019 เวลา 07:27 • สุขภาพ
toxic love หรือความรักเป็นพิษ ผมว่าพี่ๆหลายคนคงเคยเจอความรักมานี้ไม่มากก็น้อย ยังไม่เคยเจอเลยนี่ถือว่าโชคดีมาก ส่วนตัวผมก็เคยเจอมาบ้าง โดยเมื่อก่อนผมจะเป็นซะเองบ่อย 55+ (คือเป็นพิษต่อเขาเอง) โดยเฉพาะคน gen Z อย่างผม จะเจอความ Toxic ประมาณนี้ ซึ่งพี่ๆคนไหนเราอ่านดูก็ได้ครับเผื่อว่าอนาคตมีแฟนหรือมีน้องๆรุ่นผมจะได้รับมือได้ในอนาคตต่อไปครับผม เอามาเล่าสู่กันฟังครับ
1.งอลเพราะไม่ค่อยให้เวลา
คือผมเข้าสู่วัยทำงานแล้วเนาะก็ให้เวลากับคนที่ตัวเองรัก บอกว่าน่าจะมีหลายคนนะมีแฟนเป็นแบบผม ก็มีประมาณคนนึง พอเราคุยน้อยเราสื่อสารกันน้อยก็จะเกิดอาการงอลหรือการอะไรดีขึ้นได้ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมเจออยู่นะ
วิธีแก้ :
ให้เวลาเขาหน่อย ดูแลเอาใจใส่หน่อย แล้วก็ ฟังเขาเรื่องเขาอยากให้เล่าอีกเรื่องราวเขาอีกเยอะๆ แล้วเราก็อธิบายเป็นเรื่องที่เราไม่มีเวลาให้ เพราะอะไร แต่อย่าโทษคนอื่น จะดีขึ้นไวครับ แล้วก็จะปรับปรุงแก้ไข
ความรุนแรง 1 - 5
Level 1 ธรรมดาทั่วไป
ความคิดเห็นส่วนตัว :
ใครเจอน้องๆหรือแฟนรุ่นผมที่เป็นอย่างนี้ถือว่าอันนี้ไม่ความรักเป็นพิษนะครับ เป็นเรื่องธรรมดาธรรมชาติครับผมแก้ไขได้ ดีขึ้นตามเวลาครับ
2.หึงเราคุยเรื่องงานกับคนอื่น (ต่างเพศ หรือ เพศเดียวกัน)
ในกรณีนี้คือ คุยกันเรื่องงานจริงๆนะครับเเล้วบางทีมีประชุมมีโปรเจคต้องยาวคุยนานหลายนาทีแล้วเกิดมีความหึงหวงขึ้นแบบหึงไม่มีเหตุผล แค่แบบคุยกับคนอื่นแบบนี้ ปัญหาเด็กน้อยมากแต่สะสมๆน่ารำคาญสุดๆ
วิธีแก้ : ถ้าแบบหายเลยก็ที่ผมใช้หรือหลายๆคนได้ผลคือเอาไปคุยงาน ด้วยเลย ไปเจอให้รู้จัก หรือ อาจจะเวลาคุยโทรศัพท์นั้นเปิดลำโพงด้วยเลยเพื่อให้เกิดความสบายใจทั้งหมด แต่ถ้าไม่ดีขึ้นก็ต้องดูตามนิสัยคู่รักของเราด้วย
ความรุนแรง Level 2
น่ามคาน ลำไย (น่ารำคาญ) ภาษาวัยรุ่น
อันนี้เริ่มมากขึ้นแต่ก็แก้ได้ครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว :
ถ้าไม่มีอะไรก็ทำให้คลีนๆครับคุยแบบเอาใจเขาอย่าชมเพศตรงข้ามที่เราชอบให้เขาฟังหรือเอ่ยชื่อจะช่วยได้ครับ คุยกันดีๆหน่อยแต่ไม่ต้องหงอยมากนะครับเราไม่ได้ทำอะไรผิดน่าจะช่วยได้แต่ดูนิสัยคนรักเราด้วยนะครับ
3. 1 + 1 = 1
อันนี้โหดมากและหลายๆคนเจอคือแฟนตัวติดเรามากกกกกกกกแต่ เราไม่ชอบตัวติดแบบจริงจัง (ผมเป็น) และ พอเราห่างเกิดความไม่ไว้ใจทั้งๆที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด หรือ มีข้อคดีแผลเก่ามาก่อนหน้านี้เลย 1+1= 2 นะครับ แต่ ถ้า 1+1 = 1 แต่ถ้าเราชอบก็จบครับ ไม่มีปัญหาน่ากลัวบริหารดีๆก็ราบรื่นครับ แต่ ถ้าเราไม่ชอบนี่ยาวเลย เพราะว่าโลกส่วนตัวเรา กับเขา จะมารวมกันทั้งหมด จนบางทีเราอึดอัด (ตัวอย่างเช่นเพลง Lula - เรื่องที่ฉันขอ) เป็นอะไรที่ทรมารมากสำหรับคนที่มีโลกส่วนตัวรักอิสระ หรือ ทำอะไรแบบติ้สๆ ไปกับเพื่อน ไม่มากก็น้อยครับ
วิธีแก้:
เปิดใจคุยกันเลยครับว่า เรามีโลกส่วนตัวจริงๆ แบบนี้ๆ เราสามารถทำร่วมกันได้ไหม เช่น ผู้ชายเล่นเกม ก็อาจจะเอามาลองเล่นด้วยกัน (แต่ไม่ต้องลงแข่งเข้มๆนะ) ทำกิจกรรมร่วมกัน ทั้งเขาและเรา และต่างลองคุยถึง Space ที่เขาและเรา ต้องการ ไม่ได้เพื่อมีคนอื่นนะครับ แต่ เรามาเป็นเพื่อนร่วมชีวิตกัน เราต้องคุยกันได้ครับ เพราะคนรักพออยู่ร่วมกันนานๆก็สเหมือนเพื่อนร่วมชีวิตที่ดีที่สุดที่วันหนึ่งก็ต้องจากเป็นหรือจากตายอยู่ดีครับ แต่ที่สำคัญดูแลจิตใจซึ่งกันและกันอย่างตั้งใจเต็มใจมีความสุขครับ
ความรุนแรง Level 3
อะไรวะเนี่ยยย หรือ อะไรนักหนา มีโลกส่วนตัวเหมือนกันนะโว้ยยย
หรือเรียกสั้นๆว่า โลกหาย ก็ได้ครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว :
ผมอาจจะยังเด็กมาก พึ่งจบแต่มาพูด เรื่องนี้ แต่ขออนุญาตแบ่งปันประสบการณ์ครับ ผมใช้ชีวิตคู่แต่เด็ก แบบมีแฟน ตั้งแต่เด็กๆเลยครับ ( 10 ขวบ มีแบบลึกซึ้งพอสมควร) เนื่องจากสังคมตอนเด็กผมไม่ค่อยโอเคเท่าไหร่ครับ ผมปัจจุบันเข้า 23 แต่แฟนเก่าผมก็อยู่กันมา 12 ปี ครึ่ง ก่อนที่เขาจะแต่งงานไปแล้วครับ ผมเป็นผู้ชายแท้ๆนะ 55555+ แต่เมื่อก่อนผมเป็นผู้ชายไม่ค่อยดีเท่าไหร่ครับ เลยได้เจออะไรหลากหลายแบบไม่ดี ก็ บอกเลยว่าเปิดใจคุยและพาไปทำด้วยกันหลายๆกิจกรรมครับ แต่ถ้าติ้สๆแบบผมบ้างก็ อาจจะขอเวลาสัก ชั่วโมง สอง ชั่วโมง ทำสิ่งที่เรารัก หรือ ถ้าเล่นเกมก็เล่นต่อหน้าเขาให้เขานอนเราก็เล่นเกมตอนต่อหน้าเขาก็ได้ครับ แต่เวลาเราหัวร้อนก็ต้องระวังหน่อยนะครับ 55+ ส่วนเขาขอเวลาบ้างเราก็ไปทำกับเขาครับ แล้วก็ไว้ใจกันสำคัญมากๆครับ
4. Negative มองโลกแง่ลบ
คนเรามองลบบ้างบวกบ้างเป็นเรื่องปกติครับ แต่ถ้าเกิดกรณีมองลบอย่างเดียวเลยทั้งๆที่มีเรื่องดีๆเกิดขึ้นมากมายนี่ทรมารมากครับ ตัวอย่างเช่น บางท่านกิจการดีมาก ผลิตไม่ทันลูกค้าเยอะ แต่แฟนเครียดมาก ว่าเรามีปัญหาเรื่องการผลิต ต่อไปแย่แน่ๆ แย่แน่ๆ เป็นต้นครับ ในสถานการณ์แบบนี้ ควรหาทางช่วยกันแก้ครับ และ ทุกปัญหาแก้ได้ครับ ยกเว้นปัญหาหัวใจ 5555+ แต่ต้องคุยกันด้วยความรักนะครับ ว่า ผมใช้เช่น ถ้าเราอยู่ในห้องๆ นึง แล้ว เราต้องการออกจากห้อง เราจะมองหาอะไร กำแพง ปลั๊กไฟ หรือ ประตู ? ต้องลองคิดดูนะครับ ถ้าประตูออกไม่ได้ มองหน้าต่าง ช่องลม หรือ กำแพง แข็งไหม ทำลายได้ไหมครับ หรือตอนที่เรากำลังเริ่มทำธุรกิจแล้วแฟนไม่เห็นด้วย ฟังแล้วเราว่าไปได้แต่ทะเลาะกันมาก มีวิธีแก้ครับ คือลองทำแบบ ลงน้อยๆดู ถ้าไปได้เขาจะเริ่มดีขึ้นเองแต่ต้องใช้เวลาครับ มุมมองความคิดสำคัญมากมายเลยครับ
ความรุนแรง Level 2 and Level 4
แก้ได้ Growing mindset level 2
ก็ไม่รุนเเรงครับ ทำให้รักกันมากขึ้นด้วยครับ เพราะมองลบเพราะเขาเป็นห่วงเราเนี่ยแหละครับ
Level 4 Fix mind set
อันนี้เหนื่อยหน่อยครับ แต่คุยแล้วไม่เคลียร์อย่าพยายามไปแก้ที่เขานะครับ แก้ที่ตัวเราเองพัฒนาตัวเองนะครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว :
ผมคุยปรับตัวเองเยอะเลยครับว่าเรามองแบบนี้เพราะแบบนี้นะ ลองดูเนาะ ถ้าพลาดก็ไม่เสียหาย แต่ไม่ทำก็ไม่มีอะไรก้าวหน้าเลย และผมสนใจความคิดคู่คิดคู่ชีวิตมากครับ ถ้าคิดลบ แก้ไม่ได้ ทำอะไรไม่ได้ ก็ต้องคุยกันจริงจังเลยครับว่า ไปกันยังไง ถ้าประมาณนี้ ถ้าไม่ใช่จริงๆต้องลองคิดดูครับ สำหรับผมความรักแบบคู่ชีวิตสำคัญมากครับ แต่พ่อแม่ หรือ ครอบครัว ความฝันของเรา สำคัญมากไม่แพ้กันครับ ที่เราต้องดูกันดีๆเรื่องนี้เพราะส่งผลต่อพลังงานชีวิตเรามากครับ เหนื่อยกายแปปเดียวหายครับ เหนื่อยใจนี่ ยาวววววววววว ครับ
5.Attitude And Vision
คนละเรื่องเดียวกันนะครับเพราะ คนละความหมายแต่ส่งผลกระทบไม่แพ้กันเลยครับ คิดง่ายๆนะครับ ถ้าคุณต้องการมีชีวิตที่มีความสุข ประสบความสำเร็จในแบบของเรา ไม่ต้องร่ำต้องรวยมาก มีอะไรแบบเล็กๆพอตัวมีความพอดีพอเพียง แต่ คู่ชีวิตเรามองว่า ชีวิตต้องมันส์ แบบดื่ม แบบเที่ยวกลางคืนตลอดๆ อนาคตช่างมัน ไม่ต้องคิด เงินไม่ต้องเก็บ งานไม่ต้องทำไม่ต้องสนใจอะไรทั้งนั้น ชีวิตโดนกำหนดมาหมดแล้ว ...
พอนึกภาพออกใช่ครับว่าอนาคตมันจะไปกันได้หรือเปล่า ใช่เลยครับไม่น่ารอดถ้าไม่ปรับกัน ดังนั้นแล้วทัศนคติในการมองอนาคตเป็นเรื่องสำคัญมากครับมากๆ
Level ความรุนแรง 5
ต้องปรับทัศนคติ
5555+ คุ้นๆนะคำนี้
วิธีแก้ไข :
ต้องคุยกันเลยนะครับเพราะว่ามีความสำคัญมากต่อชีวิตคู่ลองคิดดูนะครับว่าผมชื่อว่าคนเล่นบล็อกดิทในนี้แต่ละท่านอายุไม่น้อยคือยังไงก็ต้องเกิน 16 17 ขึ้นไปเพราะว่าในนี้มีแต่คนมีความรู้แล้วก็มีคุณภาพมากๆครับ ลองคิดดูนะครับว่าสมมุติเราอายุ 25 แล้วเรามีแฟนที่ความคิดอนาคต ไม่ใกล้กับเรา ในความคิด ซึ่งในความเป็นจริงเนี่ยความคิดสิ่งที่ฝันสิ่งที่เราตั้งใจแล้วเราลงมือทำมันมีโอกาสเป็นไปได้อยู่แล้วครับ ไม่ใช่เรื่องเพ้อฝัน แล้วไปกันไม่ได้จริงๆแต่เรา ทนคบไปเป็นเวลา 5 ปี สมมุติว่าเราเป็นผู้หญิง เราคบไป 5 ปีเราอายุ 30 เราเลิกแล้ว ไม่ใช่จะหาใหม่ได้เลย เราอาจจะมีแผลเราอาจจะมีความเจ็บปวดตีไปแล้วกว่าจะเริ่มต้นใหม่ 31 31 สำหรับผู้หญิงนี่ ก็ถือว่าเริ่มหาแฟน ยากแล้วบางท่านนะครับ เพราะว่าความเชื่อคนไทยนี่ถ้าเป็น คุณผู้หญิงวัย 30 นี่ คือถือว่าเริ่มมีคุณวุฒิแล้วสำหรับบางคนนะครับ ทำให้ผมบอกว่า มันอาจจะเสียเวลาได้ แต่สำหรับผู้ชาย เราอาจจะเจอคนที่ใช่กว่าก็ได้ในระหว่างที่คุยกับเขาหรือเราคบกับเขา ถ้าเราปรับกันไม่ได้เพราะว่ามันไม่ดีทั้งคู่เท่าไหร่ครับ แต่ไม่ได้หมายความว่าจะต้องมองเหมือนกันทุกอย่างนะครับ เพราะว่ายังไงความรักก็เปรียบเสมือนจิ๊กซอครับที่ต้องมาเติมเต็มกัน ไม่ใช่ขาดแล้วมาเข้าหากัน ที่สำคัญเลย เธออย่าโทษคนอื่น อย่าโทษแฟนเราอย่าโทษคู่ชีวิตเรา เราต้องกลับมามองตัวเองว่า เราต้องปรับปรุงแก้ไขสิ่งไหนให้ดีขึ้น เพื่อเดินต่อไปได้ครับ แล้วก็เราต้องพูดในอนาคตว่าเรามีเขาเสมอเรานึกถึงเขาในนั้นเสมอและสิ่งนั้นจะมีประโยชน์อะไรกับเขาด้วยครับ เพราะอย่าลืมว่า ถึงจะเป็นความรุนแรงที่สุดแต่จะไม่รุนแรงเลยก็ได้ ถ้าเราสามารถ ไปด้วยกันได้ พบปัญหาแต่ละคู่ไม่เหมือนกันครับ ที่สำคัญเลยคือเราต้องคุยกันด้วยความรักอย่าใช้อารมณ์ และอย่าใช้เหตุผลมากมายแต่ต้องใช้หัวใจที่อยากจะพาเขาไปในสิ่งที่ดีขึ้นไปกับเรา เพราะว่ามีการวิจัยออกมาว่าที่จริงแล้วนะครับ เราไม่ได้ดึงดูดสิ่งที่เราอยากจะได้เข้ามาหาเรา แต่เราจะดูด สิ่งที่เป็นตัวเราเข้ามาหาเราครับ
Spacial :
กรมชลประทาน
::: นักขุด :::
ขุดตั้งแต่พระเจ้าจิ๋นซีฮ่องเต้มาว่าเราครับ บอกเลยว่า เข้าใจครับแล้วก็เหนื่อยแทน เคยมีแฟนประมาณนี้ ครับเป็นเรื่องราวที่พูดแล้วไม่ต้องพูดอะไรมากสำหรับคำว่านักขุดนะครับ แต่ถ้าใครนึกไม่ออกก็สมมุติคบมา 10 ปีทะเลาะกันที ขุดเรื่องความผิดตอนคบกัน 3 วันมาด่ากันนะครับ บอกเลยว่าเหนื่อยใจสุดๆครับแต่รู้ไว้ว่าเป็นเรื่องปกติครับเพราะมนุษย์เรา เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีความผิดพลาดเป็นธรรมดาอยู่แล้วครับ ก็มาดูวิธีแก้กันดีกว่าครับ
Level : 999
เรื่องนี้อีกแล้วเหรอ
วิธีแก้ :
ให้เราขอโทษไปนะครับอย่าไปเถียง อย่าไปต่อกรกับเขานะครับ แล้วก็ถ้าทุกอย่างเริ่มดีขึ้น ตอนที่อารมณ์ดีๆแล้ว เราคุยกันครับว่า ตรงนี้ คิดว่ายังไง เราจะแก้ไขมันด้วยกันได้ไหม เพราะว่าเราอยู่กันไป มีลูกมีหลาน มันต้องมีความผิดเกิดขึ้นอีกมากมาย เห็นใจที่รัก ที่จะต้อง เหนื่อยในการจดจำ 55555+ ขำไม่ใช่อะไรนะครับคือมันเข้าตัวเองครับ ก็ อันนี้เป็นแค่ไอเดียที่ช่วยคิดนะครับ ว่าน่าจะดีขึ้นในการคุย แต่ถ้าเกิดมีปัญหาด้านนี้จริงๆ ลองคุยเพื่อหาทางปรับกันดูครับ
ความคิดเห็นส่วนตัว :
ไม่มีใครเพอร์เฟคครับ แต่ถ้าใครมีเรื่องนี้อยู่ หรือใครเป็นคนขุด เห็นใจครับ เห็นใจตัวเราเองด้วยครับที่จะต้องเหนื่อยในการจำเรื่องที่ความผิดของคนรักเรา มันจริงๆนะครับคนเรามีความผิดพลาดอยู่แล้ว ไม่มากก็น้อย ขนาดเป็นพระอรหันต์ ท่านเคยทำผิดพลาดเลยครับ อันนี้พูดในแนวศาสนาพุทธนะครับ แต่ละศาสนาอื่นก็มีความผิดพลาดกันครับในด้านการกระทำของมนุษย์เรา เพราะเราเป็นมนุษย์ไงครับ ในทางกลับกัน หุ่นยนต์ คอมพิวเตอร์ ยังมีผิดพลาดยังมี error ยังมีขึ้น blue death เลยครับ แต่เป็นเรื่องปรับกันได้ถ้าเข้าใจกันนะครับ
สุดท้าย :
แฟนเก่าผมจะแต่งงานไปเมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ปัจจุบันคุยกันดีครับแล้วก็ไม่ได้รู้สึกไม่ดีอะไรเข้าใจก็โตกันแล้วว่าเป้าหมายระยะยาวในชีวิตในการมองอนาคตไลฟ์สไตล์ไม่ได้เหมือนกัน ด้วยความที่โตขึ้นแล้วก็จะไม่เข้าใจตัวเองแล้วเดินหน้าไปต่อได้ครับแต่สิ่งที่สำคัญกว่าการที่เรามองว่าคู่ชีวิตเรานั้นเป็นพิษหรือไม่ให้เรามองว่าเวลาที่เรายังมีคนรัก คนจะเป็นคู่ชีวิตกับเราอยู่ เป็นแฟนเรา เราใช้เวลาทุกวินาทีดูแลเขาถนนเส้นทางความรักถนอมหัวใจเขา ตั้งใจซึ่งกันและกันมากน้อยแค่ไหน หัวต่อทำดีที่สุดแล้ว เจ๋งมากๆแล้ววันที่เราเลิกรากันไปวันที่เราต้องแยกทางกันไป เราเสียใจแน่นอนครับ ผมก็เสียใจเหมือนกัน แต่เมื่อเวลาผ่านไปเราจะเสียใจน้อยลงจะเข้าใจครับว่าเราสุดยอดแล้วในการทำตรงนั้น และเราจะไม่รู้สึกผิดกับตัวเองครับในการก้าวต่อไป
ผมอยากจะฝากถึงเวลาทะเลาะกัน เรา ใช้อารมณ์กันได้นะครับ แต่เราต้องรักกัน (ฟังดูย้อนแย้งก่อนหน้า 5555+) ความรักกันด้วยนะครับมันทำให้เรายังอยู่ด้วยกัน ใครที่กำลังทะเลาะกับคนที่เรารักอยู่ มันเป็นสิ่งที่ดีด้วยนะถ้าเรามองอีกแง่หนึ่ง มันทำให้เรา จะเข้าใจกันมากขึ้นด้วยครับ เวลาคนเจอปัญหาด้านความรัก หรือคนที่คุณสนิทด้วยจะปัญหาด้านความรัก คำปรึกษาแล้วเป็นคำถามซ้ำๆที่เรารู้สึกว่า "น่าจะคิดได้นะ" "ไม่เห็นยาก" ใช่ครับ มันไม่ยากเลยครับ ถ้าเกิดว่าสิ่งๆนั้น สามารถวิเคราะห์ได้ด้วย สมอง แต่ความเป็นจริงไม่ใช่ครับ เวลาเราใช้ความรัก เราวิเคราะห์ด้วยหัวใจ ดังนั้นแล้ว เอาใจเขามาใส่ใจเราพอเวลาที่เราเป็น เราก็ลำบากในการผ่านไปเหมือนกันครับ 55+
ท่านไหนที่มีปัญหาด้านความรักอยู่มีปัญหาเรื่องหัวใจอยู่ หรือโสดเหงาเศร้าทำไมไม่มีคู่ นึกไว้ครับว่า เราไม่เป็นคนเดียวครับ เรามีเพื่อนที่เป็นเหมือนเราทั้งโลก ผมก็เป็น 55+ มันเป็นเรื่องปกติครับ แต่ถ้าเกิดว่า เราไม่มีแฟน เราไม่มีคนคู่ชีวิต ก็มีความดีมากๆ ที่เรามีอิสรภาพ เป็นของขวัญในการที่เราได้มาครับ ที่คนอื่นไม่ได้
เรา ลองดูนะครับว่าในโลกนี้ไม่มีใครเพอร์เฟค อย่างที่ท่านพุทธทาสท่านว่าไว้ครับ ว่าไว้ว่า มุมมองให้มองแต่ด้านดีเขาไว้จะสุขใจกว่าอะไรประมาณนี้ครับ ถ้าท่านไหนจำได้ฝากเม้นหน่อยนะครับ 555+ ขอบคุณครับ
เพชร ภมรพล
เราอยู่กับคุณเสมอ
โฆษณา