6 ส.ค. 2019 เวลา 04:25 • ธุรกิจ
5 ข้อควรระวังเมื่อคุณกำลังขายดี
1.การขยับฐานะขึ้น
- เรื่องนี้ว่ากันไม่ได้ มีเงินมากขึ้นใครก้ออยากมีชีวิตที่ดีขึ้น แต่แค่เตือนไว้เรื่องเดวคือ "ทุกธุรกิจมีความไม่แน่นอน" สิ่งที่เคยดีในวันนี้ ไม่ได้แปลว่ามันจะดีในวันมะรืน
อย่าได้พยายามมองโลกในแง่ดีเกินไปว่า สิ่งที่หาได้จะไม่มีวันลดลง เวลายอดมันหาย มันหายแบบเล่นเอางงตั้งตัวไม่ทัน ไม่เหมือนกับงานประจำที่ก่อนไล่ออก เค้ายังมีการแจ้งล่วงหน้าเดือนสองเดือน
มีเยอะใช้เยอะได้ แต่อย่าใช้จนหมด เหมือนจะรีบตายพรุ่งนี้ ภาระระยะยาวเช่นบ้านหรือรถ เอาให้แน่ใจว่า ต่อให้ยอดขายแย่สุดๆ เราก้อยังผ่อนไหว ปัญหาเรื่องนี้ก้อจะเบาไปเยอะ
2.จมกับสตอค
- ยิ่งขายดี ยิ่งสตอค ยิ่งสตอค เงินยิ่งหายไปไหน(วะ) เพราะเชื่อว่ายอดขายจะดีไปตลอด
ความพราวจึงบังเกิด สตอคเยอะไปเลยจะได้ไม่มีปัญหาของขาด แถมได้ราคาต้นทุนที่ถูกลงด้วย เอาเข้าจริงวันดีคืนดี เกิดเหตไม่คาดฝัน อยากจะออกจากธุรกิจตัวนี้ก้อออกไม่ได้ เพราะอมสตอคไว้เยอะเกินไป เสียโอกาสในการเติบโตกับธุรกิจตัวอื่น
เกิดเปนความเครียดสะสม กลายเปนยิ่งขายดียิ่งไม่มีความสุข
3.เผากับการตลาดแบบเอาหน้า
- ขายดีแล้ว มีเงิน ก้อเริ่มอยากมีหน้ามีตา มีแบรนด์ที่อวดชาวบ้านได้ ลงทุนจ้างทำคอนเท้นราคาแพงที่บางทีไม่ได้ตอบโจทย์กับยอดขาย
ทำคอนเท้นแบบรีวิวบ้านๆเจาะกลุ่มเป้าหมาย ขายดีมาตลอด วันดีคืนร้ายนึกอยากมีพรีเซนเตอร์จ้างดารามาถือหวังยกระดับแบรนด์ และ หน้าตาทางสังคม หมดเงินไปเป็นล้าน ยอดขายกลับไม่เพิ่ม
ถ้าซวยหนักลูกค้าที่เป็นฐานเดิม เกิดรู้สึกว่าแบรนด์นี้เริ่มมีความเปน "mass" จนไม่อินกับสินค้าเหมือนตอนเราทำการตลาดแบบ "niche" แบบเก่าๆ
เท่ากับว่าไปจ่ายเงินซื้อความชิบหายให้กับแบรนด์ตัวเองเลยทีเดว
4.ขยายธุรกิจเร็วไป
- ยอดขายดีต้องมีลูกน้อง เติมโตด้วยขนาดขององค์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีเสมอไป บริษัทจะโต โตตามคุณภาพของคน ไม่ใช่ปริมาณของลูกน้อง หลายๆธุรกิจพังลงเพราะจำนวนคนที่มากเกินไป เพราะคนเปนได้ทั้งโอกาสและปัญหา (และนี่เป็นเหตผลว่า ควรเน้นคุณภาพไม่ใช่ปริมาณ)
ก่อนจะขยายองค์กรลองมองดูว่า บุคลากรที่เรามีอยู่ เราได้ดึงศักยภาพเค้าออกมาเต็มที่แล้วรึยัง
5.ลงทุนในเรื่องที่เราไม่รู้จัก (ก้อเค้าว่าดี)
- ขายดี มีเงิน ความพราวจึงบังเกิด (อีกแล้ว) เกิดพุทธิปัญญาว่า กรุนี่แม่งอัจฉริยะจิงๆที่พาธุรกิจมาไกลถึงเพียงนี้ คนแบบกรุทำอะไรก้อต้องสำเร็จอยู่วันยันค่ำ
พาตัวเองเข้าสู่การลงทุนที่ไม่รู้จักดีพอเช่น หุ้น อสังหา หรือ แม้แต่สินค้าที่เหิดมาไม่เคยทำความรู้จักกับตลาดนี้มาก่อน
คนงบน้อยจะประมาณตน ถ่อมใจ จะลงทุนแต่พอเซฟ ใช้เวลาและเงินที่มีทำความเข้าใจกับตลาดก่อน พอเห็นว่าไปได้ มั่นใจถึงเริ่มลงทุนเต็มตัวเอากำไรต่อกำไรไปเรื่อยๆ (จิงๆก้อคือคนเดวกันในวันที่ไม่มีตังค์น่ะแหละ)
แต่พอมีเงิน ยอดขายดี คนอวย หูดับ ตาฟ่าฟาง คติที่เคยเตือนตัวเองให้ระวัง กลายเป็นความคิด "ของพวกคิดเล็ก" คนรวยต้องใช้เงินต่อเงินดิวะ ไม่ว่าจะด้วยสังคมที่เปลี่ยนตามฐานะ หรือ สมองที่โดนเงินตรากัดกินจนสมองพาร่างกายเข้าสู่วงจรอุบาท ทำธุรกิจแบบไม่ลงทุนกับความรู้ก่อน สุดท้ายกลายเปนติดลบยิ่งกว่าตอนที่ยังไม่เคยทำธุรกิจตัวแรกด้วยซ้ำ
นึกออกเท่านี้ เขียนเท่านี้ก่อนละกันเนอะ ที่เขียนเป็นเรื่องจริงที่เคยเจอกับที่กรูเคยเป็นเอง
เอามาเล่าสู่กันฟัง ใครมีประสบการณ์แบบที่ว่าหรือไม่ได้ว่าไว้ ลองแชร์ข้อคิดเตือนใจเพื่อนๆในกลุ่มใต้คอมเม้นได้นะคนับ
รักเสมอ เพราะเธอคือดาวหลงทาง ❤
คยต
โฆษณา