9 ส.ค. 2019 เวลา 07:39 • ธุรกิจ
นิทานไอเดีย เปลี่ยนซากหนูเป็นเงินล้าน
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วในแผ่นดินอันไกลโพ้น ชายยากจนคนหนึ่งชื่ออาหลง เขาทำงานวันต่อวันด้วยค่าแรงที่ไม่เยอะมาก ถึงแม้จะไม่ร่ำรวยทรัพย์สินเงินทอง แต่อาหลงก็ไม่ได้เดือดร้อนกับการไม่มีเงิน จนกระทั่งวันหนึ่งแม่ของเขาเกิดป่วย อาหลงต้องการเงินเพื่อพาแม่ไปรักษา แต่ด้วยฐานะอันต่ำต้อยของตัวเอง ทำให้อาหลงเจอปัญหาการเงิน ครั้นจะไปทำบัตรคนยากจนที่ทางพระราชาทรงออกให้ แต่อาหลงรู้สึกว่าไม่ดีถ้าจะมีใครว่าตราหน้าว่าเขาเป็นคนจน ประกอบกับเพื่อนๆของอาหลงได้ทำบัตรคนจนแล้วเอาเงินไปซื้อสุรา กินอาหารจากโรงเตี๊ยม 5 ดาว เที่ยวหอนางโรม และใช้เงินที่ได้มาเดินทางท่องเที่ยวทั่วยุทธ อาหลงไม่อยากเป็นอย่างนั้นเลยตัดสินใจไม่ทำบัตรคนยากจน
ทางออกของอาหลงคือ เศรษฐีจาง ชาวบ้านทั่วทั้งหมู่บ้านรู้ว่าเศรษฐีจางเป็นคนจิตใจโอบอ้อมอารี อาหลงเลยตรงปรี่ไปที่ท่าน หวังว่าจะกู้เงินเพื่อไปรักษาแม่ให้ทันท่วงที เมื่อเจอเศรษฐีจางและพยายามอ้อนวอนขอเงินจากท่าน เศรษฐีจางคาดว่าอาหลงคงไม่มีปัญญาหาเงินมาคืนแน่ๆ น่าจะกลายเป็นหนี้เสีย ขืนฮูหยินรู้เข้าว่าเอาเงินให้คนแปลกหน้ายืมชีวิตเศรษฐีจางคงหาไม่ แต่ครั้นจะไล่ไปก็กลัวจะเสียอิมเมจที่สั่งสมมา เลยตัดสินใจออกอุบายให้อาหลงเอาไปปฏิบัติตาม พร้อมกับหยิบยื่นซากหนูที่ฮูหยินสั่งให้เศรษฐีจางเอาไปทิ้งให้กับอาหลง
“ถ้าเจ้าเป็นคนกตัญญู ฟ้าดินจะเปลี่ยนซากหนูตัวนี้ให้เป็นทองคำ ข้าจะไม่ให้ปลาเจ้าหรอกนะเพราะนั่นจะทำให้เจ้ายากจนทั้งชีวิต แต่ข้ากำลังจะยื่นเบ็ดและสอนให้เจ้าไปตกปลา” พอพูดจบ เศรษฐีจางรีบปิดประตูเข้าบ้าน ส่วนอาหลงยืนหลงๆพร้อมกับความสงสัยว่าเคยได้ยินประโยคหลังมาจากท่านผู้นำประเทศไหนกันนะ…???
อาหลงรู้สึกมีความหวัง แต่ด้วยความโง่ เขาไม่รู้ว่าตัวเองจะทำอย่างไรกับซากหนูตัวนั้นดี อาหลงเลยตัดสินใจเคาะทุกประตูบ้านในระแวกนั้น พร้อมกับเสนอขายซากหนู เขาเดินเคาะอยู่ 1 ชั่วยามเต็มๆ จนในที่สุด ก็มีหญิงสาวจะซื้อซากหนูเพื่อเอาไปให้แมวของตัวเองกิน อาหลงไม่ใช่พ่อค้า เขาขอค่าซากหนู 10 ตำลึงซึ่งน่าจะพอค่ารักษาพอดี หญิงสาวเลยด่าเบาๆว่า พ่อXXXX พร้อมกับยื่นเงินให้ 3 หุน อาหลงคิดในใจว่าไม่พอ เลยอยากจะหารายได้เพิ่มต่อ
ด้วยความกระหายน้ำ อาหลงเอาเงินนั้นไปซื้อน้ำหวานดอกไม้ทาน พร้อมกับคิดในใจว่าถ้าเขาหิวได้ คนอื่นก็ต้องหิวน้ำได้เช่นกัน อาหลงเลยขอซื้อน้ำหวานดอกไม้แบบเหมา 3 หุนแล้วนำไปขายข้างทางให้จอมยุทธทั่วยุทรจักร เพื่อนๆของอาหลงเห็นธุรกิจเล็กๆของเขาแล้วก็หัวเราะ พร้อมค่อนขอดว่าจะทำงานเองทำไมให้เหนื่อย โง่จริงๆ สู้พวกข้าไม่ได้ มีบัตรคนยากจนแล้วก็มีเงินใช้ฟรีทุกเดือน ไม่ต้องทำงานเองให้เหนื่อย รู้จักมั้ยฮะ Passsive Income คนจะรวยมันต้องมี Passsive income
อาหลงคิดในใจ จริงๆแล้วบัตรคนจนเขามีเอาไว้ให้คนที่ขยันแต่ดันมีปัญหาการเงินไม่ใช่หรือ แต่อาหลงก็ไม่ได้พูดและทำเป็นหูทวนลม
ไม่นานอาหลงก็ขายหมด ได้เงินมา 8 หุน เยอะกว่าเดิมอีก อาหลงดีใจสุดๆไปเลย แต่ก็ยังไม่พอค่ารักษา แต่ระหว่างที่เคาะบ้านแต่ละหลัง เขาสังเกตุเห็นว่าบ้านหลายหลังมีเศรษฐกิ่งไม้ใบไม้กระจายเต็มสวนไปหมด อาหลงเลยเกิดความคิด เขาเคาะประตูบ้านทุกหลังอีกครั้งพร้อมเสนอบริการทำความสะอาดสวนให้ฟรี ซึ่งเกือบทุกบ้านก็ยินดีให้อาหลงทำ อาหลงเอาน้ำอ้อยที่เหลือแจกให้เด็กๆแถวนั้น แลกกับการที่ให้เด็กๆช่วยขนกิ่งไม้ใบไม้มากองไว้ให้เขา
เขาเอากิ่งไม้ทั้งหมดไปขายให้กับร้านอาหารร้านดังเพื่อใช้เป็นฟืนในราคา 2 ตำลึง ร้านอาหารดีใจมากเพราะขี้เกียจออกไปหาฟืนเอง เลยรับซื้อกิ่งไม้ทั้งหมดแต่โดยดี เขาเอาเงินวนกลับไปซื้อน้ำหวานดอกไม้มาขายอีก คราวนี้ล็อตใหญ่กว่าเดิม ขายให้ลูกค้านักท่องยุทธจักรเหมือนเดิม และเขาก็เริ่มเห็นว่าจอมยุทธหลายคนขี่ม้า ถ้าฐานะดีหน่อยก็ขี่ม้ายุโรป และบางคนที่เป็นเศรษฐีก็ขี่ซูเปอร์ม้า เขาเลยไปเก็บหญ้ามาขายเป็นสินค้าเสริมด้วย เจ้าของม้าหลายคนดีใจมากเพราะทั้งคนทั้งม้าจะได้พักผ่อน อาหลงทำอย่างนี้ซ้ำๆไปเรื่อยจนเก็บเงินได้ 15 ตำลึง เขารีบกลับบ้าน เอาเงินพาแม่ไปหาหมอทันที
เมื่อแม่หายดีแล้ว อาหลงไปขอบคุณเศรษฐีจางทันที เศรษฐีจางชื่นชมอาหลง พร้อมกับสอนว่ามีเงินอย่าฟุ่มเฟือยแต่ก็อย่าตระหนี่จนชีวิตไม่มีความสุข จงเก็บหอมรอมริบสร้างเนื้อสร้างตัวและถ้าเป็นไปได้อย่าพึ่งมีรีบฮูหยิน เข้าใจมั้ย ยังไม่ทันจบประโยคดี ก็มีเสียงผู้หญิงดังมาจากในบ้านว่า “อีผัวแก่ เจ้าหายไปไหน ข้าใช้ให้มานวดขาข้านานแล้ว รีบๆมาซะทีสิโว้ย แล้วกลิ่นน้ำหอมที่ไหนติดเสื้อเจ้าเนี่ย เมื่อคืนไปไหนมา เดี๋ยวบั๊ด…!!!” เศรษฐีจางส่งสายตาให้อาหลงแล้วรีบวิ่งเข้าบ้านไปทันที
ถึงแม้แม่จะหายดีแล้ว แต่ความสามารถในการสร้างอาชีพไม่ได้หายไปไหน อาหลงไม่เป็นคนจนอีกต่อไป เขากลายเป็นคนชั้นกลางอย่างเต็มตัว ถึงแม้จะเหนื่อยกับการทำมาหากิน แต่เขาก็เหนื่อยบนความสุข และพอเขาอยากเจอเพื่อนกลุ่มเดิมที่เคยค่อนขอดเขาเมื่อตอนขายน้ำหวานดอกไม้เพื่อจะสอนให้พวกเขารู้จักสร้างเนื้อสร้างตัว คำตอบที่พวกเขาได้คือ “คนเราแข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งวาสนาไม่ได้ ชาติที่แล้วเจ้าคงทำบุญมาเยอะสวรรค์เลยเห็นใจ แต่พวกข้าสิ เกิดมาตัวเปล่า จะเอาอะไรไปชนะชะตากรรมได้” ก่อนจะเดินหายลับไปที่ร้านเหล้าและหอนางโรม
อาหลงยิ้มน้อยๆเป็นคำตอบ พวกเจ้าหารู้ไม่ว่าสิ่งดีๆและโอกาสมีอยู่รอบตัว บางครั้งก็ควรลอง Startyourway เท่านั้นเอง
โฆษณา