12 ส.ค. 2019 เวลา 04:11 • ไลฟ์สไตล์
ฟันปลอมของแม่
ในวันที่คุณแม่ของเจป่วยหนักด้วยอาการเลือดเป็นกรดและติดเชื้อในกระแสเลือด(สาเหตุจากมีน้ำตาลในเลือดสูงมากด้วยโรคเบาหวาน) ต้องพาส่งโรงพยาบาล มีอาการขั้นวิกฤตจนต้องใส่เครื่องช่วยหายใจทางปาก
และคุณหมอถอดฟันปลอมของคุณแม่ฝากคุณพยาบาลมาคืนให้
...เป็นวันที่เจเพิ่งทราบว่า คุณแม่ของเจใส่ฟันปลอม (แบบบางส่วน) หลังจากที่ท่านใส่มาแล้วเกือบ 10 ปี...
ความรู้สึกตอนที่ได้รับฟันปลอมของคุณแม่คืนวันที่เข้าไปเยี่ยมอาการคุณแม่ในห้อง CCU เป็นความรู้สึกที่มีหลายอารมณ์มากๆ
ความเศร้า เป็นห่วง วิตกกังวล ในอาการป่วยนั้นมีมากอยู่แล้ว แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือความแปลกใจปนตกใจที่เพิ่งได้ทราบว่า...คุณแม่ใส่ฟันปลอม
...นี่เราละเลยท่านขนาดที่เราไม่รู้เรื่องนี้เลยหรือ...?
ตอนที่เข้าโรงพยาบาลครั้งนั้นคุณแม่อายุประมาณ 62-63 ปี แต่มาทราบภายหลังจากที่ท่านอาการดีขึ้นและออกจากโรงพยาบาลแล้วว่า ท่านเริ่มใส่ฟันปลอมชุดนี้ (แบบบางส่วน บริเวณฟันหน้าบน) มาตั้งแต่ประมาณอายุ 55 ปีแล้ว
...ท่านไม่เคยบอกหรือถอดฟันปลอมต่อหน้าเราเลยซักครั้ง...
ตอนอายุ 55 ปีนั้นท่านยังทำงานในบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง สุขภาพร่างกายโดยรวมยังแข็งแรงปกติ แม้จะเป็นโรคเบาหวาน และท่านก็ไปหาหมอตามนัดด้วยตนเองเป็นประจำ รวมถึงไปทำไปฟันปลอมด้วยตัวเองโดยที่เราไม่เคยรู้เลย
ภาพตัวอย่างฟันปลอมแบบบางส่วน (ที่มา : https://www.kisspng.com/png-removable-partial-denture-dentures-dental-implant-1773211/)
ส่วนตัวเจเองตอนนั้นก็น่าจะอยู่ในวัย 30 ต้นๆ ที่ชีวิตกำลังสนุกกับการทำงาน การกิน เที่ยว กับเพื่อนๆ สนุกสนานกับชีวิตอย่างเต็มที่ ไม่มีเรื่องอะไรต้องกังวล
...จนเราเองอาจจะละเลยรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ ของคนในครอบครัวไปบ้างโดยไม่รู้ตัว...
เจเป็นคนที่พักอยู่กับครอบครัวตลอด รู้สึกว่าเราเองก็ใกล้ชิดครอบครัวพอสมควร แต่พอลองนึกทบทวนดูดีๆ อีกครั้ง หลายๆเรื่องเราก็ไม่ได้ใส่ใจรายละเอียดมากนัก อาจจะเพราะเราคิดว่าพ่อแม่ของเราท่านยังแข็งแรงเหมือนเดิม จากสภาพภายนอกที่เห็น
อีกอย่างหนึ่งพ่อแม่หลายๆ ท่านมักไม่ค่อยยอมแสดงความอ่อนแอ ไม่ยอมบอกอาการเจ็บป่วยให้ลูกรู้เท่าไหร่ อาจจะเพราะไม่อยากให้ลูกเป็นห่วง หรือไม่อยากเป็นภาระของลูกมากนัก
แต่จริงๆ แล้ว ถ้าลองสังเกตดูดีๆ พวกท่านก็มีหลายอย่างที่เริ่มเปลี่ยนแปลงไปทีละน้อยๆ มานานแล้ว แต่กว่าเราจะรู้ก็ตอนที่เห็นความเปลี่ยนแปลงมากๆ เพราะความคุ้นชินที่อยู่ใกล้กันจนไม่ทันสังเกตุนั่นเอง
ยิ่งกับหลายๆ ท่านที่ภายนอกดูแข็งดีมากๆ นั้นหลายครั้งต้องอาศัยการสังเกตุอย่างละเอียด และพิจารณาอย่างใกล้ชิดบ่อยๆ จึงจะทราบปัญหาได้
ในโอกาสวันแม่ปีนี้(หรือในวันอื่นๆ) ที่ท่านที่มีโอกาสได้กลับไปพบเจอ หรือได้อยู่กับคุณพ่อคุณแม่ นอกจากจะไปกราบอวยพร ขอพรท่านแล้ว ลองหาเวลานั่งคุย ถามไถ่ มองท่านแบบพิจารณารายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ในมุมที่เราไม่เคยสังเกตุดูนะคะ แม้ว่าท่านอาจจะยังดูแข็งแรง แต่คุณอาจจะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงบางอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อนเลยก็เป็นได้ค่ะ
- ผิวหนังมีรอยย่น รอยกระเพิ่มขึ้นมากไหม
- มีแผล หรือปวดบวมเล็กๆ น้อยๆ ตามร่างกายจุดไหนบ้างไหม
- ผมหงอกเพิ่มขึ้นกว่าปีก่อนหรือเปล่า
- สายตาแย่ลงไหม แว่นเดิมยังมองชัดอยู่ไหม
- ฟันแท้ในปากยังแข็งแรงดีไหม
- ฟันปลอมชุดเก่าใส่มากี่ปีแล้ว หลวมหรือชำรุดหรือยัง
- ความจำยังดีไหม นึกนานขึ้นไหมเวลาคุยกัน
- ฯลฯ
และสำหรับบางเรื่องที่เป็นปัญหาด้านสุขภาพ หากเรารู้ไว ก็อาจจะช่วยแก้ไขได้ง่ายและทันเวลา กว่ามารู้ตอนที่แสดงอาการมากแล้วอีกด้วยนะคะ
เจขออวยพรให้คุณพ่อคุณแม่ รวมถึงผู้อ่านในวัยสตรองทุกท่านมีความสุข แข็งแรงทั้งสุขภาพกายและสุขภาพใจนะคะ
สุขสันต์วันแม่(และทุกๆ วัน)ค่ะ 💙😊
เจ วัยสตรอง
โฆษณา