Bitcoin Blockchain และการค้าระหว่างประเทศ 🌏
ปี 1975 เป็นครั้งแรกที่โลกได้รู้จักคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล🖥️
45 ปีหลังจากนั้น 2.7 พันล้านคนทั่วโลกใช้ Smartphone เป็นการ "ย่อส่วน" คอมพิวเตอร์ มาไว้ในกระเป๋ากางเกง 📱
ปี 1993 โลกได้รู้จักกับนวัตกรรมขั้นสุดยอดที่ชื่อว่า "อินเตอร์เนต"
27 ปีหลังจากนั้น Microsoft, Amazon, Apple, Alphabet(Google), และ Facebook คือ 5 บริษัทที่มีมูลค่าบริษัทสูงที่สุดในโลก 📈
และ ปี 2009 โลกได้รู้จักกับ "Bitcoin" และ "Blockchain" โดยนักพัฒนาผู้ลึกลับนาม "Satoshi Nakamoto" (ปัจจุบันก็ยังไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของ Satoshi) 😼
Marc Andreesson แห่งกองทุน Andreessen Horowitz ที่พบโอกาสในการลงทุนในบริษัทเกิดใหม่ (Startup) ทั้ง Facebook, Groupon, Twitter, Skype, และ Zynga เชื่อว่า Bitcoin ที่เป็นสกุลเงินดิจิตอล คือ เทคโนโลยีที่สำคัญอย่างยิ่ง โดยปัจจุบัน เขามีสินทรัพย์สกุลเงินดิจิตอลรวมกันกว่า 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ
Marc Andreesson
แล้ว Bitcoin และ Blockchain คืออะไร แล้วมันเกี่ยวกับการค้าระหว่างประเทศอย่างไร ไปติดตามกันแบบภาษาบ้านๆ เข้าใจง่ายๆ กันเลย
Bitcoin คือ อะไร?
Bitcoin คือ สกุลเงินดิจิตอล โดยคนสามารถแลกเปลี่ยนเงินดิจิตอลกันได้ โดยไม่ต้องผ่านคนกลาง
ถ้าคิดภาพปัจจุบันหากเราจะโอนเงินไปต่างประเทศ ก็ต้องเสียค่าธรรมเนียม อย่างน้อยไป 2-3% ให้กับธนาคารซึ่งเป็น "ตัวกลาง" เทคโนโลยี Bitcoin ถูกสร้างขึ้น เพื่อตัดคนกลางออกไป ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายลง
Bitcoin มีปริมาณ "จำกัด" ราคาผันผวนตามอุปสงค์
Bitcoin vs. Blockchain
เปรียบเทียบง่ายๆ Bitcoin คือ "Facebook" และ Blockchain คือ "Internet"
Blockchain เป็นเหมือนเต้าเสียบ คือเป็นโครงสร้างหลัก เป็นเหมือนภาษาคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้เราเชื่อมต่อ Internet ได้
ส่วน Bitcoin เป็น Application อันหนึ่ง ที่เขียนบนโครงสร้างของ Blockchain
ตามที่อธิบายด้านบน ถ้าตัดคนกลางออกไปแล้วเราจะมั่นใจได้ยังไงว่าเราจะไม่โดน "โกง"
เช่น คุณเอก อยากโอนเงิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ เพื่อซื้อสินค้า ให้ John ที่อยู่อเมริกา แต่ถ้าเราโอนเงินเป็นแบบดิจิตอลโดยไม่ผ่านธนาคาร หรือ คนกลางอื่นๆ เรา จะมั่นใจได้ไงว่า John จะไม่โกงเรา ยึดเงินคุณเอกไปเฉยๆ โดยบอกว่าไม่ได้รับเงินซะหน่อย 🙀🙀🙀
Blockchain เป็นระบบฐานข้อมูล ที่จะช่วยยืนยัน ได้ว่า คุณเอกโอนเงินไปให้ John แล้วจริงๆ และ John ก็ต้องทำตามสัญญาส่งสินค้าให้ที่ตกลงกันไว้ 💪
แล้วช่วงที่ผ่านมาที่คนนิยมซื้อการ์ดจอคอมพิวเตอร์ แพงๆ ไป "ขุดเหมือง Bitcoin" เค้าทำไปเพื่ออะไรกัน?
ที่แอดมินบอกตอนแรกว่า Blockchain/Bitcoin ทำให้สามารถตัดคนกลางนั่นก็คือ ธนาคารออกไปได้ แต่เพื่อนๆ อาจสงสัยว่า แล้วทีนี้เราจะมั่นใจได้อย่างไร ว่าคนในระบบ Bitcoin จะไม่โกงกันเอง เช่น ส่งเงินเกินไปกว่าที่ตัวเองมี หรือส่งเงินเบิ้ลไป 2 รายการในเวลาเดียวกันเป๊ะๆ
ทาง Bitcoin ก็เลยออกแบบระบบให้มี "Miner" ซึ่งก็คือ นักขุดเหมืิอง Bitcoin เป็นคนคอยตรวจสอบ และยืนยันความถูกต้องของข้อมูล ซึ่งการจะตรวจสอบก็ต้องมีการแก้โจทย์ปัญหาที่ซับซ้อนใช้เวลานาน ไม่ได้ทำง่ายๆ ไม่งั้นเหล่าโจร ก็ยืนยันกันเอง โกงเงินกันสบายไป
NuuNeoI
และจากความพยายามดังกล่าง Miner ก็จะได้ค่าตอบแทน (ก็คล้ายๆ ค่าธรรมเนียมของธนาคาร) เพียงแต่ว่าไม่ใช่ Miner ทุกรายที่จะได้ค่า commission
เพื่อนของเพื่อนแอดมินก็เป็นนักขุด สกุลเงินดิจิตอล แต่ตอนนี้เลิกไปละ เนื่องจากปัจจุบัน เริ่มมีสกุลเงินดิจิตอลเยอะมาก ไม่ได้มีแค่ Bitcoin และราคาแต่ละตัวผันผวน เลยไม่รู้จะขุดตัวไหนดี ค่าไฟก็แพง ไม่คุ้มต้นทุน สุดท้าย ไปซื้อขายสกุลเงินดิจิตอลได้เงินเร็วกว่า 🤦
💡ทั้งนี้รายละเอียดของ Blockchain ทาง เพจของพี่ NuuNeoI อธิบายไว้ดีมาก ลองดู Link เอาไว้ให้ตอนท้ายบทความ
แล้วทำไมผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้าระหว่างประเทศและ Logistics ถึงควรรู้จักเทคโนโลยี Blockchain?
DHL บริษัท Logistics ชั้นนำ ได้ออกบทความ อธิบายประโยชน์ของ Blockchain เอาไว้ โดยหลักคือ การลดความซ้ำซ้อนของการสื่อสารและเอกสาร ในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า เพิ่มความโปร่งใส และ
ตรวจสอบได้ของการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะนำไปสู่การเคลื่อนที่ของสินค้าที่รวดเร็ว และลดต้นทุนได้ทั้งระบบ
นอกจากนี้ ที่เราทราบข่าวว่า Facebook และพันธมิตร กำลังจะออกสกุลเงินดิจิตอล ที่มีชื่อว่า Libra ซึ่งใช้เทคโนโลยี Blockchain เข้าถึงผู้ใช้งาน Facebook กว่า 2 พันล้านคน ทั่วโลก!!! 💸
ลองคิดภาพในอนาคต ที่เราสามารถซื้อขายสินค้า กับคนทั่วโลก โดยไม่ต้องผ่านระบบเดิมๆ ที่ซับซ้อน และมีต้นทุนที่สูง จะทำให้เกิดโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ มากขนาดไหน 💰💰💰
แล้วบริษัทในไทย มีใครใช้ Blockchain ในธุรกิจแล้วบ้าง?
Blockchain ไม่ใช่เรื่องไกลตัวเลย เพียงแต่เราอาจยังไม่รู้ตัว และบางทีก็ไม่จำเป็นต้องรู้ เหมือนที่คนใช้ Smart phone กันแต่ก็ไม่จำเป็นต้องรู้เทคโนโลยีเบื้ิิองหลัง
แต่สำหรับบริษัทและผู้ประกอบการ ต้องบอกว่าหากตามเทคโนโลยีไม่ทัน ก็มีสิทธิ์ตกยุค แข่งขันกับคนอื่นไม่ได้
ล่าสุดมีบริษัทไทยหลายบริษัทเหมือนกันที่ประกาศใช้เทคโนโลยี Blockchain เช่น SCG ที่ใช้ Blockchain ในขั้นตอนการจัดหาฯ และ ธนาคารไทยอย่าง SCB ก็ลงทุนใน Startup เกี่ยวกับ Blockchain ที่ชื่อว่า "Ripple"
อ่าน "นำเข้าส่งออก สุดขอบฟ้า" สนุกขึ้นในแอปฯ "Blockdit"
ดาวน์โหลดได้ที่: http://www.blockdit.com/app
และสำหรับผู้ประกอบการนำเข้าส่งออก
แอด Line Openchat มาคุยกันได้ ที่ Line "นำเข้าส่งออกสุดขอบฟ้า"
อ้างอิง
- Why Bitcoin Matters...Marc Andreesson https://dealbook.nytimes.com/2014/01/21/why-bitcoin-matters/
- Blockchain คืออะไร? อธิบายแบบละเอียด แต่เข้าใจง่าย(มั้ง) https://nuuneoi.com/blog/blog.php?read_id=900
- DHL Blockchain in Logistics 2018
- 14
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
