29 ส.ค. 2019 เวลา 14:55 • ความคิดเห็น
“ปลดปล่อยตัวเอง”
เรามักตีกรอบความคิดจากความคุ้นเคยในอดีตจนเป็นนิสัย “ต้องแบบนี้เท่านั้นจึงจะดี”
ทำให้หลงลืมไปว่า...
จริงๆแล้ว “ของดี” ในนิยามของคนอื่น
อาจแตกต่างกับเรา
อย่างวันก่อนเราไปนั่งกินหนม
ในที่ที่คนส่วนใหญ่ออกกำลังกายกัน
เราก็นั่งริมทางที่เค้าวิ่งนั่นแหละ
ขนเสบียงไปเพียบ..
คนวิ่งก็วิ่งไป เราก็นั่งกินไป
ซึ่งเราจะไม่หงุดหงิดว่า
“เค้าวิ่งกันทำไมอ่ะเหนื่อยจะตาย”
หรือคนที่ก้าวเท้าอยู่ ก็ไม่ได้บ่นว่า
“กินขนมทำไมไม่มีประโยชน์ มาออกกำลังกายสิดี”
หรือบางคนก็ไม่เห็นด้วยซ้ำว่าเรานั่งอยู่ตรงนั้น
เพราะเขากำลังฟินกับการวิ่งอยู่ 😂
เหมือนเราแหละ บางจังหวะเราก็ฟินกับการกิน
จนมองไม่เห็นคนที่วิ่งผ่านไป
เมื่อเราอยู่กันแบบไม่ตัดสิน ก็ไม่มีผิดไม่มีถูก
สิ่งที่เกิดขึ้น ก็เป็นเพียงภาพความจริงที่อยู่ตรงหน้า
ความสุขของเขา อาจไม่เหมือนของเรา
ความสุขของเราอาจไม่เหมือนกัน
การกินขนมอาจเป็นความสุขของเรา
และการวิ่งก็สร้างความสุขให้เขาได้เช่นกัน
ยอมรับในความต่าง
เคารพในตัวเองและคนอื่น “อย่างไม่มีเงื่อนไข”
สิ่งนี้จะเป็นกุญแจเปิดมุมมองของเราให้กว้างขึ้นได้
มีบางจังหวะที่เรากินขนม
พร้อมส่งยิ้มเล็กๆให้คนที่กำลังวิ่งมา
เค้าก็ยิ้มตอบ แถมเสียงหัวเราะคิกคัก และวิ่งผ่านไป
“คงมีบางจุดที่ความสุขของเรา วนมาบรรจบกันพอดี”
เรานั่งมองคนวิ่งผ่านไปคนแล้วคนเล่า
ทำให้รู้สึกอยากมาวิ่งบ้าง
เพราะอยากลองสัมผัสความสุขในมุมของเขาบ้าง
และคนวิ่งที่เห็นเรานั่งกินอย่างเอร็ดอร่อย
คงจะกลับไปจัดหนักมื้อเย็นในไม่ช้า
หรือเราจำเป็นต้องแตกต่าง
เพื่อเปิดมุมมองและ เติมเต็มกันและกัน 🤗
ภายในเวลาที่จำกัด
เรามักจะ”เลือก” ในสิ่งที่ทำให้เรามีความสุขเสมอ
และสิ่งนั้นก็มีชื่อเล่นว่า “สิ่งสำคัญ”
ฟังดูอาจเหมือนเห็นแก่ตัวที่เราเลือกทำสิ่งสำคัญ เพื่อเติมความสุขให้ตัวเอง
แต่เราคิดว่าคนกลุ่มนี้ มักจะเลือกเสิร์ฟสิ่งสำคัญที่เป็นประโยชน์เข้าสู่หัวใจ และคนที่มีความสุขเต็มหัวใจ คงจะมีแต่ให้ และทำร้ายใครไม่ลง
สุดท้ายแล้ว
ความสุขของเรากลับสร้างความสุขให้ใครอีกคน
ความสุขของใครอีกคนก็หลั่งไหลมาเป็นความสุขในใจเรา
วันนี้มาบอกฝันดีทุกคนด้วยบทความนี้ค่ะ😊
ความสุข เราสร้างได้ เย้!✌️
สัญญาว่าพรุ่งนี้จะลุยอ่านบทความเพื่อนๆ
วันนี้ม่ายไหวแล้ว เดี๋ยวแวะไปป่วนน้า😆
โฆษณา