ตีชิงตามไฟ
เมื่อศัตรูมีภัยใหญ่หลวง ให้ฉวยโอกาสซ้ำเติม ฉกฉวยเอาประโยชน์
กลยุทธ์นี้มีความหมายว่า เมื่อข้าศึกอยู่ในภาวะวิกฤติ ควรฉวยโอกาสรุกรบโจมตี เพื่อให้ได้มาซึ่งชัยชนะ
ความหมายเดิมของ "ตีชิงตามไฟ" ก็คือ เมื่อข้าศึกถูกไฟเผาผลาญกำลังห่วงแต่ตัวเองไม่สนใจเรื่องอื่น เราควรฉวยโอกาสเข้าซ้ำเติม ชิงเอาประโยชน์มาเป็นของเรา
เมื่อศัตรูมีภัยใหญ่หลวง ให้ฉวยโอกาสซ้ำเติม
หลังจากกองทัพนับล้านของโจโฉยกทัพมารุกรานง่อก๊ก โจโฉก็คิดประมาทจิวยี่ว่าคงจะไม่พ้นมือเรา
ฝ่ายจิวยี่ก็ขึ้นไปสังเกตการณ์กองทัพโจโฉอยู่บนเนินเขา แลเห็นลมพายุพัดธงเหลืองในกองทัพโจโฉหักสะบั้นลง ก็หัวเราะว่า ซึ่งธงโจโฉหักนี้เป็นการอัปมงคลแก่โจโฉ
พอสิ้นคำลมก็พัดหนักมาถูกธงของจิวยี่หลุดลอยขึ้นไปบนเนินเขา พอเห็นดังนั้นจิวยี่ก็ตกใจคิดได้ว่า บัดนี้ทัพโจโฉเป็นต้นลม ฝ่ายทัพเราอยู่ปลายลม การที่คิดไว้ว่าจะใช้ไฟเผาทัพโจโฉเห็นจะไม่สำเร็จ จึงทุกข์ร้อนใจจนอาเจียรล้มสลบไป
โลซกจึงไปแจ้งเรื่องกับขงเบ้ง พอขงเบ้งได้ฟังก็หัวเราะ แล้วว่า อันโรคของจิวยี่นี้เรารักษาให้หายได้ โลซกจึงนำขงเบ้งไปยังค่ายของจิวยี่
ขงเบ้งจึงว่า ท่านเป็นไข้ใจ ต้องใช้ยาเย็นแก้จึงจะคลาย ว่าแล้วขงเบ้งก็เอาพูกันมาเขียนตัวอักษรว่า...
"กำจัดโจโฉ ต้องใช้เพลิงเผา
ทุกอย่างพร้อมสรรพ ขาดแต่ลมบูรพา"
จิวยี่เห็นขงเบ้งรู้ใจตนจึงว่า ท่านคิดอ่านประการใด ขงเบ้งจึงว่า เรามีวิชาเรียกลมเรียกฝน ให้จิวยี่ปลูกปะรำพิธีขอลม และจะขอลมสลาตันให้สามวันสามคืน จิวยี่จึงว่า อย่าว่าแต่สามวันสามคืนเลย แค่คืนเดียวก็เพียงพอ
ขงเบ้งเรียกลมเผาทัพเรือโจโฉ
แผนการณ์ใช้ไฟเผาทัพเรือโจโฉจึงดำเนินต่อไป จิวยี่ส่งบังทองไปออกอุบาย ให้โจโฉผูกเรือติดกันเป็นแพเพื่อให้ทหารเดินไปมาได้สะดวกเหมือนเดินอยู่บนบก
อุยกายยอมโดนโบยกลางที่ประชุมทัพจนสาหัสหนักเพื่อไปหลอกสวามิภักดิ์โจโฉ(กลทุกข์กาย) ขงเบ้งเป็นผู้เดียวที่รู้แผนการนี้ ถึงกับกล่าวว่า "กังตั๋งมียอดขุนพลเช่นนี้ มีหรือทัพโจโฉจะไม่แตก"
ครั้นถึงเดือนอ้ายแรมห้าค่ำ ก็เกิดลมสลาตันพัดหนักมา จิวยี่มีความยินดีจึงกล่าวกับโลซกว่า อันสติปัญญาของขงเบ้งรู้ตำราเรียกลมฝนหาผู้ใดเสมอเหมือนมิได้ ถ้าปล่อยขงเบ้งไว้สืบไปภายหน้ากังตั๋งก็จะเป็นอันตราย
ว่าแล้วจึงสั่งเตงฮองกับซีเซ่งคุมทหารไปจับตัวขงเบ้งมาฆ่าเสีย แต่ขงเบ้งเตรียมการณ์ไว้จึงให้จูล่งเอาเรือมารับหนีไปก่อนแล้ว
ครั้นได้เวลา จิวยี่ก็ให้อุยกายคุมเรือเชื้อเพลิงไปยังตำบลเซ็กเพ็ก ฝ่ายโจโฉตั้งใจคอยฟังข่าวอุยกายอยู่ตลอด พอทหารมาบอกว่าอุยกายคุมเรือเสบียงมาแล้วก็ดีใจ
พออุยกายโบกธงสัญญาณ ทหารก็จุดเพลิงขึ้น ลมสลาตันพัดหนักมา เรือทุกลำก็ชักใบเรือพุ่งตรงเข้าไปปะทะกองเรือของโจโฉ
ฝ่ายทหารโจโฉเห็นไฟไหม้ก็ช่วยกันสาดน้ำดับเพลิงกันอลหม่าน แต่ลมก็พัดหนัก ครั้นจะแก้ไขก็ยากเพราะเรือถูกล่ามด้วยโซ่ติดกัน เพลิงก็ยิ่ลุกลามมากขึ้น ทหารทั้งปวงทนไฟไม่ไหวก็วิ่งวุ่นวายอลหม่าน
กองทัพร้อยหมื่นของโจโฉถูกทำลายด้วยเพลิงย่อยยับ
ครั้นได้สัญญาณ จิวยี่ก็สั่งให้ทหารเข้าโจมตีทั้งทางบกและทางน้ำ ทหารของโจโฉซึ่งกำลังห่วงกับการดับไฟมิได้เตรียมป้องกันก็ถูกฆ่าตายเป็นจำนวนมาก บ้างก็ถูกไฟครอกตาย
ครั้นเพลิงไหม้มาถึงเรือของโจโฉ เตียวเลี้ยวก็นำเรือเล็กมารับขึ้นบนบก ครั้นมองขึ้นไปก็เห็นค่ายบนบกเพลิงไหม้ขึ้นหลายแห่ง เห็นแล้วยิ่งตกใจยิ่งนัก ทหารจึงเอาม้าให้โจโฉรีบขี่หนี
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วยาม กองทัพร้อยหมื่น อาวุธยุทโธปกรณ์สงคราม และกองเรือสองพันกว่าลำของโจโฉก็ถูกทำลายย่อยยับไปในเปลวเพลิงสิ้น แม้แต่โจโฉก็แทบเอาชีวิตไม่รอด เมื่อไปถึงเมืองลำกุ๋นโจโฉเหลือทหารติดตัวไปด้วยเพียงแค่ 27 คน
กล่าวได้ว่าการรบในศึกเซ็กเพ็กนี้ เป็นการโจมตีด้วยเพลิงที่สมบูรณ์แบบที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ เพราะได้ทำลายล้างทุกอย่างจนราบพนาสูร ทั้งไพร่พล อาวุธยุทโธปกรณ์ และกองเรือมหึมาของโจโฉ
9/11เหตุการณ์เครื่องบินพุ่งชนตึกเวิล์ดเทดเซนเตอร์
หลังจากเหตุการณ์ 9/11 เครื่องบินพุ่งชนตึก Worldtrade Center สหรัสอเมริกาก็อยู่ด้วยความหวาดกลัวภัยก่อการร้าย
การปกครองที่เลวร้ายของประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซน การละเมิดสิทธิมนุษยชน การต่อสู้ของกลุ่มก่อความไม่สงบนิกายต่างๆ และการก่อการร้ายจึงถูกยกขึ้นมาเป็นสาเหตุในการรุกรานอิรัก
รูปปั้นประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซ็น ถูกทำลายโดยประชาชนที่เคียดแค้นจากการปกครองที่เลวร้าย
โดยรัฐบาลของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักรกล่าวหาว่า มีความเป็นไปได้ที่อิรักจะครอบครองอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงคุกคามความมั่นคงของตนและพันธมิตรของตนในภูมิภาค เจ้าหน้าที่บางคนยังกล่าวหา ซัดดัม ฮุสเซน ว่าปิดบังและให้การสนับสนุนอัลกออิดะฮ์
จึงได้อ้างความชอบธรรมส่งกำลังทหารเข้าไปในอิรักภายใต้ข้อกำหนดของมติสหประชาชาติ แต่ไม่พบหลักฐานอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงแต่อย่างใด
โดยสหรัฐสรุปว่าอิรักได้ยุติโครงการนิวเคลียร์ เคมีและชีวภาพใน พ.ศ. 2534 และไม่มีโครงการใดดำเนินอยู่ในขณะการรุกราน
สหรัฐอเมริกาส่งกองกำลังทหารเข้ารุกรานอิรัก
การรุกรานอิรักนำไปสู่การยึดครองและการจับกุมตัวประธานาธิบดีซัดดัม ฮุสเซนในท้ายที่สุด ซึ่งภายหลังถูกพิจารณาโดยศาลอิรักและประหารชีวิตโดยรัฐบาลใหม่ของอิรัก
นำไปสู่การก่อความไม่สงบในอิรักในเวลาไม่นาน การต่อสู้ระหว่างกลุ่มอิรักนิกายซุนนีย์และชีอะฮ์หลายกลุ่ม และการเกิดกลุ่มแยกใหม่ของอัลกออิดะฮ์ขึ้นในอิรัก จึงกลายเป็นเหตุผลที่สหรัฐใช้อ้างความชอบธรรมในการคงกำลังทางทหารไว้ในอิรัก
"ตีชิงตามไฟ"
"ไฟ" ในที่นี้หมายถึงภัยหรือความฉิบหายของผู้อื่น เราเคยถูกสอนมาว่า "คนล้มอย่าข้าม" หลายคนที่อ่านจบอาจจะคิดว่า "กลยุทธตีชิงตามไฟ" เป็นกลยุทธที่ไร้คุณธรรม สอนให้เราไปปล้นตอนบ้านเค้าไฟไหม้ หรือสอนให้เรากระทืบซ้ำตอนคนล้ม
แต่ในโลกแห่งความเป็นจริงมันไม่มีทุ่งลาเวนเดอร์ มันมีแต่คนที่จ้องจะหาผลประโยชน์ใส่ตัว ผมไม่มีเจตนาสอนให้คุณเป็นคนเห็นแก่ตัว แต่โลกแห่งความจริงผู้อ่อนแอมักจะถูกรังแกโดยผู้เข้มแข็ง
คุณอาจคิดว่าปัจจุบันการล่าอาณานิคมมันไม่มีแล้ว แต่จริงๆมันยังคงมีอยู่ทุกยุคทุกสมัย เพียงแต่รูปแบบมันเปลี่ยนไป มันคือการล่าอาณานิคมด้วยระบบเศรษฐกิจ ปล้นทีทั้งประเทศโดยไม่ต้องใช้กำลังทางทหารแม้แต่คนเดียว
ในปี พ.ศ.2540 ประเทศไทยเกิดวิกฤตเศรษฐกิจฟองสบู่ ถูกซ้ำเติมด้วยองค์กรจัดเรทติ้ง ถูกลดอันดับความน่าเชื่อถือ ทำให้เงินลงทุนต่างประเทศไหลออก ธนาคารต่างประเทศไม่ปล่อยกู้ ทำให้เงินในระบบลดลงโครงการต่างๆก็เจ๊ง
เศรษฐกิจฝืดเคือง ประชาชนก็แห่ไปถอนเงิน ยิ่งหนักขึ้นๆ คนก็กลัวว่าแบงค์จะเจ๊งก็ยิ่งพากันไปแห่ถอนเงินจนบางแบงค์เจ๊งไปจริงๆ
แบงค์ชาติจึงประกาศลอยตัวค่าเงินบาท สุดท้ายตัวการก็ปรากฏ IMF ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยปล่อยเงินกู้ 14,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งดอกเบี้ยไม่ได้สูงมาก
แต่ต้องแลกมาด้วยเงื่อนไขที่ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบมาก ทรัพย์สินของประเทศถูกประมูลขายขาดทุนย่อยยับให้ต่างชาติ ถูกบังคับให้แปรรูปรัฐวิสาหกิจ ปตท.,การท่าฯ(AOT) , MCOT , THAI OIL แล้วทุนต่างชาติก้อนเดิมก็ไหลกลับเข้ามาซื้อของถูกๆเต็มตลาดหลักทรัพย์
ใครที่เล่นหุ้นอยู่ก็คงจะรู้ดีว่าเวลาหุ้นตกมันเป็นยังไง เห็นแก่ของถูก เอามือไปรับมืออาจจะขาดได้ เราเห็นราคาต่ำมากแต่เจ้ามือมันไม่สนว่าราคาต่ำ พร้อมจะโยนให้รายย่อยตายให้หมดแล้วค่อยมาไล่เก็บของถูกทีหลัง
ถ้าชอบก็กดไลค์กดติดตามไว้
กดติดตามเพจเป็นกำลังใจให้ด้วยครับ
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2024 Blockdit
