3 ก.ย. 2019 เวลา 14:22 • ธุรกิจ
“เติบโตเพราะคิดต่าง”
เนื่องจากผมได้รับการบ้านมาชิ้นหนึ่งจากคลาสอบรมด้านการลงทุน ซึ่งอาจารย์ผู้บรรยายได้ให้โจทย์แก่ผู้เข้าร่วมอบรมโดยให้รายชื่อบริษัทในตลาดหลักทรัพย์มาหนึ่งบริษัท และให้ทำบทสรุปธุรกิจทั้งในภาพรวม ด้านการลงทุนทั้งในส่วนของพื้นฐาน และทางเทคนิค แนวคิดและโอกาสเติบโตของธุรกิจ
Cr. kaohoon.com
ซึ่งบริษัทที่ผมและเพื่อน ๆ ที่เข้าร่วมอบรมได้รับโจทย์มาในครั้งนี้ คือ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน)
เมื่อผมได้ศึกษาประวัติความเป็นมาของบริษัทแล้ว พบว่ามีเรื่องราวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะแนวคิดของผู้บริหาร “คุณพิทักษ์ รัชกิจประการ” ที่สามารถนำบริษัทที่มีหนี้สินกว่า 3,600 ล้านบาทหลังการลอยตัวค่าเงินบาทในปี 2540 กลับมาเป็นบริษัทด้านพลังงานที่มีสถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิงและแอลพีจี 1,953 แห่งทั่วประเทศ
(ข้อมูล ณ วันที่ 3 กันยายน 2562)
พิทักษ์ รัชกิจประการ Cr. ptgenergy.co.th
โดยข้อมูลที่นำมาเขียนในบทความนี้ บางส่วนได้นำมาจากหนังสือ “เพราะฉะนั้น ฉันจึงถาม” ของคุณ “หนุ่มเมืองจันท์” ซึ่งเป็นเล่มที่ 30 ในกลุ่มหนังสือฟาสต์ฟู้ดธุรกิจของคุณหนุ่มเมืองจันท์ และจากแหล่งข้อมูลอื่น ๆ
ลองมาดูกันครับว่าแนวคิด หรือวิธีการอะไรที่ทำให้บริษัทนี้สามารถเอาตัวรอดจากวิกฤตเศรษฐกิจและเติบโตมาจนถึงปัจจุบัน
1
หากพูดถึงบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) คนที่ไม่ได้อยู่ในแวดวงการลงทุนอาจจะไม่คุ้นหูซักเท่าไหร่ แต่ถ้าเอ่ยชื่อ “ปั้มน้ำมั้น พีที” หรือ “กาแฟพันธุ์ไทย” ล่ะก็
ผมเชื่อว่าหลายคนคงจะเคยได้ยินและเคยใช้บริการกันมาแล้ว
Cr. pixabay
บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2531 เดิมใช้ชื่อว่า “บริษัท ภาคใต้เชื้อเพลิง จำกัด” ได้ก่อตั้งขึ้นเพื่อดำเนินกิจการคลังน้ำมัน และค้าน้ำมันเชื้อเพลิงให้กับชุมชน ผู้ประกอบการประมง และโรงงานอุตสาหกรรม
ปัจจุบัน เป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาด
หลักทรัพย์ ซึ่งประกอบกิจการด้านพลังงานที่มีสาขาและเป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ
โดยธุรกิจหลักของพีทีจี ที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือธุรกิจค้าน้ำมันเชื้อเพลิงภายใต้สถานีบริการน้ำมัน PT ซึ่งแบ่งเป็นสถานีที่บริษัทเป็นเจ้าของเองและตัวแทนจำหน่ายน้ำมันของบริษัทเป็นเจ้าของ
1
เมื่อมีสถานีบริการน้ำมันแล้ว ปัจจุบันที่ขาดไม่ได้และเป็นเหมือนเป็นสัญลักษณ์คู่กับปั๊มน้ำมันไปแล้ว นั่นก็คือ ธุรกิจร้านสะดวกซื้อ Max Mart และธุรกิจร้านกาแฟพันธุ์ไทย และร้านคอฟฟี่ เวิลด์ ทั้งในและนอกสถานีบริการน้ำมัน PT (ร้านคอฟฟี่ เวิลด์ เราจะเห็นได้ตามห้างสรรพสินค้า)
ในแวดวงธุรกิจพลังงานนั้น ทุกคนต่างก็ทราบดีว่ามียักษ์ใหญ่อยู่เต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ในประเทศ หรือยักษ์ต่างประเทศ ซึ่งท่ามกลางยักษ์ใหญ่เหล่านั้น อะไรที่ทำให้พีทีจีสามารถเอาตัวรอดและเติบโตขึ้นโดยไม่ถูกเหยียบแบนไปซะก่อน
เรื่องนี้คงต้องดูวิธีคิดและกลยุทธ์ของผู้บริหาร
ซึ่งคุณพิทักษ์ ใช้วิธีคิดแบบ “มวยรอง” และกลยุทธ์ “ป่าล้อมเมือง”
เมื่อรู้ตัวว่าเสียเปรียบเหล่ายักษ์ใหญ่ในทุกกระบวนท่า การจะต่อสู้กันตรง ๆ ตามวิธีการทั่วไป ก็คงมีแต่แพ้และพัง
เพราะยักษ์ใหญ่จะเลือกทำเล ถนนสายหลัก การจราจรเนืองแน่นสำหรับสร้างปั๊มน้ำมัน ซึ่งใช้เงินประมาณ 80 -150 ล้านบาท
ซึ่งการใช้เงินทุนขนาดนี้รายเล็กไม่มีทางสู้ได้อย่างแน่นอน
กลยุทธ์ของพีทีจี จึงเลือกที่จะทำปั๊มน้ำมันบนถนนสายรอง เพราะยักษ์ใหญ่ไม่นิยมสร้างกัน
Cr. pixabay
คู่แข่งของจึงเป็นปั๊มน้ำมันท้องถิ่นขนาดเล็ก ซึ่งพีทีจีถือไพ่เหนือกว่า
โดยมีกลุ่มเป้าหมายที่รถกระบะ รถบรรทุก ผู้ใช้รถในชุมชน และเครื่องจักรการเกษตร
โดยในส่วนของการทำปั๊มน้ำมัน
พีทีจีจะไม่ใช้วิธีซื้อที่ดินหรือสร้างปั๊มใหม่ แต่จะใช้วิธี "เช่า" ปั๊มน้ำมันขนาดเล็กหรือปานกลาง
Cr. pixabay
ซึ่งหากเทียบค่าใช้จ่ายแล้ว การสร้างปั๊มน้ำมันใหม่จะใช้เงินลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท
ส่วนค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงปั๊มน้ำมันจะอยู่ที่ประมาณ 7 ล้านบาท
ซึ่งหากใช้เงินเท่า ๆ กัน การปรับปรุงปั๊มน้ำมันเก่าจะทำให้พีทีจีมีสถานีบริการเพิ่มขึ้นมากกว่าการสร้างปั๊มใหม่หลายเท่าตัว
อีกทั้ง การสร้างปั๊มใหม่จะใช้เวลาประมาณ 1 ปี ส่วนการปรับปรุงปั๊มเก่าจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน
ซึ่งเร็วกว่าเห็น ๆ
2
"กลยุทธ์ป่าล้อมเมือง"
คุณพิทักษ์ได้ส่งพนักงาน 40 คนลงพื้นที่ทั่วประเทศ โดยให้เก็บข้อมูลปั๊มทั้งหมด
เจ้าของเป็นใคร หมดสัญญาเมื่อไหร่ รายได้เป็นยังไงบ้าง แล้วจึงวางหมากว่าจะเปิดปั๊มที่จุดไหน เมื่อไหร่
Cr. pixabay
ยกตัวอย่างจังหวัดบุรีรัมย์
จังหวัดนี้มีปั๊มพีทีอยู่ 27 แห่ง เปรียบเทียบกับการวางตุ่มใส่น้ำกระจายไปหลาย ๆ ตุ่ม
เมื่อเทน้ำจากตุ่มเหล่านั้นออกมา จะได้ปริมาณมากกว่าหรือเท่ากับแท็งก์ขนาดใหญ่
เช่นเดียวกับที่พีทีจี ได้ขยายปั๊มน้ำมันพีทีไปเรื่อย ๆ จากถนนสายรองเข้าสู่สายหลัก และเข้าสู่เมืองกรุงในที่สุด
ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ป่าล้อมเมืองนั่นเอง
และนี่คือวิธีคิดของคุณพิทักษ์ รัชกิจประ
การ ผู้บริหารของบริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) ที่พาบริษัทฝ่าฟันวิกฤติและเติบโตจนถึงทุกวันนี้
"เติบโตเพราะคิดต่าง"
รู้หรือไม่ ?
Cr. placesmap.com
สัญลักษณ์ของกาแฟพันธุ์ไทย
มีที่มามาจาก ช้างไทย ศาลาไทย และดอกราชพฤกษ์ ซึ่งสื่อให้เห็นถึงความเป็นแบรนด์ของคนไทย โดยมีข้อความประกอบ "เข้ม เท่ จริงใจ แบบไทยแท้ๆ" เพื่อตอกย้ำเจตนารมณ์ของแบรนด์ว่า นี่แหละกาแฟของคนไทยเพื่อคนไทยอย่างแท้จริง
(ตอนต่อไป ผมมีโอกาสได้ไปรับฟังวิสัยทัศน์ของคุณพิทักษ์ รัชกิจประการ ผู้บริหารสูงสุดของพีทีจี ซึ่งจะเป็นอย่างไร ขอให้ทุกคนติดตามอ่านได้จากบทความนี้เลยครับ
References
-หนังสือเพราะฉะนั้นฉันจึงถาม by หนุ่มเมืองจันท์ สำนักพิมพ์มติชน
ขอบคุณข้อมูลจากหนังสือ "เพราะฉะนั้นฉันจึงถาม"
ถ้าได้ประโยชน์จากบทความนี้ ช่วยกด Like, Share ด้วยนะครับ 😻

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา