4 ก.ย. 2019 เวลา 04:55 • การเมือง
"การชุมนุมในฮ่องกง รัฐบาลจีน จากมุมมอง ประวัติศาสตร์ทุนนิยม "
#Sapiens
หากย้อนกลับไปในช่วงการขยายตัวของลัทธิทุนนิยมนั้นไม่ได้มีแต่เพียงด้านดี ยกตัวอย่างเช่นสงครามฝิ่นของจีน ที่ต้องต่อสู้กับสหราชอาณาจักรเนื่องจากการขยายตัวของระบบทุนนิยมจากจักรวรรดิยุโรป และได้แพร่กระจายอำนาจด้วยทุนนิยมออกไปทั่วโลกซึ่งจีนก็เป็นหนึ่งในนั้นที่ได้รับผลกระทบนี้ สงครามระหว่างจีนกับอังกฤษนั้นเริ่มต้นที่พ่อค้าของราชอาณาจักรนั้นนำฝิ่นเข้ามาขายทำให้ประชาชนติดฝิ่น ช่วงนึงซึ่งอาจถึง 1ใน 10 ของจำนวนประชากร ที่ส่งผลต่อ เศรษฐกิจและสังคมของจีน
ทางการของจีนมองว่าเป็นการมอมเมาประชาชนทำให้ประเทศอ่อนแอลงอย่างมาก จีนจึงออมาตรการด้านกฎหมายการปราบปรามยาเสพติด แต่ก็ยังไม่สามารถหยุดให้ไม่เกิดการติดฝิ่นได้ และมองว่าเนื่องจากยังมีการลักลอบค้าขาย
และจุดเริ่มต้นของสงครามจึงเริ่มขึ้นเมื่อทางการจีนปฏิบัติการโดยการยึดฝิ่นที่เป็นสินค้าจากพ่อค้าชาวอังกฤษแล้วนำไปทำลายทิ้ง ทำให้พ่อค้าชาวอังกฤษเสียหาย จนต้องไปชุมนุมปิดถนนในอังกฤษเพื่อเรียกร้องต่อรัฐบาล เกี่ยวกับความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อนักลงทุนที่ถือหุ้นในบริษัทยา ประกอบกับมีสมาชิกในสภาและรัฐมนตรีลงทุนอยู่ด้วยในบริษัท ทางรัฐบาลของอังกฤษจึงสั่งให้ บริษัท อินเดียตะวันออก ที่มีกองเรือเป็นของตัวเอง(บริษัทเอกชนสมัยนั้นสามารถมีกองกำลังของตัวเองได้) นำเรือเข้ามาปิดล้อมจีน
ด้วยเทคโนโลยีทางการทหารที่แตกต่างกันมากอังกฤษจึงใช้เวลาไม่นานในการเอาชนะสงครามในครั้งนี้ ที่บอกว่าทำเพื่อสิทธิของการค้าเสรีที่ควรจะมี
เมื่อชนะจึงออกข้อสัญญาทางการค้าที่จีนเสียเปรียบอย่างมากอย่าง”สนธิสัญญานานกิง” ทำให้ต้องโดนชดใช้ค่าเสียหาย บังคับการเปิดท่าเรือแม้ว่าจะเคยเป็นประเทศปิดก็ตามและยังสูญเสียเกาะฮ่องกงให้กับ สหราชอาณาจักรกับการเช่า 99ปี จึงเป็นจุดเริ่มต้นของการแยกออกจากกันของ จีน และเกาะฮ่องกง
และยังส่งผลให้มีสงครามฝิ่นครั้งที่สองต่ออีกด้วย เมื่อพ่อค้ายังใช้เกาะฮ่องกงเป็นจุดกระจายยา
เมื่อผ่านไป ที่เกาะฮ่องกงต้องส่งคืนให้กับทางการจีนแต่ความเปลี่ยนแปลงของประชาชนในรุ่นนั้นนั้นก็เปลี่ยนไปแล้วคนที่อยู่ในฮ่องกงนั้นไม่ใช่คนที่ถูกปกครองโดยจีนทำให้รู้สึกแตกต่างไม่สามารถยอมรับกฎหมายทำเนียมต่างๆแบบในจีนแผ่นดินใหญ่ได้ และด้วยความเหลื่อมล้ำทางสังคม
ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคงจะเป็นประชาชนชาวฮ่องกง ที่ถูกความเหลื่อมล้ำเรื่องของเศรษฐกิจ มูลค่าอสังหาริมทรัพย์ที่เติบโตพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่องติดอันดับโลก ทำให้ประชาชนทั้่วไปไม่สามารถมีชีวิตที่ดีได้
หากถามในมุมมองของผมเองที่อาจจะไม่ถูกต้อง จากต่างมุมมองแบบเอาด้านทุนนิยมเข้าไปเกี่ยวด้วยกับเหตุการนี้ คงมีดังนี้
ด้านจีนอาจจะมองว่าเกาะฮ่องกงนั้นเป็นสิทธิ์ที่เคยถูกแย่งชิงไปโดยสหราชอาณาจักรอย่างไม่เต็มใจเมื่อครบกำหนดเวลาก็ควรจะกลับมาเป็นดินแดนที่รวมเป็นปึกแผ่นกับจีนโดยชอบธรรมตามสัญญาที่เคยถูกเอาเปรียบไปแล้วและมีผู้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมจากผู้ที่เสียผลประโยชน์
ด้านชาวฮ่องกงเองอาจจะมองว่าการปรับตัวเพื่อให้เข้ากับระบบของจีนนั้นเป็นสิ่งที่เลวร้ายสำหรับเค้าโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษาที่เกิดขึ้นมาในระบบของฮ่องกง และคนส่วนใหญ่คงไม่ต่างกันที่ไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง โดยมีการมองเห็นการใช้กฏหมายที่ดูไม่เป็นธรรมของจีนในมุมมองชาวฮ่องกง
สุดท้ายด้านเจ้าของที่ดินบนฮ่องกงซึ่งมีมูลค่ามหาศาลจากการเติบโตของราคามาอย่างยาวนานและผมเคยได้ยินว่าการมีบ้านในฮ่องกงมีมูลค่าเท่ากับการเป็นเจ้าของคอนโดในประเทศไทยทั้งโครงการ ตัวผมเองไม่อาจทราบได้ว่าเป็นของใคร ในด้านเงินทุนนั้นอาจทำการโยกย้าย แต่อสังหาริมทรัพย์คงไม่สามารถทำได้ และอาจถูกผลกระทบต่อเจ้าของที่ดินเหล่านั้น
หากฮ่องกงกลับไปถูกจีนปกครองแบบเต็มรูปแบบ เนื่องจากอาจถูกยึดคืน หรือออกกฏหมายที่อาจทำให้เสียผลประโยชน์อื่นๆได้
หากเป็นคุณ คุณจะยอมมอบคืนความมั่งคั่งที่เติบโตมา ที่อาจได้ใช้เวลาในการสร้างนับ100ปี ให้คืนง่ายๆหรือไม่?
matmat

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา