7 ก.ย. 2019 เวลา 10:00 • บันเทิง
ย่ากินปลิง
ยามเย็นวันหยุดแบบนี้แอดจะเล่านิทานให้อ่านละกันนะคะ. นิทานเรื่องนี้มีชื่อว่า "ย่ากินปลิง"
นิทานเรื่องนี้แอดได้ฟังมาจากยาย พ่อ แม่ หรือญาติๆที่เล่าให้ฟังมาตั้งแต่เด็กๆ แต่ละคนนี่เล่าให้ฟังนี่เล่าคนละรอบนะคะแล้วแอดก็ฟังจนจบทุก
รอบทั้งๆที่ก็เคยฟังแล้ว คงเพราะแอดรู้สึกสนุกกับนิทานหรือเรื่องเล่าในอดีตของคนเฒ่าคนแก่ก็เป็นได้. ฟังบ่อยจนทำให้จำได้ นอกเรื่องไปเยอะแล้วเนาะ มาอ่านนิทานเรื่องนี้กันดีกว่าค่ะ
ถ้าใครเป็นคนอีสานคงจะคุ้นเคยกับนิทานเรื่องนี้เป็นอย่างดี ที่แอดฟังมาคือเล่าเป็นภาษาอีสาน
ทุกคน. เออก็คนอีสานเนาะ 😁😁😁
แต่แอดจะเล่าเป็นภาษากลางนะคะจะได้อ่านได้อย่างเข้าใจ
คำว่า "ย่า" ในเรื่องนี้หมายถึง "แม่สามี"
ไปอ่านเรื่องราวของแม่ผัวกับลูกสะใภ้กันเลยค่ะ
Funny Cats
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว
มีครอบครัวอยู่ครอบครัวหนึ่ง อยู่ด้วยกันสามคน
คือ แม่เฒ่าผู้ตาบอด ลูกชาย และลูกสะใภ้
ฝ่ายลูกสะใภ้นั้นเป็นคนนิสัยใจคอฉุกเฉียว
โมโหร้าย โกรธง่าย เมื่อมาอยู่กับย่าที่ตาบอดก็ยิ่งรำคาญหัวใจและเกลียดชังย่ายิ่งนัก ต่อหน้าสามี
ีก็ทำดีกับย่า แต่พอเวลาสามีไม่อยู่บ้านลูกสะใภ้มักหาเรื่องกลั่นแกล้งอยู่บ่อย ๆ เช่น แกล้งเอาไม้ไปขวางทางเดินเพื่อให้ย่าหกล้ม แกล้งเอาดินใส่ก่องข้าวเพื่อให้ย่ากินข้าวผสมดิน หรือแอบเอารังมดแดงมาเคาะไว้กับเสื้อผ้าหรือผ้าห่มย่า สารพัดต่าง ๆ นานาที่จะให้ย่าได้รับอันตราย
อยู่มาวันหนึ่ง ฝ่ายสามีออกไปทำงานนอกบ้าน
ลูกสะใภ้จึงไปช้อนปลิงตามหนองน้ำ มาแกงให้ย่ากิน ซึ่งปกติแล้วจะไม่มีใครกินปลิง เพราะน่าเกลียดน่ากลัว และมีเนื้อหนังที่หยาบเหนียวอีกด้วย พอแกงเสร็จ ก็นำไปให้ย่ากิน บอกว่าเป็นแกงเครื่องในควาย
ย่าเคี้ยวเท่าไหร่ก็ไม่ขาดได้แต่นึกในใจว่าเป็นควายแก่ ลูกสะใภ้ว่าควายแก่หนังเหนียวอย่างนี้แหละ กินไปเถอะย่าได้ยินดังนั้นก็จำใจกลืนกิน
กินไปสักพักปลิงเกิดติดคอย่า หายใจไม่ออกจึงขาดอากาศหายใจถึงแก่ความตาย ลูกสะใภ้รีบนำแกงปลิงไปผังดินเพื่อไม่ให้สามีรู้
พอสามีกลับมาถึงบ้านรู้ว่าแม่ได้จากไปแล้วก็ได้แต่ร้องไห้ด้วยความเสียใจที่แม่ตาย จึงถามภรรยาว่าทำไมแม่ถึงตาย ผู้เป็นภรรยาบอกว่าแม่กินข้าวเหนียวไปมาก จึงสำลักหายใจไม่ได้ ตนเองช่วยอย่างไรก็ช่วยไม่ได้ แม่จึงตายในที่สุด
จากนั้นก็พากันจัดการศพย่าตามประเพณี
ระหว่างที่ทำพิธีศพจะยกไปป่าช้า ชาวบ้านต่างก็มาช่วยกันยก ช่วยกันหามโลง แต่โลงก็ไม่ขยับเขยื้อน ชาวบ้านจึงขอร้องให้ลูกสะใภ้ให้มาช่วยยกโลง. ซึ่งตอนนั้นนางกางหูกทอผ้าโดยไม่สนใจมาช่วยงานศพเลย
kanchanapisek.or.th
ปรากฏว่าพอนางมายกก็สามารถยกได้ โดยไม่ต้องให้ผู้ใดต้องยกต้องหามช่วยแต่อย่างใด สร้างความแปลกใจแก่ชาวบ้านเป็นยิ่งนัก ลูกสะใภ้ จึงได้หามโลงย่า เดินตรงไปยังป่าช้าท้ายหมู่บ้าน
เมื่อมาถึงบริเวณที่จะวางศพลงเพื่อจะทำการเผา ชาวบ้านและลูกชายจึงช่วยกันยกโลงศพ ออกจากบ่าลูกสะใภ้ แต่ปรากฏว่าแกะเท่าไหร่ก็แกะไม่ออก ลูกสะใภ้ตกใจมาก จึงดินทุรนทุรายจนขาดใจตาย ซึ่งมีศพย่าทับอยู่บนร่างนั่นเอง หลวงพ่อบอกว่าคงเป็นกรรมของเขาเอง ซึ่งอาจจะทำกรรมไว้กับย่ามาก จึงต้องมาตายด้วยกัน
หลังจากนั้นชาวบ้านจึงเผาทั้งย่าและลูกสะใภ้ พร้อม ๆ กันในป่าช้านั่นเอง….
สะใภ้คนชั่วเมื่อตายแล้วก็ได้ไปเกิดเป็นนกเค้าแมว
ในยามค่ำคืนก็มักมาจับตามต้นไม้ใหญ่ ร้องเรียกว่า “กู้หูก กู้หูก” เพราะตอนที่นางผละจากกี่ทอผ้าเพื่อไปยกโลงศพนั้น นางยังกางหูกไว้ หูกยังมิได้เก็บกู้นั่นเอง
Horoscope thaiza
มีความเชื่อที่ว่า “นกเค้าแมว” เป็นนกผี
มันจะมา “กูก” หรือกู่ร้องเอาวิญญาณของคน เพราะเสียงร้อง“กู้หูก กู้หูก” ของมัน
เมื่อมีคนตายในหมู่บ้าน. ทุกบ้านที่มีหูกจะเก็บกู้หูกไว้อย่างเรียบร้อย ถ้าไม่เก็บกู้จะ ขะลำ (หมายถึง จะละเมิดคำสอนของคนโบราณ ซึ่งก่อให้เกิดเป็นเสนียด ความชั่วร้ายขึ้นในครอบครัว)
moonfleet7005.blogspot.com
แต่แอดคิดว่าการกู้หูกในยามที่หมู่บ้านมีคนตาย
คงมิใช่เป็นเพราะนิทาน แต่เป็นเพราะคำสอนที่ถ่ายทอดกันมาแต่โบราณ เพื่อรั้งให้สังคมหมู่บ้านรู้สึกเป็นพวก หรือเป็นหมู่เดียวกัน ดูแล ห่วงใย ใส่ใจ ช่วยงานกัน แต่ปรากฏการณ์นี้ นักท่องเที่ยวหรือคนที่ไม่สนใจงานวิถีชุมชน จะไม่ค่อยได้รู้เห็น ถ้าไม่เอ่ยปากทักถาม
แต่ปัจจุบันก็ไม่ค่อยจะยึดติดกับความเชื่อนี้แล้ว อีกอย่างสมัยนี้หาคนทอผ้า ใช้หูกกันได้ยากแล้วล่ะค่ะ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า.
- ความโกรธ ความโมโหเป็นสิ่งไม่ดี
เป็นเหมือนไฟเผากายและใจตนเองนั่นเอง
- ให้ทุกข์ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว
เรื่องย่ากินปลิง มีการเอามาเล่าเป็นแบบนิทานให้ลูกหลานฟัง นำมาแสดงลำล่อง ลำเรื่องต่อกลอน
แอดหวังว่าผู้อ่านจบสนุกกับนิทานนะคะ😁😁😁
ปล. ย่ากินปลิงที่แต่ละคนเคยได้ยินมาอาจจะมีจุดที่แตกต่างกันแต่โดยเนื้อเรื่องแล้วเป็นแบบเดียวกันค่ะ
~มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่เข้าใจยาก~
โฆษณา