7 ก.ย. 2019 เวลา 14:12 • บันเทิง
ตอนที่ 16 พันธนาการ (4)
เปลือกตาหนักเหลือเกิน
นานเท่าไหร่แล้วนะที่ฉันนอนอยู่ตรงนี้
เรี่ยวแรงของฉันหายไปไหนหมด
แก้มและฝ่ามือทั้งสองยังคงรับรู้สัมผัสความแข็งของพื้นกระเบื้อง
มันไม่เย็นเหมือนกับที่ฝ่าเท้าของฉันเคยสัมผัสอยู่ทุกวัน
ไออุ่นจากร่างกายคงถูกดูดลงไปแทนที่ความเย็นนั่น
ฉันรวบรวมกำลังรั้งเปลือกตาขึ้นมา
สิ่งที่คล้ายไอร้อน ‘สีเทา’ อยู่ข้างหน้าแค่เอื้อมมือ
.
.
กบ เพื่อนที่สนิทที่สุดของฉัน
เราเกิดไล่เลี่ยกัน บ้านติดกัน
ฉันอยู่กับย่าเพราะพ่อแม่ฉันต่างก็แยกย้ายไปมีครอบครัวใหม่
พ่อแม่เธอทำงานโรงงานจึงมักพาเธอมาฝากย่าเลี้ยง
ฉันแกล้งเธอประจำ ก็เธอเป็นเด็กน่าแกล้งนี่นา
แต่ถึงฉันจะแกล้งเธอยังไง เธอก็ไม่เคยไปฟ้องพ่อแม่
แน่ล่ะ เธอชอบฉันนี่ ดูง่ายจะตาย
เราเข้าเรียนพร้อมกัน โรงเรียนเดียวกัน ห้องเดียวกัน นั่งติดกัน
แน่นอนฉันยังคงแกล้งเธอ ฉันชอบมองเธอตอนเขินนะรู้ไม๊
บางทีฉันก็ยอมให้เธอแกล้งคืนบ้าง สนุกดีเพราะเธอแกล้งไม่เก่งเลย
พอขึ้นม.ปลาย เราก็ยังอยู่ห้องเดียวกัน นั่งติดกัน
เพื่อนชอบล้อว่าเราเป็นแฟนกัน ฉันแกล้งเฉไฉว่าชอบคนอื่น
เธอนั่งอมยิ้มไม่พูดอะไร ก็ฉันอายนี่นา
Cr.https://campus.campus-star.com/variety/118576.html
เธอหล่อกว่าตอนม.ต้นมาก ตัวก็สูง เล่นบาสก็เก่ง
เด็กสาวทั้งโรงเรียนกรี๊ดเธอกันทั้งนั้น
ฉันมองดูตัวเอง ตัวก็เตี้ย เล่นกีฬาก็ไม่เก่ง
มีดีตรงทำขนมกับเย็บปักถักร้อยที่ซึมซับมาจากช่วยงานคุณย่า
ก่อนที่จะจบม.ปลาย พ่อแม่เธอประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต
เธอต้องย้ายไปอยู่กับน้า นั่นเป็นครั้งแรกที่เราไกลกัน
เธอไปโดยที่ไม่ได้บอกใคร ฉันรู้ว่าเธอไม่ชอบเห็นคนร้องไห้
เธอดูง่ายจะตาย
ดีแล้วล่ะ ฉันก็ไม่อยากให้เธอเห็นฉันร้องไห้เหมือนกัน
หลังจากที่ฉันเรียนจบม.ปลายไม่นาน ย่าก็จากไป
ฉันตัดสินใจไม่เรียนต่อ และทำขนมสูตรของย่าขายที่เดิม
เพราะฉันคิดว่าถ้าเธอกลับมาแล้วไม่เจอร้านขนมของย่า
ฉันจะไม่ได้เจอเธออีกเลย
Cr.https://www.hatyaifocus.com/บทความ/509-ของกินหาดใหญ่-ขนมหวาน-5-บาท-%7C-ขนมหวานยายเขียนหน้าวัดโคก-หาดใหญ่/
.
.
22 ธันวาคม พ.ศ.2541
ฉันอายุ 30 แล้ว ยังคงขายขนมอยู่ที่เดิม เธอคงจะลืมฉันไปแล้วมั้ง
“ใช่พรหรือเปล่าครับ”
ฉันเงยหน้ามองไปที่ต้นเสียง
“กบ...” ฉันรู้สึกจุกในลำคอ เธอแทบไม่ได้เปลี่ยนไปจากตอนม.ปลาย แค่คล้ำขึ้นเท่านั้น
“พรจริง ๆ ด้วย” เธอดีใจออกนอกหน้า เธอยังคงดูง่ายเหมือนเดิมนะ
วันนั้นฉันแจกขนมฟรี จะได้ปิดร้านแต่หัววันแล้วนั่งคุยกับคนที่ฉันรอมานานแสนนาน
เธอเล่าให้ฟังว่าหลังจากจบม.6 เธอทำงานรับจ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ จับได้ใบแดงไปเป็นทหารเกณฑ์ แล้วสอบเข้าโรงเรียนนายสิบ ตอนนี้กำลังเรียนป.ตรีอยู่ จู่ ๆ ก็คิดถึงฉันขึ้นมา เลยมาหาที่บ้าน
เรานั่งคุยกันติดลม เธอก้มดูนาฬิกาข้อมือ
“5 ทุ่ม 55 นาทีแล้ว”
“จริงด้วย คุยเพลินเลยเนอะ” ฉันพูดพลางหันไปมองนาฬิกาติดผนังเรือนโปรดของย่า
เธอยังคงจ้องนาฬิกาอยู่เงียบ ๆ
23:58
“มีอะไรต้องทำตอนเที่ยงคืนเหรอ” ฉันคิดว่ามันต้องมีอะไรที่เธออยากทำให้ฉันประหลาดใจ
เธอมองดูนาฬิกาอีกครั้งเหมือนเตรียมพร้อมทำอะไรสักอย่าง
23:59
“เราชอบพรนะ ตั้งแต่ประถมแล้ว จนถึงม.ปลาย พรเป็นกำลังใจให้เราเสมอ วันที่เราเสียใจที่สุดพรก็อยู่กับเรา ถึงตอนนั้นมันจะไม่ใช่รักแต่ก็ใกล้เคียงมาก ตอนนี้เราแน่ใจแล้วว่ามันคือรัก เราแอบด้อม ๆ มอง ๆ อยู่แถวนี้หลายวันแล้ว เราอยากเริ่มวันใหม่ด้วยการบอกรักเธอ”
เธอพูดรวดเดียวราวกับกลัวว่าจะหมดเวลาสำคัญนั้นไป
เธอนิ่งอยู่นาน เธอยังคงน่าแกล้งเหมือนเดิม
“ฉันก็รักเธอ” ครั้งนี้ฉันแกล้งเธอด้วยคำพูดที่ออกมาจากใจ
ฉันชอบมองเธอตอนเขินนะรู้ไม๊
.
.
ฉันกำลังนั่งพักอยู่บนแคร่ไม้ไผ่หน้าบ้าน สองมือประคองลูกน้อยที่ดิ้นไปมาในท้อง
“กบคิดชื่อให้ลูกได้รึยัง”
“ยังเลย แต่กบว่าใช้ชื่อเรารวมกันก็ดีนะ กบกับพรเป็นกรไง”
.
.
ฉันขอแค่มีแต่เธอ ฉันขอแค่มีแต่เธอ
ฉันก็ไม่อยากเจอ อะไรมากมายกว่านี้
พอแล้วพอทุกอย่าง (พอ...พอ....)
จากนี้ไม่ต้องการอะไรสักอย่าง (เพราะฉันรู้ว่าฉันโชคดี)
จะแบ่งปันชีวิตเราเท่าที่มี (พอ...พอ....เพราะฉันรักแต่เธอที่ฉันมี)
สุขด้วยกันสองคน (ไม่ว่าทุกข์หรือสุข) ในทุกๆที่ (จะรักกันทุกๆที่)
ไม่ว่าจะร้ายดีสักเพียงไหน 🎶
คุยกัน
เนื้อหาตอนนี้ผมจินตนาการถึงพันธนาการอีกแบบที่ขังแม่น้องกรไว้ให้รอใครสักคนด้วยความหวัง และขอเอาใจช่วยคนที่รอครับ 🙂
ขอบคุณประโยค เธอดูง่ายจะตาย จากเรื่องสั้นเรื่องหนึ่งที่ผมไปแอบอ่านมา นางเอกพูดว่า "หนูรู้น่า อาจารย์น่ะดูง่ายจะตาย" 😁

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา