11 ก.ย. 2019 เวลา 01:08 • ไลฟ์สไตล์
รู้และเข้าใจเด็ก.. แบบ ลุง ลุง
เด็ก..มีสายเชื่อมความสัมพันธ์​กัน​ตั้งแต่​อยู่ใน​ครรภ์.. โดยผ่าน.. รก.. สายเชื่อม​ความ​สัมพันธ์กัน
เมื่อคลอดออกมา.. สายรก.. ก็โดนตัดขาดไป.. เปรียบได้กับเด็กกับแม่สิ้นเยื่อใย​สัมพันธ์​กันผ่าน.. รก.. ไปแล้วแน่นอน
นั่นหมายความว่า.. ต้องเริ่มสร้างกันใหม่.. โดยมีสายสัมพันธ์​เส้นใหม่ที่ต้องถูกสร้างขึ้นมา.. คือความรัก.. ผ่านการตั้งใจประคับประคองดูแลด้วยความเอาใจใส่
ดังนั้นจากนี้ไปด้วยคำบอกเล่าจากนักจิตวิทยาเด็กเพื่อการพัฒนา​ที่ดี..ซึ่งทฤษฎี​เยอะ.. คือพยายามทำให้เข้าใจยากเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มหรือป่าว.. ลุงไม่ทราบ
บวกกับประสบการณ์​จริงของลุง.. จึงจะพอประมวลผล..โดยมีทฤษฏี​ของนักจิตวิทยาเด็กเป็นพื้นฐาน..ผ่านการอธิบายให้ง่ายขึ้นจากประสบการณ์​จริงของลุงในการเลี้ยงและดูแลลูกมา
ในช่วงที่สำ​คัญ​ที่สุดในการดูแลลูกให้เติบโตตามแนวทางของพ่อและแม่คือช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงครบขวบปี
คือช่วงสร้างสายสัมพันธ์​ที่แท้จริง
คุณแม่ต้องพิสูจน์​ตัวเองว่าคุณแม่รักและห่วงใยลูกอย่างแท้จริงเพื่อให้ลูกรัก.. และไว้ใจ.. ว่าคุณคือพ่อ.. และแม่.. ตัวจริงที่เขาวางใจและไว้ใจได้ในความปลอดภัย
เพราะช่วงแรกเกิดถึงขวบปี.. เด็กแทบจะช่วยตัวเองไม่ได้.. หรือถ้าได้ก็น้อยมาก.. จำเป็นต้องได้รับการอนุบาลอย่างดี.. ตั้งใจ.. และด้วยมือที่นุ่มนวล.. ด้วยสายตาที่อ่อนโยน.. ของคุณแม่
จะทำให้ช่วงนี้แหละที่เขาจะจดจำว่าคุณคือผู้ปรารถนาดี​ต่อเขาอย่างแท้จริง.. คุณแม่
อันจะส่งผล.. ให้คุณมีอิทธิพลเพียงพอที่จะอบรมสั่งสอนเขาในทุกช่วงวัยที่มีการเปลี่ยนแปลงภายภาคหน้า
ช่วงอายุ 1-3 ขวบวัย.. เป็นช่วงการพัฒนา​ศักยภาพ​ของร่างกาย..เพราะร่างกายมีพัฒนาการทางกล้ามเนื้อเพิ่มขึ้น..ความสามารถทำกิจกรรมต่างๆจะเพิ่มขึ้นเช่นกัน..เริ่ม.. เดิน.. วิ่ง..​พูด.. และมีดื้อบ้างแล้วเพราะมีการอยากเรียนรู้เพิ่มขึ้น
การพัฒนา​การในช่วงนี้.. คุณ​ก็ควรดูแลอย่างใกล้ชิด
ความหมายของลุงคือ.. คุณต้องอยู่ในสายตาเขาเสมอ
เพราะทุกครั้งที่เขาริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ.. อาจแลดูเสี่ยงบ้าง.. ถ้าวิจารณญาณ​ของคุณบอกว่า.. พอรับได้.. ก็ควรปล่อยเขาให้ทำเพื่อเพิ่มทักษะการเรียนรู้ตามร่างกายที่สามารถทำได้แล้ว
ทุกๆครั้งที่เขาริเริ่มจะทำสิ่งใหม่ๆ.. เชื่อมั่นได้เลย.. เขาอาจไม่เชื่อมั่นเช่นถ้าเขาเริ่มเดินเองโดยไม่มีใครจับ.. ก้าวที่ 2-3 ของเขาจะเหลียวมาหาคุณ.. และรู้ว่าคุณ​ดูแลเขาอยู่.. เขาจะเชื่อมั่นมากขึ้น.. และจะก้าวต่อไปอย่างมั่นใจ.. จนอาจลืมหันกลับมาหาคุณอีกครั้งก็เป็นได้
ความเชื่อมั่น.. ก็จะมาควบคู่กับความดื้อ.. เริ่มไม่กลัว
ช่วงวัย 3-6 ขวบ.. พัฒนาการทางร่างกายเริ่มสมบูรณ์​แบบ.. คือทำอะไรได้มากขึ้นไม่แพ้ผู้ใหญ่.. เพียงแต่ขนาดแรงไม่เท่ากัน
เด็กวัยนี้ควรปล่อยให้เขาเล่นเพราะการพัฒนากล้ามเนื้อ.. โดยเฉพาะมือ.. ถือได้ว่าเป็นทักษะที่พัฒนาการเกี่ยวโยงสัมพันธ์​กับสมองโดยตรง
ดังนั้น.. ช่วงวัยนี้ของเด็กจะซนและดื้อมากขึ้น
แต่หลักการเลี้ยงดูยังคงเหมือนเดิมนะครับ
ร่างกายแข็ง​แรงขึ้น.. กิจกรรม​โลดโผนขึ้นตามศักย​ภาพ​ของร่างกาย
คุณไม่ควรห้ามแต่ต้องเพิ่มมาตราการควบคุม.. ชี้แนะ.. สิ่งที่ควรเช่นถ้าทำแบบนี้จะมีผลเสียอย่างไร.. ให้ทำในสถานที่และเวลาที่เหมาะสมเท่านั้น
คือไม่ฝืนแต่มีกฏเกณฑ์​เพิ่มขึ้นเท่านั้น.. และคุณต้องเพิ่มหน้าที่ให้เขามากขึ้นเช่นงานบ้านเล็กน้อยตามวัย
เก็บที่นอน.. เก็บของเล่นเมื่อใช้เสร็จแล้วเป็นต้น
ช่วงวัยชั้นประถม
เป็นช่วงวัยที่เด็กต้องก้าวเข้าสู่สังคมภายนอกอย่างแท้จริง
เด็กจะเริ่มกลัวสิ่งใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเขา
ยกเว้นว่าเขาวางใจในความเป็นแม่ที่น่าไว้วางใจได้ว่าทุกเย็น.. คุณพ่อ.. คุณแม่ต้องมารับกลับบ้านแน่นอน
เมื่อเด็กมั่นใจว่าไม่ถูกทอดทิ้งแน่นอน
เขาจะยอมก้าวสู่สังคมภายนอกได้อย่างง่ายดายขึ้นแน่นอน
ช่วงวัยนี้ของเด็กจะเต็มไปด้วยการแข่งขันเพื่อสร้างพื้นที่ของตนเองภายนอกบ้าน
จึงอาจมีการทะเลาะวิวาท.. ตบตีกันบ้าง
แต่สังเกตุ​มั้ยว่าเด็กน่ะ.. ตีกันแล้ว.. ก็ดีกัน.. เล่นด้วยกัน.. จนลืมไปเลยว่าเคยทะเลาะกัน
เพราะเด็กจะมีความประนีประนอม​สูงมากเพื่อมีการปรับสู่จุดที่ปลอดภัยได้
และสุดท้ายเด็กๆจะร่วมมือกัน.. เพื่อที่จะให้งานที่ได้รับมอบหมายจากครู.. สำเร็จ​ลุล่วง​ไปได้ด้วยดี
จึงเป็นช่วงที่เด็กๆจะเริ่มเข้าสู่ขบวนการผลิตอย่างแท้จริง.. เช่นผลิตงานการบ้านในรูปแบบต่างๆเป็นต้น
ช่วงมัธยม​จนถึงอุดมศึกษา.. ก็ไม่ต่างกันกับประถมหรอก
เพียงแต่ขนาดของปัญหาจะขยายวงใหญ่ขึ้น.. และปัญหาเพิ่มขึ้น.. ตามศักย​ภาพของร่างกาย.. เช่นปัญหาทางเพศ.. เซ็กซ์ 💞💕💞💕.. ยาเสพติด
ความยุ่งยากซับซ้อนกับสังคมที่มีอะไรแปลกใหม่เพิ่มขึ้น
หลักการเดิมไม่ต้องสกัดกั้นสิ่งไม่ดี..ไม่มีประโยชน์​ครับ.. เพราะขนาดความดื้อเพิ่มขึ้นตามกำลัง
ดังคำที่เคยให้สัมภาษ​ณ์ของอดีตพระเอกท่านนึง.. จำชื่อไม่ได้.. ว่า.. พ่อของเขาเลี้ยงดูเขาอย่างห่างๆโดยมีกฏกติกาควบคุมเปรียบเช่นคุณพ่อจะปล่อยให้เขาเล่นในสนามฟุตบอล.. เล่นอะไรก็ได้.. อย่างไรก็ได้.. มันเป็นเรียนรู้และเพิ่มทักษะของเขาได้ลองหลากหลายวิธีในการเล่น.. แต่.. ห้ามออกนอกเส้น.. นอกสนาม.. ถ้าออกมาเมื่อไหร่.. ท่านจะใช้ตีนเขี่ยให้กลับไปอยู่ในสนามเสมอ.. เช่นนี้เป็นต้น
ความรัก.. ความไว้วางใจในตัวคุณ.. กฏเกณฑ์​ที่ค่อยๆเพิ่มขึ้นของคุณที่มีต่อเขา
จะเป็นเกราะ​คุ้มกันภัยร้ายต่างๆนานาได้ดีต่อตัวเขาแน่นอน
ลุงเชื่อมั่นในเรื่องของความรัก.. และต้องรักเป็น
ลุงและป้าเลี้ยงดูแลลูก.. มาตั้งแต่เกิดเอง.. ไม่เคยฝากใครเลี้ยงเลย.. และเลี้ยงบนพื้นฐานของความเป็นจริง.. ไม่เคยโกหกพวกเขาเลย
ไม่รู้ว่าเลี้ยงลูกมาได้ถูกต้องตามหลักหรือไม่.. แต่ทุกวันนี้.. ลูกๆของลุงเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีและแอบมีไม่ดีบ้าง.. แต่พวกเขาไม่ทำตัวให้เป็นภาระอีกแล้ว.. มีแต่หันกลับมาดูแลลุงกับป้า.. ตามกำลังที่ทำได้
วันนี้​ลุงนำวิธีเลี้ยงดูเด็กแบบมีหลักเกณฑ์​บ้างมาแนะนำ.. หวังว่าคงเป็นประโยชน์​บ้างนะ
ยาวยืด.. พอสมควรแล้ว.. ไปล่ะ.. 🕺Bye
ชอบ.. หรือ.. ไม่ชอบ.. ก็ช่วยกันกระแทก 👍or❤️
ถ้าอยากเห็นลุงไม่ถอดใจล่ะก็.. ช่วยกด.. ติดตาม
โฆษณา