Blockdit Logo (Mobile)
ThaiFranchiseCenter
•
11 ก.ย. 2019 เวลา 01:38 • ธุรกิจ
รู้เลย! ทำไม 7-Eleven ต้องกลัว Amazon Go ในอนาคต
จะเป็นเรื่องดีอย่างมาก หากเราสามารถออกไปซื้อของโดยไม่ต้องพกเงินสดในร้านค้า เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่ Amazon เจ้าของอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ได้หันมาเปิดธุรกิจแนวใหม่ Amazon go ร้านสะดวกซื้อแนวใหม่ ที่หลายคนอาจเรียกว่า Future of the retail ธุรกิจค้าปลีกที่มาพร้อมความสะดวกสบายในการจับจ่าย ไม่ต้องเสียเวลาในการต่อคิว 
 
ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วยทำให้การดำเนินชีวิตง่ายขึ้น ร้านสะดวกซื้อ Amazon go เป็นอย่างไร ทำไมต้องทำให้ร้านสะดวกซื้ออื่นๆ อย่าง 7-Eleven ต้องหนาวๆ ร้อนๆ วันนี้ www.ThaiFranchiseCenter.com มีข้อมูลจะมานำเสนอให้ทราบ
 
Amazon go คืออะไร
1
Amazon go คือร้านสะดวกซื้อ หรือซุปเปอร์มาร์เก็ตรูปแบบใหม่ ที่สร้างประสบการณ์การใช้จ่ายรูปแบบใหม่ที่รวดเร็ว และสะดวกสบาย ปราศจากแคชเชียร์ เพียงแค่ลูกค้าเดินเข้าไปพร้อมสมาร์ทโฟนที่ติดตั้งแอปพลิเคชั่น Amazon go เลือกซื้อจับจ่ายผลิตภัณฑ์ แล้วเดินออก ระบบจะตัดเงินจากบัญชี Amazon Account โดยอัตโนมัติตามยอดสินค้าที่ซื้อพร้อมใบเสร็จ
โดยสาขาแรกได้เปิดให้ใช้บริการในปี 2017 ที่เมือง Seattle รัฐ Washington ประเทศสหรัฐอเมริกา ปัจจุบันมี 16 สาขา ในเมืองชิคาโก นิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และซีแอตเทิล และกำลังเตรียมขยายสาขากว่า 3,000 แห่งทั่วอเมริกาในปี 2014
 
ร้านสะดวกซื้อ Amazon Go มีขนาดประมาณขนาดพื้นที่เฉลี่ยเท่าๆ กับร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven ในเมืองไทย สินค้าหรือของที่ขายก็คล้ายกัน คือ เป็นอาหารพร้อมรับประทาน (Ready-to-eat), เครื่องดื่ม, ขนม รวมไปถึงพวกเครื่องปรุงรส และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ข้อดีของร้านก็คือ ลูกค้าไม่ต้องต่อคิวให้เสียเวลา 
 
การทำงานของ Amazon go
ก่อนจะเข้าร้าน Amazon Go ลูกค้าต้องดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Amazon Go เข้ามาไว้ในเครื่องมือถือของตัวเองก่อน และเชื่อมแอปพลิเคชั่นเข้ากับบัญชี Amazon.com ของตัวเอง หลังจากเชื่อมเข้าบัญชีเรียบร้อย หน้าจอแรกของแอปพลิเคชั่น Amazon go จะกลายเป็น QR Code ประจำตัวเรา ใช้เดินเข้าร้านได้ทันที สำหรับทางเข้าร้านจะเป็นประตูกั้นคล้ายๆ กับทางเข้า BTS, MRT ในเมืองไทย และมีช่องให้ลูกค้าใช้โทรศัพท์สแกน QR Code เพื่อเข้าร้าน
ภายในร้านระหว่างที่ลูกค้าเดินเลือกซื้อของ และหยิบของเข้าออกในร้าน ตัวแอปพลิเคชั่นจะแสดงแค่หน้าจอใบเสร็จโล่งๆ พร้อมเวลาที่ลูกค้าเดินเข้าร้าน ไม่ได้อัพเดทสินค้าในมือถือแบบ Real-time เหมือนในโฆษณา ถึงแม้จะไม่มีแคชเชียร์ แต่ในร้านก็ยังมีพนักงานอยู่บ้าง สำหรับเติมสินค้าในชั้นวาง, ต้อนรับลูกค้า และตรวจอายุผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
ส่วนที่น่าสนใจที่สุดของ Amazon Go คือ เทคโนโลยีเบื้องหลัง ซึ่งแน่นอนว่าลูกค้าอาจไม่ทราบรายละเอียดมากนัก แต่ตามสื่อเปิดตัวของทาง Amazon เองบอกว่ามีส่วนของ Computer Vision และ Deep Learning เข้ามาเกี่ยวข้อง
เมื่อลูกค้าแหงนหน้าขึ้นไปมองเพดานร้าน ก็จะเห็นกล่องสีดำ ซึ่งน่าจะเป็นกล้องเรียงรายอยู่เป็นจำนวนมาก ประมาณมีกล้องอยู่ 2–3 แบบ และมีรวมกันทั้งร้านประมาณ 100–150 ตัว (ชั้นวางสินค้าชั้นหนึ่งจะมีกล้องรุมอยู่ 5–6 ตัว)
เมื่อลูกค้าเดินเลือกดูสินค้าที่ต้องการ สามารถหยิบสินค้าติดไม้ติดมือออกมาได้เลย ซึ่งตอนเดินออกจากร้าน ลูกค้าไม่ต้องสแกนอะไรอีกแล้ว สามารถเดินไปที่ประตู แล้วเดินออกได้เลย สะดวกรวดเร็วมากๆ หลังจากนั้นไม่นานหากใครเปิดแอปพลิเคชั่นเอาไว้ หน้าจอโทรศัพท์ก็จะโชว์ใบเสร็จรับเงินที่ซื้อสินค้าไปแล้ว
Amazon Go สะดวกรวดเร็วจริง! สะเทือน 7-Eleven
ภาพจาก bit.ly/2kprp2N
ด้วยความสะดวกสบาย ไม่ต้องต่อคิว ไม่ต้องพกเงินสด ในการซื้อสินค้าในร้าน Amazon go ก็น่าจะสามารถดึงดูดลูกค้าเข้ามาใช้บริการได้เป็นอย่างดี เพราะดูจากเริ่มเปิดสาขาแรกในช่วงปี 2017 ปัจจุบันมี 16 สาขา และเตรียมขยายเพิ่มเป็น 3,000 สาขาทั่วสหรัฐอเมริกาภายในปี 2021 นั่นถือเป็นการเติบโตที่ไม่ธรรมดา เป็นอันตรายต่อร้านสะดวกซื้ออื่นๆ ในอเมริกา
 
โดยเฉพาะ 7-Eleven ที่ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกามีจำนวนกว่า 9,340 สาขา จากจำนวนสาขาทั้งหมดทั่วโลกกว่า 68,236 สาขา น่าจะสะเทือนจากการขยายสาขาของ Amazon go ที่ให้ทั้งความสะดวกสบาย ไม่ต้องต่อคิวจ่ายเงิน ที่สำคัญ Amazon go มีสินค้าและบริการเหมือนๆ กันกับ 7-Eleven ลูกค้าเข้ามาหยิบของแล้วออกไปได้เลย
1
ภาพจาก The Wall Street Journal
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า 7-Eleven ก็คงไม่หยุดพัฒนาเทคโนโลยีเป็นตัวช่วยในการดำเนินธุรกิจแค่นี้ เพราะที่ผ่านมา 7-Eleven ก็พัฒนารูปแบบร้านค้าที่ไม่ต้องมีแคชเชียร์ในร้านอีกต่อไป ในประเทศไต้หวันถึง 2 สาขา นั่นจึงเป็นเรื่องน่าจับตามองอย่างยิ่ง
โฆษณา