12 ก.ย. 2019 เวลา 02:36
กับดักของทางเลือก
คือเรามักจะชอบนึกว่ามีแค่สองทาง
ในโบรชัวร์ชี้ชวนให้เรียน MBA ของมหาลัยเมืองนอกแห่งหนึ่ง มีภาพของอาคารเรียนที่ดูขลัง สนามหญ้าเขียวชอุ่ม หนุ่มสาวหลายเชื้อชาติล้อมวงคุยกันด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส
ในโบรชัวร์บอกว่า การเรียน MBA คือการลงทุนที่คุ้มค่า เพราะแม้จะเสียค่าเล่าเรียน $100,000 แต่ในระยะเวลา 30 ปี คนที่เรียน MBA จะมีรายได้สะสมมากกว่าคนที่ไม่ได้เรียน MBA ถึง $400,000
พูดง่ายๆ ก็คือการเรียน MBA ทำให้เรามีกำไรถึง $400,000-$100,000 = $300,000 เลยทีเดียว
แต่คำชี้ชวนเช่นนี้มีหลุมพรางด้วยกันถึง 4 ประการ
หนึ่ง คนที่เรียน MBA มักเป็นคนทะเยอะทะยานและทำงานเก่งอยู่แล้ว ดังนั้นถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้เรียน MBA ก็น่าจะมีรายได้มากกว่าคนทำงานปกติอยู่ดี
สอง เวลาสองปีที่เอาไปเรียน MBA นั้นเราต้องหยุดทำงาน และจะสูญเสียรายได้ไปไม่น้อย สมมติว่าสองปีนี้ถ้าเรายังทำงานอยู่เราจะมีรายได้อีก $100,000 นี่คือ “ค่าเสียโอกาส” ที่ต้องถูกคิดรวมอยู่ใน “ต้นทุน” การเรียน MBA ด้วย
สาม 30 ปีเป็นเวลาที่ยาวนานเกินกว่าจะมาคาดการณ์ได้ว่ารายได้ของเราจะเป็นเท่าไหร่ โลกอีก 10 ปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไรยังไม่มีใครรู้เลย
สี่ ทางเลือกของเราไม่ได้มีแค่เรียน MBA หรือ ไม่เรียน MBA แต่เรายังมีทางเลือกอื่นๆ อีกมากมาย เช่นอาจเข้าคอร์ศหรือเรียนโทสาขาอื่นๆ ที่ค่าใช้จ่ายได้เว่อร์วังเท่า MBA แต่ยังเพิ่มพูนความรู้ความสามารถให้เราได้
ข้อสี่คือข้อที่เราควรใส่ใจให้มาก เพราะเรามักหลงลืมกัน
เวลาเราเจอโจทย์ เรามักจะมองเห็นแค่สองทางเลือก
เช่นมีพื้นที่รกร้างว่างเปล่าอยู่ในตัวจังหวัด นักการเมืองท้องถิ่นเลยบอกว่า เราควรสร้างสนามกีฬา เพราะยังไงก็ดีกว่าปล่อยพื้นที่ให้ว่างไว้เฉยๆ
แต่ประเด็นที่เราควรคุยกัน ไม่ใช่การเลือกว่าจะปล่อยที่ให้รกร้าง หรือจะสร้างสนามกีฬา แต่เราต้องคุยด้วยว่า มันมีอะไรอื่นๆ ที่ดีกว่าการสร้างสนามกีฬาด้วยรึเปล่า
หรืออีกตัวอย่างหนี่ง หากเราป่วยเป็นโรคร้ายที่จะทำให้เรามีชีวิตอยู่ได้อีก 5 ปี แล้วหมอเสนอว่า หากผ่าตัดจะสามารถรักษาโรคนี้ได้หายขาด แต่การผ่าตัดมีโอกาสสำเร็จเพียง 50%
เราจะเลือกอะไร ระหว่างอยู่ไปอีก 5 ปีแล้วต้องตายแน่ๆ กับผ่าตัดพรุ่งนี้แล้วอาจจะรอดหรืออาจจะตายก็ได้
ซึ่งเป็นคำถามที่ผิด
คำถามที่ถูกคือมีทางเลือกอะไรอีกบ้าง เช่นมันอาจจะมีการรักษาอย่างอื่นที่ไม่ได้ช่วยให้หายขาด แต่จะทำให้เราอยู่ไปได้อีก 10 ปี ซึ่งถึงตอนนั้นก็อาจจะมีการรักษาวิธีอื่นที่ดีกว่าและปลอดภัยกว่าแล้วก็ได้
กับดักของทางเลือก คือเรามักจะติดอยู่กับทางเลือกที่เห็นชัดๆ อยู่ตรงหน้า จนมองไม่เห็นทางเลือกอื่นๆ
นักจิตวิทยาเรียกสิ่งนี้ว่า Alternative Blindness
ทางเลือกจึงมีมากกว่าสองทางเสมอ
จำไว้ให้มั่นเลยนะครับ
—–
สรุปเนื้อหาจากบทหนี่งในหนังสือ 52 วิธีตัดสินใจให้ไม่พลาด โดย Rolf Debelli สำนักพิมพ์ WeLearn
โฆษณา