13 ก.ย. 2019 เวลา 23:59
7 วิธีทำให้ตัวเองมีเงินเก็บในยุคนี้
1. ‘เจียมตัว’ ...เป็นคุณสมบัติเเรกของคนที่อยากมีเงินเก็บในยุคนี้ การเจียมตัวไม่ใช่เป็นการกดชีวิตตัวเอง แต่เป็นการรู้ตัวเองว่า ศักยภาพเราเหลือกินเหลือใช้ได้เเค่ใหน ไม่ใช่เห็นคนรวยเขาถือกระเป๋าแบบนี้ เที่ยวหรู กินอาหาร ดื่มกาแฟแพงแบบนี้ แล้วถ้าเราต้องทำตาม รับรองจนเหมือนเดิม
2. ‘เลิกใจอ่อน’ ...เลิกใจอ่อนให้เพื่อนยืมเงินทั้งๆ ที่ตัวเองก็ไม่มี เลิกใจอ่อนก่อหนี้แบบไม่คิดไกล เลิกใจอ่อนกับสินค้าลดราคาที่รู้ว่าซื้อมาก็ไม่ได้ใช้ เลิกใจอ่อนช่วยเรื่องเงินทุกคนยกเว้นตัวเอง ถ้าเลิกใจอ่อนเหล่านี้ได้ ถึงแม้ไม่มีเงินเก็บ แต่ก็ต้องมีเงินเหลือให้คิดเก็บแน่นอน
3. ‘ตัดฝากเงินแบบอัตโนมัติ’ ...คือ การไม่เชื่อตัวเองว่าจะถือเงินไปฝากที่เเบงค์ได้ ถึงทำได้ก็นับหัวได้เลย เชื่อระบบดีกว่า ให้ตัดฝากเงินเหมือนโดนหักภาษี ก่อนเหลือเงินถึงมือมาให้ใช้ จำไว้! เงินที่ไม่เห็น คือ เงินที่ออมเพื่ออนาคตเรา
4. ‘หาทางลดรายจ่ายประจำ’ ...เพื่อแก้ปัญหาการเงินติดขัด เพราะแค่ประหยัด หรืออยู่อย่างจำกัดจำเขียดช่วยเเค่แก้ไขให้ผ่านไปวันต่อวัน แต่การหาทางลด เจรจา ให้รายจ่ายประจำลดลงในระยะยาวนั้น เช่น ค่าผ่อนบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเน็ต ค่าโทรศัพท์ ไอเทมเกมส์ ค่ากาแฟ มันช่วยให้สภาพคล่องกลับมาดีมีเงินเก็บได้แน่นอน
5. ‘หาอาชีพเสริม’ ...เพื่อให้มีรายได้เพิ่มหลายทาง เพราะรายได้ทางเดียวมันทนต่อรายจ่ายหลายทางไม่ได้ จำไว้! แม้อาชีพเสริมที่ทำอาจไม่รวย แต่มันช่วยลดเวลาที่เราจะเอาไปกินเที่ยวเล่น มาเปลี่ยนเป็นทำงานเพื่อพัฒนาสกิลใหม่ๆ แถมมีรายได้เพิ่มจากรายได้ประจำมาเก็บนั่นแหล่ะ
6. ‘อย่าขยับไลฟ์สไตล์จนไร้สตางค์’ ...เพราะคนที่ทำงานมาจนถึงวันนี้ คุณต้องมีรายได้มากกว่าวันเเรกที่เริ่มงานแน่ๆ แต่ที่รายได้มากกลับไม่มีเงินเหลือ ส่วนใหญ่ระหว่างที่รายได้เพิ่ม เราทนรวยไม่ได้ เลยต้องรีบขยับไลฟ์สไตล์จนไร้สตางค์ ใช้เงินอย่างเจ้าของบ่อน้ำมัน จนไม่มีรายได้ให้เหลือเก็บ แถมติดหนี้เพิ่มอีก
7. ‘เลิกหน้าใหญ่’ ...อย่าใจกล้า หน้าใหญ่ ใช้เงินให้คนอื่นยอมรับในตัวเรา กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง เก็บความใจกล้าไปใช้ในเรื่องทำมาหากินจะดีกว่า
และ ผมไม่รับรองว่าการเก็บเงินมันจะทำให้รวย แต่การ ‘มีเงินเก็บ’ ย่อมดีกว่า ‘ไม่มีเงินเก็บ’ แน่นอน..ผมยืนยัน!
#แร้มเงินล้าน
โฆษณา