16 ก.ย. 2019 เวลา 09:30 • ไลฟ์สไตล์
้เกลือหิมาลัย..
เกลือหิมาลัย
เกลือหิมาลัย หลายคนคงเคยได้ยินแต่ชื่อมานาน มันเป็นเกลือที่สวยงามเหมือนอัญมณี และนำมาลองชิมประเดิมกับสับปะรดดู
เกลือหิมาลัยกับสับปะรดเปรี้ยวๆหวานๆอร่อยดี
เกลือหิมาลัย คือเกลือโบราณที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อกว่า 250 ล้านปีก่อนจากน้ำทะเลที่แห้งระเหยตัวลงฉับพลันทับซ้อนกันหลายชั้นแล้วถูกผืนโลกกดทับด้วยแรงดันมหาศาล และถูกยกตัวขึ้นมาสู่ผิวโลกให้จับต้องได้อีกครั้ง ณ พื้นที่ส่วนหนึ่งของเชิงเขาหิมาลัย ประเทศปากีสถาน
และได้ถูกนำมาใช้ในเชิงเป็นยารักษาโรคต่างๆ มาแล้วหลายพันปี ปัจจุบันพบว่ามันมีแร่ธาตุกว่า 80 ชนิด และมีสรรพคุณในการรักษาในหลายๆโรคอย่างได้ผลจริง
และเหมาะกับคนที่เริ่มไม่ค่อยแน่ใจกับเกลือในท้องตลาดทั่วไปว่ามีสารเคมีเจือปนในขั้นตอนบรรจุภัณฑ์หรือไม่ โดยเฉพาะเกลือบางรุ่นที่แห้งเป็นผงแป้งตลอดเวลา ไม่ดูดความชื้นตามธรรมชาติของเกลือทะเล
และก็มีวิธีใช้เกลือหิมาลัยมาฝากกัน ยาวนิดนึง
10 วิธีใช้เกลือหิมาลัย
เกลือหิมาลายันมีความบริสุทธิ์ ไร้สารเคมีใดๆ และอุดมด้วยแร่ธาตุมากมาย จึงสามารถใช้เกลือนี้บำรุงสุขภาพ และดูแลรักษาผิวได้ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า เราจะใช้ประโยชน์จากเกลือหิมาลายันให้คุ้มค่าสุดๆ ได้อย่างไรบ้าง
1.ใช้ปรุงอาหารแทนเกลือแกง เกลือหิมาลัยมีแร่อิเล็กโทรไลต์และแร่ธาตุอื่นๆ อีก 80 ชนิด ที่จำเป็นต่อร่างกาย ส่วนเกลือแกงมีเพียงแร่โซเดียมและคลอไรด์
2.ชงดื่ม ปรับสมดุลค่า pHของร่างกาย***
สูตร 1...
บีบมะนาว ครึ่งลูก ใส่แก้ว
เติม เบ้กกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา
เติม เกลือหิมาลัย 1/6 ช้อนชา(หยิบมือ) เติม น้ำเปล่า 150 ซีซี คนให้เข้ากัน ดื่มก่อนอาหาร 10 นาที หรือ หลังออกกำลังกาย
สูตร 2...
เกลือ 1 ช้อนชา ชงน้ำอุ่น 200 ซีซี เมื่อมีอาการท้องเสีย อาเจียน หรือ ดื่มช่วง 11.00 น. หรือ 16.00 น. ได้ประจำ *** สำหรับผู้ป่วยโรคกระเพาะอาหาร ลำไส้อักเสบ กรดไหลย้อน ต้องงดอาหารรสเปรี้ยว จะไม่ใส่มะนาว
3.ขัดผิว
เกลือหิมาลัยแบบป่น 1 ช้อนโต๊ะ น้ำผึ้ง 1 ช้อนโต๊ะ น้ำมะนาว 1 ช้อนชา โยเกิร์ตรสธรรมชาติ 1 ถ้วย คนส่วนผสมให้เข้ากัน ใช้ขัดผิวกาย 15-20 นาที พอกทิ้งไว้ แล้วล้างออก ช่วยขจัดผิวชั้นหนังกำพร้า
ทำให้ผิวกระจ่างใสและนุ่มนวล
4.มาร์กหน้า ผสมเกลือหิมาลัยแบบป่น 2 ช้อนชา กับน้ำผึ้ง 4 ข้อนชา พอกใบหน้าทิ้งไว้ 10-15 นาที แล้วล้างออก ช่วยลดความมัน แต่ผิวยังชุ่มชื่นอ่อนนุ่ม
5.แช่เท้าดีท็อกซ์ เกลือหิมาลัยแบบเม็ด 1กำมือ กับน้ำอุ่นจัด แช่เท้า 15-20 นาที ไม่ต้องล้างเท้าหลังแช่เสร็จ
6.อาบน้ำแร่ เกลือหิมาลัยแบบป่น 1 กิโลกรัม เทลงอ่างใส่น้ำอุ่น แช่ตัว 30 นาที เทียบเท่าการขับสารพิษต่อเนื่อง 3 วัน
7.ทำน้ำยาบ้วนปาก ละลายเกลือหิมาลัย 1/2 ช้อนชา เบ้กกิ้งโซดา 1/2 ช้อนชา กับน้ำอุ่น 1/4 ถ้วยตวง ใช้บ้วนปาก ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียในช่องปากและทำให้ลมหายใจสดชื่น
8.สปาเล็บ ผสมเกลือหิมาลัย เบ้กกิ้งโซดา และน้ำมะนาว อย่างละ 1 ช้อนชา กับน้ำอุ่นครึ่งถ้วยตวง จุ่มนิ้วมือลงไปในภาชนะ ประมาณ 10 นาที ใช้แปรงเล็กๆ ขัดทั่วนิ้ว ส่วนผสมจะช่วยกำจัดหนังกำพร้าและคราบสีเหลืองบนเล็บ
9.แก้ฟันเหลือง ผสมเกลือ 1 ช้อนชา กับ ผงฟู 2 ช้อนชา ใช้แทนยาสีฟัน จะช่วยขจัดคราบสีบนฟัน และมีฟลูออไรด์ธรรมชาติ ที่เป็นประโยชน์กับเหงือกและฟัน
10.กำจัดรังแค แบ่งผมแล้วโรยเกลือหิมาลัยแบบป่นลงไป ใช้มือเปียกนวดให้ทั่วศรีษะ จากนั้นสระผมตามปกติ ทำได้บ่อยก่อนสระผม จนกว่าอาการจะทุเลา
#ความรู้เรื่องการกำเนิดสีเกลือหิมาลัย
1.สีดำขาวไหม้ Ph10-11 ==> เป็นเกลือที่อยู่ปากปล่องภูเขาไฟ มีกำมะถัน โดนความร้อนจนไหม้ ค่า Ph 11 คนอินเดีย ปากีสถานจะนิยมมารับประทาน เป็นยารักษาโรค ต้านอนุมูลอิสระดีมาก
2.สีดำ Ph 10-11==> เป็นเกลือที่เลยจากปล่องภูเขาไฟต่ำลงมา มีกำมะถันเยอะ คนอินเดีย นิยมนำมารับประทานเป็นยาในตัว มีธาตุอาหารสูง ต้านอนุมูลอิสระดีมาก
3.สีน้ำตาล Ph10-11==> เป็นเกลือที่ต่ำลงมาอีกชั้น มีกำมะถันน้อยลงมาอีกหน่อย ต้านอนุมูลอิสระดีมาก
4.สีชมพูเข้ม Ph 7-8 ==> ลดระดับมาเรื่อยๆแต่เจอธาตุเหล็กผสมเยอะ
5.สีชมพู Ph9 ==> จะอยู่ต่ำกว่าระดับกลางถึงล่างโดนความร้อนพอสมควร คนไทยชอบสีนี้ดูน่ากินน่าใช้
6.ชมพูจางๆ Ph 8-9==> จะอยู่ลำดับรองสุดท้าย หาง่าย
7.สีใสสีขาว Ph 7-8 ==>จะอยู่ล่างสุด ไม่โดนความร้อนเผาจึงมีสภาพเหมือนเกลือทะเลที่สุด แต่อายุยาวนานกว่ามีคุณค่าทางอาหารอาจมากกว่าดอกเกลือ
2ถุง2สี ราคา 380บาท
ขอบคุณข้อมูลดีๆจากgoogle
และจากการสอบถามคนเฒ่าคนแก่แถวบ้าน
เรียบเรียงข้อมูลเองติชมได้คะ
โฆษณา