ครั้งหนึ่งเขาเข้าร่วมรายการ The Amazing Race ซึ่งพาเขาไปที่อาร์เจนตินาและทำให้เขารู้จักกีฬาโปโล เขาเข้า Google หาคำว่า Polo camp, cheap จนเจอแคมป์แถวนอกกรุงบัวโนสไอเรส เขาจึงเดินทางไปที่นั่น
TOMS กลายเป็นต้นแบบโมเดลธุรกิจ One for One ที่ทำเงินจากลูกค้าที่ชื่นชอบเรื่องราวและร่วมมือกับ NGO เพื่อเป็นช่องทางในการแจกจ่ายรองเท้าให้กับผู้ที่ต้องการ แต่ “การให้” ไม่จำเป็นต้องเป็นสิ่งของเท่านั้น
ภายใต้การบริหารของ Ailling Mycoskie ไม่สามารถบริหารตามอำเภอใจได้เหมือนเดิม แต่ก็ดีแล้วเพราะมันทำให้เขาเจอเส้นทางใหม่ที่ขยายโมเดล One for One ได้กว้างขึ้น
Mycoskie ได้เงินทุนจาก Bain Capital ประมาณ 300 ล้านดอลล่าร์ เขาจึงเอาเงินครึ่งหนึ่งเงินไปลงทุนในธุรกิจเพื่อสังคม “ถ้าเรามีการลงทุนที่ดี กองทุนนี้ก็จะใหญ่ขึ้นๆ และมันจะคงอยู่ต่อไปแม้ว่าเราจะตายไปแล้ว” Mycoskie กล่าว ว่าแล้วเขาก็ตั้ง TOMS Social Entrepreneurship Fund ขึ้นมาในปี 2015
ธุรกิจที่เขาลงทุนล้วนได้รับอิทธิพลจากแนวคิด One for One ฉะนั้นเมื่อมีแนวคิดเดียวกันเขาก็ไม่จำเป็นต้องไปเซ้าซี้พวกผู้ก่อตั้ง เขาเลือกที่จะเป็นนักลงทุนที่ไม่โวยวายแต่จะทำตัวเหมือนเชียร์ลีดเดอร์แทน
ธุรกิจที่เขาลงทุนก็อย่างเช่น Back to the Roots ที่ขายชุดอุปกรณ์ปลูกผักหรืออาหารเช้าแบบออร์แกนิค ถ้าคุณซื้อสินค้าของพวกเขา บริษัทก็จะบริจาคอุปกรณ์เหล่านั้นให้กับโรงเรียนที่คุณเลือกช่วยเหลือ
Cr. Crowdfundinsider.com
AVA แอพลิเคชั่นที่พิมพ์ตัวอักษรโดยใช้เสียงที่ช่วยเหลือคนพิการทางหูและคนที่มีปัญหาการได้ยินให้พวกเขาได้จับกลุ่มคุยกัน
และเมื่อไม่นานมานี้ TOMS ได้ขยายผลโมเดล One for One โดยจากเดิมเมื่อคุณซื้อรองเท้า TOMS จะนำรองเท้าไปให้เด็กตามจำนวนที่คุณซื้อ แต่ตอนนี้คุณสามารถเปลี่ยนจากการให้รองเท้าเป็นสนับสนุนแคมเปญที่เกี่ยวกับสังคมแทน