21 ก.ย. 2019 เวลา 01:50 • กีฬา
สายสัมพันธ์ของบูทรูม
Dalglish & Rush
สโลแกนประจำสโมสรลิเวอร์พูลอย่าง You'll never walk alone ไม่ใช่สโลแกนที่เอามาใช้เพื่อให้มันดูเท่ ไม่ได้เป็นคำพูดที่ยกยอเกินจริงกว่าที่สโมสรจะทำได้ เพียงแต่หากว่าคำนี้คุณคงไม่กล้าพูดแน่ๆหากว่าคุณไม่รู้สึกลึกซึ้งกับคำๆนี้จริงๆ
ความซื่อสัตย์ ความภักดี ความรักที่มีต่อสโมสร บอกเลยว่านักเตะลิเวอร์พูลในสมัยก่อนนั้นไม่เป็นรองทีมไหนๆ
ครั้งหนึ่ง เซอร์อเล็ก เฟอร์กูสัน เมื่อครั้งที่เป็นผู้ช่วยทีมชาติสกอตแลนด์ได้เล่าเหตุการณ์ๆหนึ่งที่โคตรจะสำคัญกับทีมชาติเขา
สกอตแลนด์ต้องการผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลโลกในปี 1986 ให้ได้ เพราะช่วงนั้นนักเตะสกอตแลนด์ถือว่าอยู่ในช่วงที่มีนักเตะดังๆมากมายก่ายกอง โดยเฉพาะนักเตะลิเวอร์พูลอย่าง เคนนี ดัลกลิช,อลัน แฮนเซน,แกรม ซูเนสส์ และสตีฟ นิโคล
คนขวาสุดคือแกรมส์ ซูเนสส์
ในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกนั้น สกอตแลนด์ดันอยู่กลุ่มเดียวกับสเปน เวลส์และไอซ์แลนด์
สกอตแลนด์เอาชนะไอซ์แลนด์ไปได้นัดแรก 3-0 ซึ่งต่อมาพวกเขาเอาชนะสเปนไปอีก 3-1 นัดต่อมาพวกเขาต้องเจอกับเวลส์ที่มียอดนักเตะอย่างเอียน รัช สุดยอดกองหน้าดาวยิงอย่างลิเวอร์พูลและมาร์ค ฮิวจ์ส ของแมนฯ ยูไนเต็ด
สถานการณ์ในห้องตอนนั้นถือว่าตึงเครียดมากๆ เพราะนักเตะทั้ง 4 คนของลิเวอร์พูลอย่าง คนนี ดัลกลิช,อลัน แฮนเซน,แกรม ซูเนสส์ และสตีฟ นิโคล ไม่มีใครยอมเอ่ยปากบอกข้อดีและข้อด้อยของเอียน รัช ให้ฟัง ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลอะไรทั้งสิ้น
เรียกได้ว่ารักสโมสรมากกว่าทีมชาติ
ซึ่งตรงข้ามกับอาร์เธอร์ อัสบิสตัน ผู้เล่นในทีมชาติสกอตแลนด์นั้นเปิดเผยข้อมูลของมาร์ค ฮิวจ์ส เพื่อนร่วมทีมจนหมดเปลือก
Mark Hughes
ภายหลัง ซูเนสส์ ได้บอกกับจ๊อค สตีน ผู้จัดการทีมชาติในตอนนั้นว่านี่คือพฤติกรรมของนักเตะลิเวอร์พูล ที่จะไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลของเพื่อนร่วมทีมให้ใครต่อใครฟัง
แต่ซูเนสส์ก็ได้ไปบอกจุดอ่อนของ รัช ให้กับกับ เฟอร์กูสันและสตีน ในภายหลัง เพราะถ้าซูเนสส์พูดออกไปในห้องประชุมจะต้องสร้างความไม่พอใจให้กับ ดัลกลิช แน่ๆ
เรื่องนี้สร้างความงุนงงให้กับอเล็ก เฟอร์กูสัน และ สตีน อย่างมากในความภักดีต่อสโมสรของนักเตะลิเวอร์พูล
สุดท้ายแล้วการพบกันของสกอตแลนด์กับเวลส์ก็จบลงด้วยผลเสมอทั้ง 2 นัด สกอตแลนด์ในเข้ารอบเพลย์ออฟและผ่านเข้าไปเล่นในรอบสุดท้ายได้สำเร็จ ส่วนเวลส์ตกรอบ
นี่คือหนึ่งในเรื่องราวที่สร้างความสัมพันธ์ให้โลกได้รู้เกี่ยวกับนักเตะลิเวอร์พูล และเหมือนเป็นเรื่องราวที่ส่งต่อกันเป็นทอดๆให้กับนักเตะรุ่นหลังว่าในอดีตนั้น นักเตะลิเวอร์พูลผูกพันธ์กันมากแค่ไหน และที่สำคัญคือเรื่องนี้ไม่มีนักเตะลิเวอร์พูลคนไหนใครเอ่ยปากพูดออกมา
แต่มันเป็นเรื่องเล่าจากปากของคู่แข่งอย่างอเล็ก เฟอร์กูสัน เองเสียด้วยสิ
Boot Room
ทีมชาติอยู่ในใจ...แต่ลิเวอร์พูลอยู่ในสายเลือด
.
.
.
#ปลายสตั๊ดสีแดง
โฆษณา