7 ต.ค. 2019 เวลา 00:59 • ไลฟ์สไตล์
ของดีต้องมีแข่ว !!
ผมมา สปป.ลาว ดึกอีกตามเคย จะว่าไปแล้วผมชอบนะ จ่ายเพิ่มค่า OT อีกนิดหน่อย ไม่ต้องต่อคิว อากาศไม่ร้อน
ปลายทางของคืนนี้ อยู่ที่ร้านกินดื่มของ “อ้ายเพ็ด” ตามเคย
สำหรับข้าวนั้น อิ่มมาตั้งแต่ออกเดินทางที่ฝั่งไทยแล้ว ดังนั้นค่ำคื่นนี้ คงดื่มกินก่อนจึงเข้านอน
เมนูที่ “อ้ายเพ็ด”มักนำเสนอ ก็คือ “จี่หนัง′ นิยาม “จี่” คือ เผา ทำให้สุกโดยความร้อน
หนังเค็ม ทำมาจาก หนังวัว หรือ หนังควาย นี่ล่ะ แล่ทำเป็นเส้นๆ จากนั้นหมักด้วยเกลือ 1 วัน นำมาล้างน้ำ เอาไปคลุกกับรำข้าว แล้วค่อยนำไปตากแดดจัดๆ อีกสัก 1 วัน
พอแห้งดีแล้ว นำมามัดรวมกัน จะนำไปขายหรือเก็บไว้กินก็ได้เป็นเดือนๆ ไม่ว่าจะ “จี่” แล้วกินเลย หรือ ไม่ก็ใส่แกงขี้เหล็ก กะแซบคือกันครับ
ทักทายกันเสร็จ “อ้ายเพ็ด”ก็ม้วนหนังวัวลงเตาทันที ดูสิครับควันขโมงเชียว
กำลังจี่หนัง
ไม่กี่อึดใจ หนังวัวก็ดำปี๋ พร้อมทานแล้วครับ
นำมาทุบๆ สักหน่อย ก็เป็นอันใช้ได้ หลังจากทุบแล้ว ก็ขาวน่ากินดี จัดการหั่นใสจานได้เลย
กินแกล้มด้วย “ตำหลวงพระบาง” ซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญคือ “น้ำปู” ทำให้รสกลมกล่อมยิ่งนั่ก
กว่าจะเคี้ยวเจ้า “จี่หนัง” หมดก็ดึกดื่นกำลังดี เจ้าบ้านเตรียมที่นอนให้ได้พักตามอัธยาศัย
เช้าวันใหม่ ณ เตาอันเดิม ภรรยาอ้ายเพ็ด ก่อไฟขึ้นแต่เช้า ควันขโมงเลย ผมก้มไปดู โอ้ยน้อ!! “จี่หนัง” อีกแล้ว
คีบออกมาก็คงเป็นเช่นเดิม ดำปี๋!!!
ครั้งนี้ผมอาสาทุบเอง ด้วยค้อนตีตะปู นี่ล่ะ แหม่ใช้ได้เลยทีเดียว
ต้อนรับมื้อเช้าอีกวันด้วย “จี่หนัง” แจ่วบอง และ ผักลวก เข้ากันดี๊ดี
ขอตัวไปหาหมอฟันก่อนนะครับ ปวดถึงหูเลยวันนี้ สวัสดีครับ
โฆษณา