28 ก.ย. 2019 เวลา 23:30 • กีฬา
ยิงไม่เยอะ....แต่ยิงทุกนัด
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้รักษาประตูอย่าง ดีน เฮนเดอร์สัน ผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่ยืมมาจากแมนฯ ยูไนเต็ดด้วย อิอิ
1.หลังจากที่ได้พักมาเต็มๆในกลางสัปดาห์กับผู้เล่นชุดใหญ่ เมื่อคืนก็ได้กลับมาลงตัวจริงทั้ง 11 ตำแหน่งเหมือนเดิม โดยได้ตัวสำรองอย่างดิว๊อค โอริกี้ หายเจ็บกลับมารวมถึงเดยัน ลอฟเรน ที่กลับมามีชื่อบนม้านั่งสำรอง
ส่วนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด มาในแผน 3-5-2 ที่คุ้นเคย
2.รูปเกมในครึ่งแรกอึดอัดสุดๆ แมตช์ที่แล้วลิเวอร์พูลบุกไปนำเชลซีแบบง่ายๆ 2-0 ในครึ่งแรก แต่เมื่อมาเจอกับเชฟฟิลด์ดันกลายเป็นเกมที่เล่นยากกว่าเชลซี เนื่องจากผู้เล่นในตำแหน่งมิดฟิลด์ของเชฟฟิลด์ ลงไปตั้งรับทั้งหมดแล้วรอสวนกลับ นักเตะลิเวอร์พูลได้แต่ถ่ายบอลออกทางริมเส้นอย่างเดียว
3.สังเกตได้ว่าเกมตรงกลางมักจะเจาะไม่เข้า แต่ก็มีจังหวะจ่ายทะลุเรียดสวยๆของฟาบินโญ่ไปให้ไวจ์นัลดุมแถวๆหน้ากรอบเขตโทษแต่ก็ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเหมือนกัน
พอมีจังหวะจ่ายวิ่งทะลุสวยๆมาเน่ดันทำเสียของ แถมกว่าจะตัดบอลได้แต่ละจังหวะก็ยากเย็นเหลือเกิน พอสวนกลับก็ทำไม่ได้อีกต่างหาก
4.Two Dutch won the team!! ครึ่งหลังจุดเปลี่ยนอยู่ที่คล็อปป์ ถอดเฮนเดอร์สันออก แล้วส่ง ดิว๊อค โอริกี้ ลงมาเล่นริมเส้นฝั่งซ้าย แล้วเปลี่ยนเป็น 4-2-3-1 กลายเป็นฝั่งซ้ายดูอันตรายมากขึ้นกว่าเดิม
เฟอร์กิล ฟาน ไดจ์ค ที่ช่วยเกมรับไว้ไม่ให้เสียประตูอยู่หลายรอบ กลายเป็นคีย์แมนในแนวรับ ส่วนแนวรุกมาได้ประตูจากไวจ์นัลดุมที่ยิงไกลครึ่งแรกได้ห่วยแตกมากๆ ครั้งนี้ก็ไม่ได้ยิงดีเท่าไหร่ แต่ความแรงทำให้เฮนเดอร์สันซองแตกแบบช๊อคแฟนบอลเจ้าบ้าน
5.จริงๆแล้วนี่ไม่ใช่เกมที่ยากอะไรเลย เพียงแต่ว่าโอกาสจะแจ้งของลิเวอร์พูลดันเอาไปโยนทิ้งลงแม่น้ำซะหมด
ส่วนเชฟฟิลด์ ยูไนเต็ด ถือว่าพลาดเอง เพราะเขาจงใจตั้งรับมากเกินไป ถ่วงเวลามากเกินไป และหวังที่จะเอาแค่ผลเสมอมากเกินไป พอโดนนำมันเลยต้องกดดันตัวเองให้พยายามยิงตีเสมอ
สุดท้ายก็ช้าเกินไป เพราะตอนที่ยังมีเวลาดันเอาเวลาไปทิ้งกับการเดินเก็บบอลมาทุ่มซะหมด อิอิ
#ปลายสตั๊ดสีแดง
โฆษณา