3 ต.ค. 2019 เวลา 23:15 • ธุรกิจ
วันนี้จะมาโม้ให้ฟังครับ
ช่วงนี้ผมหาข้อมูลเกี่ยวกับการขายของ การทำดรอปชิพ การทำตลาดออนไลน์ แต่ไหนๆ ผมก็ได้หามาแล้วทั้งแบบฟรีและเสียเงิน
ตอนนี้หมดเงินค่าวิชาไปประมาณ 20,000 ++
เรียกกันได้ว่าเอาเงินเก็บก้อนสุดท้ายในชีวิตมาทำกันเลยทีเดียว
ตอนนี้ผมให้อยู่ที่ 60% ของการดำเนินการก่อนขายทั้งหมดนะครับ ก็ผมจะทำซีรีย์เพิ่มคือ "หาเงิน" กันนะครับ
ข้อมูลทั้งหมดขอบคุณ youtube และ google ทั้งหมดเลยนะครับ แต่หลายแหล่งมากๆ ผมก็ดูหลายที่ทั้งไทยและเทศ
โอเค วันนี้เริ่มต้นเนื่้อหาเบาๆ กันก่อนละกัน
ผมยังไม่ลืมซีรีย์เก่าๆ ที่ยังไม่จบนะครับ (ดองไว้เยอะมาก 55) อยากทำตรงนี้มากกว่า 555
ขอย้ำ ! ผมยังไม่ได้เห็นผลจริงจากบทความของซีรีย์นี้นะครับ เพราะกำลังเริ่มเหมือนกัน
วันนี้จะมาพูดเรื่องของ "โครงสร้าง หรือองค์ประกอบที่ควรมีในการขายของออนไลน์" กันนะครับ
อันนี้เป็นในส่วนของการ "ขายของ" ออนไลน์ทั่วไปนะครับ
โอเคคคค มาเริ่มกันดีกว่า
การขายของ
องค์ประกอบต่างๆ มีดังนี้
1. รูปภาพ - 30%
2. คอนเทนต์ (content) - 40%
3. โปรโมชั่นดึงดูด - 10%
4. การตอบแชท - 20%
อัตราที่เราจะขายของได้คือ = 100%
แต่ยังไม่พอครับ เราต้องเพิ่ม % ไปอีก คือการทวน (ตื้อ) อีกครับ
โดยการตื้อครั้งแรก +5%
ครั้งที่ 2 +5%
จนถึงครั้งที่ 10 +20%
จากที่กล่าวมาข้างต้น สรุปได้ว่า ถ่าย/หารูปดีๆ หาคอนเทนต์ที่ให้คนสนใจ และมีโปรโมชั่นที่น่าสนใจ และเน้นการตื้อหลังจากลูกค้าทักมาสอบถามแล้ว
ตั้งแต่เขาทักมาเลย จนจบการสนทนาแต่ยังปิดการขายไม่ได้ !!! ทักวนไปจนกว่าเขาจะยอมออเดอร์สินค้าเรา
ก็จากคนที่สอนนะครับ เขาบอกว่าประมาณครั้งที่ 8 9 10 ลูกค้าจะยอมซื้อ ถ้าไม่เพราะรำคาญ หรืออะไรก็ตามแต่ เราไม่สนใจ เพราะเราได้ออเดอร์แล้ว
ในส่วนนี้ ส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยนะครับ 5555 แต่ก็อาจจะปิดการขายได้จริงๆ ก็เป็นได้ เพราะผมก็เจอแบบนี้เยอะมาพอสมควร
แม้ว่าลูกค้าจะสนใจสินค้ามากแค่ไหน แต่ถ้าคุณไม่ได้เรื่องในการตอบแชท อดแน่นอน !
แล้วทำอย่างไรดีนะ ?
1. ตอบไว (ทันที)
2. เสนอโปรโมชั่นไว - โปรโมชั่นเด็ดๆ ที่คุณคิดว่าลูกค้าจะต้องยอมควักตังค์มาซื้อของ ของคุณ
3. มีบริการจัดส่งฟรีเก็บเงินปลายทาง - ตรงนี้สำคัญมาก ผมขอยืนยันด้วยตัวเอง เพราะว่าที่บ้านผมมีแนวโน้มที่จะสั่งกับร้านค้าที่มีบริการแบบนี้มากกว่าทั่วไปครับ
4. มีรีวิวร้านค้า - ตัวนี้หนักเลย ร้านใหม่ๆ จะหายากหน่อย ต้องยอมลดแลกแจกแถม เพื่อให้ลูกค้ายอมซื้อของ เหมือนเป็นตัวการันตีอ่ะครับ ว่าสินค้าร้านเราของตรงปก (ตรงกับรูปโฆษณา) และส่งของจริง
5. ต้องรู้ว่าลูกค้าจะเอากี่ชุดใน 15 นาที - คือประมาณว่าเราต้องปิดการขายให้ได้ ได้ออเดอร์แน่นอนกี่ชุดก็ว่าไป เพราะจะได้ไม่เสียเวลาไปตอบลูกค้าคนอื่น
*อย่าถามลูกค้าแบบปลายเปิด เช่น รับเลยไหม ? - ถ้าถามแบบนี้ลูกค้าส่วนใหญ่จะตอบว่า ยัง !
*และอย่าถามว่าเอากี่อันดี กี่ชุดดี เพราะลูกค้ายังสามารถปฎิเสธได้ ต้องถามว่าเอา 1 หรือ 2 ชิ้น/ชุด ดีครับ อันนี้เป็นจิตวิทยาทั่วไปนะครับ ขอเสริมเพราะเจอในหนังสือ + พวกขายตรงครับ
ผมไปเล่นเกม cash flow จากนั้นเขาก็โทรมาถามว่าเป็นไงบ้างปกติ แต่พอเราตอบเสร็จเขาก็พูดต่อทันทีว่า "โอเคน้า พี่ว่างวันพุธทุ่มนึง เจอกันที่เดิมนะ" ในใจผมแบบ WTF กูโดนแล้ว 555
นั่นแหละครับที่ผมอยากจะยกตัวอย่าง ว่าปิดช่องทางการปฏิเสธให้หมดครับ = ปิดการขายได้ 100%
เป็นไงบ้างครับสำหรับเนื้อหาในวันนี้ อันนี้แค่น้ำจิ้มนะครับ อิอิ คือผมก็ดูเยอะจนหายไปนานเลย หวังว่าจะยังมีคนอ่านนะ T^T
ยังไงก็ฝากกดไลค์บทความ กดติดตามผมเพื่อเป็กำลังใจได้นะครับ
ปล. ฝากกดไลค์เพจถ่ายรูปผมหน่อย ช่วงปริญญาแล้วยังไม่มีใครจ้างเลย T^T แง้้้้้ ไปกดไลค์ได้นะครับที่เพจ Tutarr Foto ได้นะครับ อิอิ
สำหรับวันนี้สวัสดีครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา