5 ต.ค. 2019 เวลา 23:20 • กีฬา
Last minute ...
1.การจัดแผนวันนี้ คล็อปป์ เปลี่ยนไปใช้ความดุดันจาก ลอฟเรน แทน โจ โกเมซ ในตำแหน่งเซ็นเตอร์ และใช้ มิลเนอร์ ลงแทน เฮนดอร์สัน ในตำแหน่งมิดฟิลด์
จะสังเกตเห็นได้ว่าสองคนที่ตกไปเป็นตัวสำรองคือสองคนที่เล่นพลาดเมื่อกลางสัปดาห์ทั้งคู่
สามประสานวันนี้ลงครบเหมือนเดิม แต่วันนี้มาแบบแปลกๆ ให้ มาเน่ ไปยืนทางขวา ฟีร์มีโน่ ยืนทางซ้ายและ ซาลาห์ ยืนหน้าเป้า
2.ครึ่งแรกลิเวอร์พูลเน้นโจมตีทางขวาเป็นหลัก โดยที่ใช้ เทรนท์ และ มาเน่ เข้าโจมตีทางฝั่ง ชิลเวล จนหัวหมุน ถือว่าคล็อปป์ ตัดสินใจได้ดีมากที่ขยับ มาเน่ มาฝั่งขวา เพราะกลายเป็นคีย์แมนสำคัญในการเล่นเกมรุก เก็บบอล และการลงไปช่วยเกมรับสกัดบอลจาก ชิลเวล อีกหลายต่อหลายครั้ง
3.ซาลาห์ ขยับลงมารับบอลต่ำ แต่ประสิทธิภาพการเล่นชิ่ง 1-2 กับเพื่อนยังไม่ชัวร์เหมือน ฟีร์มีโน่ ทำให้เกมรุกลิเวอร์พูลยังไม่ค่อยไหลลื่นเท่าที่ควร บวกกับ ฟีร์มีโน่ ที่พลาดโอกาสทำประตูได้จากการเปิดของเทรนท์แบบเหน่งๆ
ทำให้คล็อปป์ ตัดสินใจขยับ มาเน่ ไปเล่นฝั่งซ้ายเหมือนเดิม และใช้เวลาสั้นๆช่วยให้ลิเวอร์พูลขึ้นทำ 1-0 ในตำแหน่งเดิมของเจ้าตัว
เจม มิลเนอร์ ที่มักจะเสียบอลบ่อยในเกมนี้ กลายเป็นแอสซิสต์อย่างสวยงามในจังหวะขึ้นนำ
4.ครึ่งหลังเกมบุกของลิเวอร์พูลดีขึ้นตามคาด เพราะเลสเตอร์ ต้องรุกมากขึ้น ทำให้มีพื้นที่โจมตีมากขึ้นกว่าเดิม และมีโอกาสสวนกลับที่เกือบจะได้ประตูอีหลายครั้ง แต่ดันพลาดหมด
เมื่อทำประตูที่ 2 ไม่ได้ มันก็จะยิ่งทำให้เลสเตอร์มีแรงฮึกเหิมที่จะตีเสมอ แล้วสุดท้ายก็ตีเสมอได้จริงๆ
ยิงประตูเพิ่มไม่ได้ ก็เลยมาโดนตีเสมอจากโอกาสเพียงน้อยนิดของผู้มาเยือน ภาพเดิมๆเริ่มจะกลับมาตามหลอกหลอนอีกครั้ง
5.ในมือของผมเตรียมทำรูปภาพข้อความที่จะโพสว่าจะเสมออยู่แล้ว แต่ผมก็กลับมาเพิ่งสมาธิอยู่ที่หน้าจออีกครั้งในช่วงที่เหลืออีกไม่ถึงนาที ก็เป็นจังหวะที่ โอริกี้ จับบอลเตรียมจะง้างยิงด้วยซ้าย แต่สุดท้ายกลายเป็นโดนฉกบอลโดย อัลไบรจ์ตัน บอลไหลเข้าเขตโทษ...
ซาดิโอ มาเน่ พระเอกสุดหล่อของเกม ใช้ความรวดเร็วของตัวเองเข้าไปชิงจังหวะในเขตโทษก่อนที่จะโดนเตะไปที่ข้อเท้า
ปี๊ดดดดดด Penalty!!!!
จุดโทษในช่วงทดเจ็บนาทีสุดท้ายของเกม แล้วบังเอิญว่าคนที่สังหารจุดโทษที่ชัวร์ที่สุดดันอยู่ในสนามพอดิบพอดี
ทุกอย่างเป็นอันจบ อิอิ
โฆษณา