9 ต.ค. 2019 เวลา 14:28 • บันเทิง
Escape from Alcatraz (1979)
เรื่องจริงของนักโทษที่สามารถแหกคุกอัลคาทราซสำเร็จ
1
" คุกอัลคาทราซ "(Alcatraz)สถานที่ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคุกที่โหดที่สุดในประวัติศาสตร์อเมริกา
คุกแห่งนี้ใช้คุมขังนักโทษคดีอุกฉกรรจ์
นักโทษการเมือง รวมถึงใช้เป็นสถานที่ขังนักโทษที่มีความประพฤติไม่เหมาะสมจากเรื่อนจำอื่นๆทั่วอเมริกา
นอกจากกิตติศัพท์เรื่องความโหดแล้ว อัลคาทราซ ยังเป็นคุกที่มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงสุดยากแก่การหลบหนี
ตัวเรือนจำตั้งอยู่บนเกาะอัลคาทราซ ซึ่งเป็นเกาะโดดเดี่ยวกลางทะเล ล้อมรอบด้วยน้ำที่มีอุณหภูมิเยือกแข็งและคลื่นลมแรง
(อีกชื่อหนึ่งของเกาะนี้คือ เดอะร็อค เพราะสภาพพื้นผิวของเกาะเต็มไปด้วยหินเป็นส่วนใหญ่)
2
ตลอดระยะเวลา 29 ปี (ค.ศ.1934-1963)ที่อัลคาทราซถูกใช้คุมขังนักโทษ มีความพยายามแหกคุกแห่งนี้ 14 ครั้ง จากนักโทษ 36 คน และไม่เคยมีใครทำสำเร็จ
มีคนที่พยายามอยู่ถึง 2 ครั้ง แต่ก็ไม่สำเร็จ หลายคนถูกตามกลับมาได้ 6 คน ถูกยิงเสียชีวิตขณะหลบหนี
แต่ในประวัติศาสตร์ที่ถูกบันทึกนี้มีบางอย่างที่ยังเป็นข้อสงสัยอยู่จนถึงทุกวันนี้ คือ กรณีของนักโทษชาย 3 คน ที่ถูกรายงานว่าเสียชีวิตในทะเลแต่ก็ไม่มีใครพบศพของพวกเขา
ชื่อของนักโทษทั้งสามนั้นคือ แฟรงค์ มอร์ริส, คลาเรนซ์และจอห์น แองกลิน
1 มิถุนายน ปี 1962 ขณะที่เจ้าหน้าที่เรือนจำเดินตรวจความเรียบร้อยตามห้องขัง
เขาพบว่า แฟรงค์ มอร์รีส นักโทษหมายเลข 1441 กับเพื่อนของเขาคือนักโทษจอห์น แองกลิน และ แคลเรนซ์ แองกลินได้หายตัวไป
คุกอัลคาทราซนั้นอยู่ภายใต้การดูแลของเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการของ FBIกว่า 60 คน รวมถึงมีเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกองทัพช่วยดูแลอีกจำนวนหนึ่ง ดังนั้นการแหกคุกครั้งนี้ นับเป็นปฏิบัติการแหย่จมูกเสือ
ทั้งสามคนคงไม่รอดไปได้ง่ายๆ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องต่างร่วมกันค้นหาและไล่ล่าอย่างหนัก
แต่สุดท้ายก็ล้มเหลว ไม่มีใครพบร่องรอยพวกเขาเลย
1
อุปกรณ์ที่ใช้ในการหลบหนีในครั้งนี้มีเพียง ช้อน เหรียญ กระดาษและชุดกันฝนเท่านั้น
แฟรงค์ มอร์รีส : คราเลนซ์ และ จอห์น แองกลิน
แฟรงค์ มอร์รีสและเพื่อนทั้งสองหนีไปได้อย่างไร ?
นี่คือแผนการณ์ของพวกเขา...
พวกเขาพบว่าผนังคอนกรีตบริเวณขอบช่องลมใต้อ่างล้างหน้าห้องขังนั้นบางกว่าส่วนอื่นๆ
จึงวางแผนที่จะเจาะผนังส่วนนี้เพื่อใช้เป็นทางหลบหนี
ทั้งสามคนรวบรวมอุปกรณ์ใกล้ตัวที่หาได้ง่ายในเรือนจำ อย่าง มอเตอร์เครื่องดูดฝุ่น ช้อน และเหรียญโลหะ นำมาดัดแปลงเป็นสว่านเพื่อใช้เจาะผนัง
ช้อนโลหะช่วยนำร่องในการขูดคอนกรีตรอบท่อระบายอากาศ จากนั้นเจาะช่องผนังด้วยสว่านทำมือ
ในช่วงนั้นเรือนจำอัลคาทราซได้นำดนตรีมาช่วยผ่อนคลายความเครียดให้กับผู้ต้องขัง พวกเขาจึงใช้ชั่วโมงดนตรีในการปฏิบัติการ เสียงเจาะผนังถูกกลบด้วยเสียงดนตรี
การเจาะผนังเป็นไปอย่างช้าๆ และใช้เวลาอยู่นานพอสมควร เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจในแต่ละวัน พวกเขาก็ใช้กระดาษแข็งปิดรอยที่กำแพงไว้
1
ผ่านไป 8 เดือน...ในที่สุดความพยายามก็สำเร็จ
รูที่เจาะไว้ใหญ่พอที่จะลอดออกไปได้แล้ว
พร้อมเริ่มภารกิจ
พวกเขาสังเกตเวลาเดินตรวจของผู้คุมเพื่อหาเวลาที่เหมาะสมในการหลบหนี กระดาษทิชชู่กับเศษผมที่เก็บจากห้องตัดผมถูกนำมาทำเป็นเปเปอร์มาเช่หัวคนเพื่อซุกไว้ใต้ผ้าห่มเพื่อหลอกผู้คุมว่ามีคนนอนอยู่
ภาพจากแฟ้มคดีของ FBI
เมื่อถึงเวลา...พวกเขาค่อยๆแทรกตัวผ่านช่องที่เจาะไว้และปีนขึ้นไปจนถึงช่องลมบนเพดานและเมื่อถึงหลังคาทั้งสามคนค่อยๆเดินหลบไฟสปอร์ตไลท์จนไปถึงรั้วไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งเป็นจุดที่ไฟสปอร์ตไลท์ส่องไปไม่ถึง
ทั้งสามปีนลงจากอาคารออกไปทางรั้วไฟฟ้า
และทำการสูบลมจากเครื่องสูบลมทำมือที่สร้างขึ้นมาเพื่อสูบลมเข้าไปในเสื้อกันฝนยางเพื่อสร้างเป็นแพสำหรับออกทะเล
1
พวกเขาออกสู่อ่าวซานฟรานซิสโกได้สำเร็จ
แต่ไม่มีใครรู้ว่าพวกเขาสามารถฝ่าคลื่นและกระแสน้ำเย็นอันเชี่ยวกราดไปได้หรือไม่ ?
1
แฟรงค์ มอริส และเพื่อนของเขาทั้งสองคนจะรอดหรือตายไปกับกระแสน้ำในอ่าวซานฟรานซิสโก
เป็นปริศนาที่ยังไม่ได้รับคำตอบ...
มีข้อสันนิษฐานแตกต่างกันไปในแต่ละสมมติฐาน
แต่ไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าความจริงเป็นอย่างไร ?
ตำนานการแหกคุกครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมาก
มีการรวบรวมเหตุการณ์ออกมาเป็นหนังสือและสารคดี
รวมถึงมีการนำเรื่องราวมาสร้างเป็นภาพยนตร์ชื่อ
" Escape from Alcatraz " (1979)
กำกับการแสดงโดยดอนซีเกล และได้นักแสดงมากฝีมืออย่าง คลินต์ อีสต์วู้ด มารับบทเป็น แฟรงค์ มอร์ริส
หากสนใจหนังเรื่องนี้สามารถหารับชมได้จาก netflix
ภาพจากหนังเรื่อง Escape from Alcatraz (1979)
โฆษณา