12 ต.ค. 2019 เวลา 07:33 • ประวัติศาสตร์
บันทึกความทรงจำวันแผ่นดินร้องไห้..13 ตุลาคม 2559 ณ รพ.ศิริราช
ตึกเฉลิมพระเกียรติ ถ่าย ณ เวลา 15.50 น. วันที่ 13 ตุลาคม 2559
ตุลาคม 2559 เป็นช่วงเวลาข้าพเจ้า ไปฝึกงาน elective ในปีสุดท้ายของการฝึกอบรมแพทย์สาขาประสาทวิทยา ณ โรงพยาบาลศิริราช
ภาพที่เห็นเป็นประจำแต่วันแรกเมื่อไปปฎิบัติงาน คือ ประชาชนทุกเพศวัย มาชุมนุมกันบริเวณหน้าลานสมเด็จพระราชบิดา ตึก 100 ปีศิริราช บ้างนั่งสมาธิ บ้างนั่งคุยกัน มีภาพพระบรมฉายาลักษณ์ขนาดเล็กใหญ่ในมือ
อาคารตึกอัษฎางค์ที่ข้าพเจ้าขึ้นไปราวน์ เพื่อฝึกงาน สามารถมองผ่านหน้าต่างมายังตึกเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งในหลวง ร.9 ของเราประทับรักษาพระองค์อยู่ ได้ตลอดเวลา
.. ตึกตระหง่าน บนพื้นหลังฟ้าสีชมพูในยามเช้าตรู่และยามเย็น สร้างความอุ่นใจลึกๆ ที่ได้มาอยู่ใกล้กับพระองค์ทุกครั้งที่เดินผ่านไปกลับหอที่พัก
เย็นวันที่ 12 ตุลาคม มีการเตือนว่าจะมีการปิดถนนหน้าโรงพยาบาลศิริราช เพราะจะมีการเสด็จของพระบรมวงศานุวงศ์ ทำให้ข้าพเจ้าอดคิดสังหรณ์ใจอะไรบางอย่างไม่ได้
บ่ายแก่ๆวันที่ 13 ตุลาคม ขณะข้าพเจ้าฝึกอ่านคลื่นไฟฟ้าสมองกับเพื่อนอีก 2-3 คน ก็มีคนมากระซิบให้ทราบว่า 'พระองค์ท่านจากไปแล้ว' ....ตอนนั้นข้าพเจ้ารู้สึก ชา ไม่มีคำพูด ไม่มีน้ำตา รู้อย่างเดียวว่าควรหยุดฝึกอ่านแล้วกลับที่พัก
ขณะเดินผ่านตึกเฉลิมพระเกียรติ ข้าพเจ้าได้ยินเสียงร้องไห้ที่ดังมาจากลานหน้าอนุสาวรีย์พระราชบิดา..ได้ยินเรื่อยไปจนถึงตึกอัษฎางค์ที่คงมีผู้ป่วยหลายคนบนนั้นร่วมรับรู้ถึงความสูญเสียไปด้วย
...เมื่อข้าพเจ้ากลับไปถึงหอพัก น้ำตาก็ไหลออกมา...
วันตักบาตรครบ 7 วันสวรรณคต ขณะเพลงสรรเสริญพระบารมีดังขึ้น มีเสียงสะอื้นปนเบาๆ
ถาพพระบรมฉายาลักษณ์บนเหรียญบาท ด้านหลังเป็นเรือสุพรรณหงส์ เงินบาทแรกที่รู้จัก
ภาพพระบรมฉายาลักษณ์กลางลวดลายกนกสีแดงราคาสองบาท แสตมป์ดวงแรกที่ตัดจากจดหมายมาลอกด้วยน้ำ เพื่อเก็บสะสมตอนอยู่ ประถม 2
ภาพปฎิทินพระองค์ท่านทรงงานมีพระเสโทไหลติดฝาผนังตอนประถม
ภาพหลากกรณียกิจของพระองค์ที่นำมาร้อยเรียงเป็นภาพครอสติส ตอนเข้าโรงหนังไปดู กระโปรงบานขาสั้น ตอนมัธยมต้น
ภาพพระองค์เสด็จพระราชดำเนินพร้อมกับสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถในจอโทรทัศน์
รูปที่มีทุกบ้าน ทุกหนแห่ง วันคืนแห่งความอบอุ่นและร่มเย็น
กาลเวลาได้เปลี่ยนวิถีชีวิตข้าพเจ้า
ข้าพเจ้าใช้ e payment แทนการจ่ายเงินสด
ข้าพเจ้าเลิกสะสมแสตมป์แล้ว เพราะไม่มีเวลา
ข้าพเจ้าไม่ใช้ปฎิทินตั้งโต๊ะ เพราะดูในมือถือแทน
ข้าพเจ้าไม่ได้เข้าโรงหนัง เพราะหันมาดู YouTube
ข้าพเจ้าไม่ได้เปิดโทรทัศน์ เพราะติดตามข่าว online
แต่สิ่งเหล่านั้นก็ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าตระหนักถึง "ชีวิตที่ไม่เหมือนเดิม"
จนวันที่ 13 ตุลาคม 2559
ขณะเขียนบทความนี้ก็ได้สัมผัสอารมณ์ "Greif" ของตนเองไปด้วย การอยู่กับปัจจุบันไม่ได้แปลว่าตัดจากความรู้สึกสูญเสีย..แต่นำเอาความรู้สึกสูญเสียนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ชีวิตก้าวต่อไป ดัง Nora MclNelny กล่าว
We don't "move on" from grief.
We move forward with it
จากกล้าไม้ที่เติบโตใต้ร่มพระบารมี
ต่อไปนี้จะต้องเติบใหญ่เป็นไม้มีค่าของแผ่นดิน
โฆษณา