14 ต.ค. 2019 เวลา 15:47 • นิยาย เรื่องสั้น
ป้าดวลใจดี
ป้าดวลเป็นคนมีฐานะยากจนแต่สิ่งที่แกทำอยู่ประจำไม่ขาดนั่นคือการไปส่งจังหัน(ภัตตาหารเช้าพระเณร)และเพลอยู่เป็นนิจปฏิบัติเช่นนี้มานานหลายปี
ภาพ:pinterest
วันนี้ก็เช่นกันเป็นวันพระใหญ่ตรงกับวันออกพรรษา
ขึ้น 15 ค่ำ ชาวบ้านต่างจัดเตรียมข้าวปลาอาหารมาถวายพระเณรที่วัดทำเอาศาลาหลังใหญ่กลายเป็นเล็กแคบลงไปถนัดตา
โดยปกติธรรมเนียมปฏิบัติของชาวอีสานบางพื้นที่เมื่อพระฉันภัตตาหารเสร็จ เหล่าบรรดาญาติโยมที่ไม่มีกิจธุระปะปังที่ไหนก็จะชวนกันมานั่งล้อมวงกินข้าวร่วมกันฉันญาติมิตร
หรือที่เราเรียกกันติดปากว่ารับเศษพระเพราะ
หลังจากพระเณรฉันเสร็จจะมีข้าวปลาอาหารหวานคาวเหลือเยอะแยะมากมายหลายหลากเมนูให้ได้เลือกชิมด้วยทุกอย่างล้วนแล้วแต่เป็นอาหารชั้นดีที่ชาวบ้านคัดสรรมาถวายพระ
ระหว่างกินข้าวปลา
ทั้งมัคคทายก วัดและบรรดาพ่อแก่แม่เฒ่าผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองก็ได้ถือโอกาสนี้พูดจาสัพเพเหระพบปะสังสรรค์ปรึกษาหารือกิจการงานทั้งเรื่องราวเกี่ยวกับวัดบ้านโรงเรียนไปด้วยในตัว
บรรยากาศคล้ายๆห้องประชุมย่อยๆถือเป็นวิถีชุมชนคนท้องถิ่นที่ยังคงอัตลักณ์
ป้าดวลก็เช่นกันแกไม่ได้เร่งรีบอะไรก็เลยถือโอกาสอยู่ทานข้าวกับเพื่อนและคนอื่นๆ เป็นปกติดังเช่นเคยปฏิบัติมา
ส่วนผู้ชายกินอิ่มเสร็จสรรพก้มลงกราบพระขอ ตัวกลับบ้านไปก่อน ทิ้งภาระหนักอึ้งคือจานชามกองโตไว้ให้แม่ออก(สีกา) ทำหน้าที่ล้างเช็ดขัดทำความสะอาดจัดเก็บให้เรียบร้อยก่อนกลับ
ในแต่ละวันเอาเข้าจริงก็จะเหลือแม่ออกไม่กี่คนที่อยู่ช่วยล้างจานชาม บางคนอายุมาก สุขภาพไม่ดี
ไม่ไหวก็ขอตัวกลับบ้านไปก่อน
บางคนก็ออกป่องขาด(หาเหตุอ้างได้ต่างๆนานา
ไม่ได้อยู่ล้างจานชามช่วย)
จะมีเหลือก็แค่ไม่กี่คนป้าดวลก็เป็นหนึ่งในนั้น
ไม่ได้ขันอาสาแต่ว่าเป็นหน้าที่ที่ต้องทำคืออยู่ล้างจานชามจนเสร็จสรรพ
หรืออาจด้วยความเชื่อที่หลวงพ่อเคยเทศนาบ่อยๆ
ว่าอานิสงส์ของการล้างจานชามให้สะอาด
ชาติหน้าเกิดมาหน้าตาจะสะสวยเหมือนเทพธิดา
แกจึงยังไม่ยอมกลับเผื่อชาติหน้ามีจริงหรืออาจเป็นเพราะเหตุผลอื่นก็ได้ใครจะไปรู้นอกจาก
ตัวป้าดวลเอง
ยังไม่วายมีเสียงค่อนแคะลับหลังป้าอยู่บ่อยครั้งว่า
มันก็อยู่ได้สิเพราะที่วัดมีข้าวปลาอาหารขะต้มขนมเหลือเยอะแยะในแต่ละวันมันกินเสร็จก็ขนกลับบ้านเอาไปให้ผัวกับลูกมันกินต่อนั่นแหละไม่ใช่ใจบุญ
สุนทานอะไรหรอก!
แต่ป้าดวลก็ทำตัวปกติหาได้สนใจคำครหานินทาของคนเหล่านั้นไม่
วันนี้ก็เช่นกันหลังจากกินข้าวเสร็จสรรพจึงจัดการเก็บรวบรวมจานชามมาล้างทำความสะอาดเหมือนเช่นเคยปฏิบัติเช่นทุกวัน
ป้าดวลได้ทำการคัดแยกเศษอาหารที่พอ
จะกินได้ใส่ปิ่นโตและถุงพลาสติกแยกเอาไว้ต่างหาก
ส่วนเศษที่เหลือที่กินไม่ได้ เช่น เศษผัก กระดูก
น้ำแกงก็คัดแยกใส่ถังสีไว้ต่างหาก
หลังจากนั้นป้าดวลจะยกขึ้นรถซาเล้งคู่ชีพขับกลับบ้าน
ระหว่างที่ขับรถกลับบ้านป้าดวลจอดแวะข้างทาง
บริเวณป่าละเมาะท้ายวัดดับเครื่องยนต์พร้อมร้องเรียก แอะ แอะ แอะ! ไม่นานนักหลังจากนั้นเหล่าบรรดาเจ้าตูบทั้งหลายนับได้ราวสิบกว่าตัวต่างก็พร้อมใจกันวิ่งกรูออกมาพร้อมกระดิกหางเลียแข้งขาคลอเคลียป้าดวลอย่างดีใจ
หลังจากนั้นป้าดวลก็ทำอย่างที่เคยทำเป็นประจำทุกวันคือวางถาดพาข้าว(คล้ายๆ กะละมังปากกว้าง)ลงพื้นแล้วค่อยๆเทเศษอาหารที่คัดแยกไว้ให้เจ้าตูบทั้งหลายได้อิ่มท้อง มันก็แปลกอยู่อย่างที่พวกมันกินกันอย่างมีระเบียบไม่แย่งกัดกัน
ป้าดวลมองพวกมันอย่างเอ็นดูแล้วยิ้มน้อยๆ น้ำตาคลอพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครืออย่างคนที่ต้องสูญเสียของรักว่า
"กินซะวันนี้แล้วซินะที่พวกเขาจะมาขนย้ายพวกแกเอาไปอยู่ที่อื่น นี่คงเป็นวันสุดท้ายแล้วที่ข้าจะได้เอาข้าวมาให้พวกแกกินไปอยู่กับเขา
ดีดีละอย่าดื้ออย่าซน
ชาติหน้าถ้าเลือกได้อย่าเกิดมาเป็นหมา
มันลำบากรู้ไหม"
พวกมันยังตั้งหน้ากินต่อไปโดยไม่สนใจคำพูด
ของป้าดวลแม้แต่น้อย
เก่าไปใหม่มาที่ป้าดวลต้องเลี้ยงดูเจ้าตูบพวกนี้ด้วยความสงสารจากการที่คนเขาเอามาโผด(ทิ้ง)ไว้ตั้งแต่ปลายปี
พร้อมกับใช้มือเช็ดน้ำตาที่ไหลอาบสองแก้มออก
"หวังว่าพวกแกคงได้ไปอยู่ที่สบายกว่านี้นะ"...
1 ปีผ่านไป
"แอ๊ะ! แอ๊ะ! แอ๊ะ!"
ป้าดวลอาจเป็นแค่ชื่อสมมติในโลกวรรณกรรม
แต่คนที่ใจดีต้องรับภาระเลี้ยงหมาแมวแทนเจ้าของ
อย่างป้าดวลในสังคมไทยผมเชื่อว่าน่าจะมีอยู่มาก
และ คนที่เอาหมาแมวมาทิ้งให้คนอย่างป้าดวลต้องเลี้ยงดูก็คงมีไม่น้อยเช่นกัน
ไม่เช่นนั้นหมาแมวจรจัดทั้งหลายเขาจะมาจากไหน
ใช่ไหมครับ
จากการสำรวจข้อมูลจำนวนประชากรสุนัขและแมว
ของสำนักงานปศุสัตว์ ปี 2559 พบว่า ประเทศไทยมีสุนัข จำนวน 7,380,810 ตัว และแมว 3,035,645 ตัว หรือรวม 10,395,961 ตัว
แต่ที่น่าตกใจก็คือในจำนวนนี้เป็นสุนัขที่ไม่มีเจ้าของ ถึง 785,446 ตัว และ
แมวไม่มีเจ้าของ จำนวน 474,142 ตัว
รวม 1,232,588 ตัว
ในส่วนของแมวไม่มีเจ้าของความเป็นจริงผมคิดว่าน่าจะมีจำนวนมากกว่านี้ จากการลงพื้นที่สำรวจร่วมกับทีมอาสาปศุสัตว์ทำให้เราทราบว่าแมวจรจัดส่วนมากจะออกหากินในเวลากลางคืนซึ่งทำให้ยากแก่การตรวจนับ
ต่อกันที่สถานการณ์โรคพิษสุนัขบ้า
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า
ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 10 กันยายน 2561 มีรายงานผู้เสียชีวิตด้วยโรคพิษสุนัขบ้าแล้ว 16 ราย จาก 14 จังหวัด เป็นสัตว์นำโรคจากสุนัข 15 ราย และแมว 1 ราย
ซึ่งเป็นสัตว์มีเจ้าของถึง 60% โดยผู้เสียชีวิตทั้งหมดไม่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า และมากกว่า 90% ไม่ได้ไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษา นอกจากนี้ ยังพบว่าผู้เสียชีวิตกว่าครึ่งถูกสุนัขที่ตนเองเลี้ยง
กัด ข่วน และคิดว่าไม่เป็นไรทำให้ไม่เข้ารับ
การรักษา
1
ตัวเลขจำนวนผู้เสียชีวิตอาจจะไม่มากหากเปรียบเทียบกับการเสียชีวิตของคนไทยด้วยโรคอื่นๆ
แต่ทุกชีวิตล้วนมีค่าเสมอใช่ไหมครับ?
จะดีกว่าไหมหากเราคนไทยทุกคนมีส่วนร่วมง่ายๆ
ในการช่วยกันควบคุมและป้องกันโรคพิษสุนัขบ้า
ด้วยการปฏิบัติดังต่อไปนี้
1).นำหมาแมวไปฉีดวัคซีนปีละ 1 ครั้ง
ถ้าเป็นหมาแมวอายุ 3 เดือน ฉีด 2 ครั้ง
2).นำหมาแมวไปทำหมันหากไม่ต้องการให้เขา
ตั้งท้องไม่ว่าจะด้วยเหตุผลใดก็ตาม
3).คิดให้ดีก่อนจะเอาเขามาเลี้ยงเพราะการเลี้ยงหมาแมวอาจมีภาระค่าใช้จ่ายมาก
ซึ่งบ่อยครั้งที่หลายคนจำต้องเอาหมาแมวไปปล่อยทิ้งตามสถานที่ต่างๆ ด้วยความจำเป็นดังปรากฎตามที่เป็นข่าวซึ่งเป็นการสร้างภาระให้สังคม
ช่วยกันคนละไม้คนละมือนะครับเพื่อสุขภาพอนามัยและความปลอดภัยของทุกคน
ถือซะว่าประเทศไทยก็คือบ้านหลังใหญ่ของพวกเรา ถ้าเราไม่ช่วยกันดูแลรักษาบ้านเมืองแล้วจะให้ใครที่ไหนมาช่วยดูแลใช่ไหมล่ะครับ?
หมายเหตุ
เมื่อมีการตราพระราชบัญญัติป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557
โดยประกาศใช้เมื่อวันที่ 26 ธ.ค.2557
ทำให้จำนวนสุนัขและแมวจรจัดเพิ่มขึ้นมากอย่างมีนัยสำคัญ
ก่อนจบผมอยากขอฝากถึงผู้ที่คิดจะเลี้ยงน้องหมาแมวไว้เป็นข้อเตือนใจสักนิด
อายุของสุนัขอยู่ที่10-13 ปี
แมว 2-16 ปี ก็ใกล้เคียงกัน
ซึ่งโดยเฉลี่ยอยู่ราวๆ10 ปี
สมมติเราจ่ายค่าอาหารและอื่นๆเดือนละ 1,000 บาท
1,000×12=12,000บาท/ปี×10ปี=120,000บาท
ต่อ1ตัว
ฉนั้นท่านจะมีภาระค่าใช้จ่ายอย่างน้อยในการ
เลี้ยงสุนัข แมวต่อ 1 ตัวราว120,000 บาท
ปัจจุบันท่านใดเลี้ยงบ้าง เอาข้อมูล มาแชร์ได้นะครับ
ภาพ:pixabay
คุณน้ำฝน ฮิลเกอร์ส เจ้าหน้าที่มูลนิธิสันติสุขเพื่อน้องหมาและแมว(ประชาสังคม)ได้กล่าวไว้ว่า
"ไม่รักก็อย่าเลี้ยง
ไม่พร้อมก็อย่าเริ่ม
ไม่รับผิดชอบก็อย่าทำ
เพราะมันจะเป็นปัญหาสังคม"
ผิดพลาดประการใดต้องกราบขออภัยคนรักหมาแมวด้วยนะครับ
เกษตรเอส'society
"อยากเห็นคนในสังคมนี้ 
มีรอยยิ้มและความสุข"
ติดตามอ่านบทความได้ที่
ขอบคุณแหล่งข้อมูล

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา