13 ต.ค. 2019 เวลา 14:03 • ความคิดเห็น
เป็นเจ็ดวันที่....
เรื่องราวที่ผมเขียนขึ้นหลังเหตุการณ์มหาวิปโยคของคนไทยทั้งชาติ เรื่องที่ผมเขียนไว้หลังจากตั้งสติได้ หลังจากร้องไห้ทุกวันอยู่เป็นสัปดาห์ เขียนอะไรไม่ได้เลยแม้เพียงบรรทัด พอเริ่มตั้งสติได้ จึงอยากบันทึกความรู้สึกตอนนั้นไว้ ซึ่งนี่คือบันทึกในตอนนั้น
นี่ก็เจ็ดวันมาแล้วครับ ตั้งแต่วันที่พ่อไม่อยู่ ผมกับพี่น้องอีกหลายคนยังคงร้องไห้อยู่ทุกวัน ร้องทุกครั้งที่เราได้ยินคนพูดถึงพ่อ ร้องทุกครั้งที่มีคนเล่าเรื่องราวของพ่อ ร้องทุกครั้งที่เห็นภาพของพ่อในอดีต ร้องทุกครั้งที่มีคนบอกว่า "พ่อจากไปแล้ว"
ทุกครั้งที่พี่ๆ น้องๆ อีกหลายคนพูดถึงพ่อ ผมก็อดไม่ได้ที่จะมีน้ำตา ทั้งๆที่พ่อก็เคยบอกพวกเราไว้ว่าอย่าร้องไห้ เพราะมันเป็นเรื่องธรรมดาของโลก แต่ผมก็ยังทำใจไม่ได้เสียที เพราะความทรงจำของผมและพี่น้องเราทุกคนมีต่อพ่อนั้น มันช่างมากมาย งดงาม และยิ่งใหญ่เกินกว่าจะหาตัวหนังสือกี่หมื่นกี่ล้านตัวมาบรรยายมันได้ทั้งหมด ผมจึงได้แต่ร้องไห้ที่ "บ้านเราต้องสูญเสียพ่อไป"
จริงอย่างที่พี่บางคนบอกไว้ เราสูญเสียมากเกินไปจริงๆในครั้งนี้
ตั้งแต่ผมยังเด็ก ผมเห็นภาพพ่อทำงานอย่างหนักมาโดยตลอด พ่อเดินทางไปทุกที่ ทั้งบนภูเขา ในแม่น้ำลำธาร ในป่าลึก ในมือของพ่อมีแผนที่ มีกล้องคล้องคอไว้เพื่อถ่ายภาพ ซึ่งก็เอาไว้เพื่อกลับมาทำงานต่อที่บ้าน บางทีก็มีวิทยุสื่อสาร เพราะบางครั้งมีลูกๆ บางคนที่เดือดร้อน เจ็บป่วยหนัก พ่อจะได้เรียกให้คนมาช่วยได้ทันท่วงที พ่อไปดูแลพี่ๆน้องๆของเราทุกคนในทุกที่และทุกโอกาสที่มี ทั้งๆที่พ่อก็มีงานที่ต้องทำมากมายอยู่แล้ว จนพี่น้องเราหลายคนสงสัยเหลือเกินว่าพ่อไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร
ผมยังโชคดีกว่าน้องๆ อีกหลายคน ที่ได้เกิดมาทันในช่วงที่พ่อยังทำงานอย่างหนัก จึงไม่แปลกใจเลยที่พี่น้องทุกคนรักพ่อมากๆ พี่บางคนเคยลำบากขนาดน้ำกินสะอาดยังไม่ค่อยมีให้ดื่มกิน พ่อก็เข้าไปดูแลจนทุกคนมีน้ำใช้น้ำกินอย่างเพียงพอ บางคนตกงานไม่มีงานทำ พ่อยังปรึกษากับแม่แล้วให้แม่ช่วยสอนเย็บปักถักร้อย สอนการฝีมืออื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่แม่ถนัด จนพี่ๆ น้องๆ หลายคนมีอาชีพเป็นหลักแหล่ง มีรายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัวได้
แล้วผ้าที่แม่ใส่ก็เป็นฝีมือพี่ๆ ที่ทอให้ มันงดงามทั้งตัวผ้าเอง และงดงามในความทรงจำของเราเหลือเกิน
ผมยังเสียดายที่น้องบางคนไม่ได้เห็นพ่อทำงานเหมือนในอดีตแล้ว บางคนโตมาตอนที่พ่อเริ่มไม่ค่อยสบายและต้องพักรักษาตัวบ่อยขึ้น แต่ผมได้ยินจากพี่ๆ น้องๆ ที่ดูแลพ่ออยู่ใกล้ๆ ว่า พ่อก็ยังทำงานอยู่ดีแม้ว่าพ่อจะต้องพักรักษาตัวก็ตาม
แล้วจะไม่ให้ผมร้องไห้ได้อย่างไร
พ่อครับ พ่อเคยสอนให้เราพี่น้องรักกันเสมอๆตั้งแต่เรายังเด็กจนโต แต่บ้านที่มีสมาชิกมากมาย มีพี่น้องหลายคน การทะเลาะกันบ้างก็เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ พ่อคงเสียใจมากๆ ที่เห็นเราพี่น้องทะเลาะกันเองจนบ้านของเราไม่สงบเหมือนอย่างที่เคย แถมทุกคนที่ทะเลาะกันก็ยังอ้างว่ารักพ่อกันทั้งนั้น
"ทั้งๆ ที่พ่อขอให้เรารักและสามัคคีกันแท้ๆ"
ผมขอโทษที่ผมเองก็หลงโกรธพี่ๆ บางคนไปเหมือนกัน แต่ผมสัญญากับพ่อนะครับว่า จะรักพี่ๆน้องๆให้มากขึ้น เข้าใจกันให้มากขึ้น และทำให้บ้านของเรากลับมาอบอุ่นเหมือนเดิม เหมือนสมัยที่ผมยังเล็กๆ
ผมกับพี่น้องหลายคนยังเสียใจที่พ่อจากเราไปแล้ว แต่พ่อรู้มั้ยครับ ว่าตอนนี้พี่น้องเราหลายคนเปลี่ยนความโศกเศร้าให้เป็นกำลังใจ บางคนลุกขึ้นมาทำสิ่งๆ ดีให้พี่น้องคนอื่นๆ พี่บางคนเดินทางมาไกลหอบเอายาดมยาหอมมาแจกกัน บางคนมาช่วยดูแลพี่น้องคอยซับน้ำตาให้คนที่ยังทำใจไม่ได้ พ่อสอนพวกเรามาดีครับ พวกเราจึงรักกันและไม่ทอดทิ้งกัน แม้ในวันที่พ่อไม่อยู่ เราอยากให้พ่อรู้ว่าพ่อดูแลเรามามากมายเหลือเกิน ต่อไปนี้เราจะดูแลกันและกัน แม้อาจจะไม่ดีเหมือนที่พ่อทำให้เรา แต่เราจะพยายาม...ทำในสิ่งที่พ่อเคยสอน และทำเป็นตัวอย่างมาแล้วตลอดเวลาที่พ่ออยู่กับเรา
วันนี้ผมยังร้องไห้ แต่ก็น้อยลงกว่าเมื่อหลายวันก่อนมากแล้วครับ พี่ๆ น้องๆ หลายคนเริ่มเดินต่อไป ทำหน้าที่ดูแลกันและกันอย่างที่ควร เพราะเราเห็นแล้วว่า
"ทุกเวลาอันมีค่าของพ่อ คือการทำทุกอย่างที่พ่อทำได้ เพื่อให้ลูกๆ ของพ่อ ได้กินอิ่ม นอนหลับ และมีรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขกันทุก ๆ คน"
ผมคงไม่สามารถบอกพ่อได้ว่า ผมและพี่น้องเสียใจและเสียน้ำตาไปมากมายขนาดไหนในช่วงเจ็ดวันที่ผ่านมา บ้านเราคงไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว แต่ผมเชื่ออย่างไม่ต้องสงสัยเลยว่า สิ่งที่พ่อทุ่มเททำเพื่อพวกเรามาตลอด จะคงอยู่ตลอดไปและจะยังคงอยู่ในใจของเราทุกคนตลอดกาล
ต่อไปนี่เวลากินปลานิลทอดก็คงนึกถึงพ่อ เวลาตักข้าวก็คงคิดถึงพ่อ เวลานั่งดูทีวีเห็นภาพของพ่อก็คงอาจจะร้องไห้คิดถึงพ่อ ให้เราร้องไห้นะครับ เราก็แค่คิดถึงพ่อเราจึงร้อง เราร้องเพราะเราภูมิใจเหลือเกินที่ได้เกิดเป็นลูกของพ่อ เราร้องกันจนเพื่อนบ้านสงสัยว่าเราเป็นอะไรกัน เพื่อนบ้านคงไม่เข้าใจหรอกครับ ว่าบ้านเราโชคดีแค่ไหนที่มีพ่อเป็นหัวหน้าครอบครัว บ้านเราจึงไม่เหมือนบ้านอื่น บ้านเราจึงสงบร่มเย็นและอบอุ่นเกินกว่าเพื่อนบ้านจากอีกฝากฝั่งของหมู่บ้านจะเข้าใจได้
เพราะเรามีพ่อที่แสนพิเศษนั่นเอง
พ่อครับ พักผ่อนนะครับ พ่อเหนื่อยมามากแล้วจริงๆ พี่ๆ บางคนยังร้องไห้ขอให้พ่อปกป้องคุ้มครองบ้านเรา แต่ผมคิดว่าสิ่งที่พ่อทำไว้ให้เรามาตลอดเจ็ดสิบปีนี้ แค่นี้ก็ปกป้องคุ้มครองครอบครัวของเราจากภัยนานับประการรอบบ้านได้เป็นอย่างดีแล้ว พ่อไม่ต้องห่วงอะไรแล้วนะครับ พวกเราพี่น้องทุกคนจะต้องดูแลบ้านและคอบครัวของเรากันเองต่อไป อย่างที่พ่อเคยทำมาตลอด
ผมคงตอบแทนสิ่งที่พ่อทำให้พวกเราได้ไม่มีวันหมด แต่ผมจะพยายามทำในสิ่งที่ผมทำได้ เพื่อให้พี่น้องเรามีความสุขและมีรอยยิ้มกลับมาเหมือนเดิมครับ ผมจะพยายาม
รักพ่อนะครับ...ผมขอโทษที่ตอนนี้ผมก็ยังร้องไห้อยู่ดี

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา