ลักษณะของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์สามารถแบ่งได้ตามการดำเนินงาน ดังนี้
1. Income Producing Properties หมายถึง Properties ที่ได้มาเพื่อการลงทุน โดยหวังว่าจะมีรายได้เกิดขึ้นจากการลงทุนใน Properties นั้นๆ
ลักษณะการลงทุนเช่นนี้ ทรัพย์สินที่ลงทุนไปจะยังคงอยู่กับเจ้าของ ซึ่งจะทำให้เกิด Terminal value และเป็นการป้องกัน Inflation ได้ดี อาทิเช่น
• การพัฒนา หรือซื้อ Office Building
• การเช่า หรือเซ้ง Shopping Center
• อพาร์ทเมนท์ให้เช่า หรือ Service Apartment
• โรงแรม หรือ Resort
2. Properties Development for sale หมายถึง การให้ได้มาซึ่งที่ดิน หรือสิทธิ แล้วพัฒนาเพื่อขายทรัพย์สิน หรือสิทธินั้นหมดไป เช่น การทำบ้านจัดสรร คอนโดมิเนียมพักอาศัย เป็นต้น
การลงทุนเช่นนี้ เมื่อหมดโครงการ ทรัพย์สิน (ที่ดิน และ / หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือสิทธิ) ที่มีอยู่จะหมดไป แต่จะได้เงินเป็นผลตอบแทนตอนหมดโครงการ
วัตถุประสงค์ในการลงทุนประเภทนี้ ก็เพื่อให้ได้ผลตอบแทนในระยะสั้น
เพราะฉะนั้น จึงสามารถแบ่งประเภทของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ได้เป็น 10 ประเภท ดังนี้
1. ธุรกิจการซื้อขายที่ดินเปล่า
2. โครงการจัดสรรที่อยู่อาศัย ซึ่งได้แก่ อาคารชุดราคาถูก ทาวน์เฮาส์ อาคารพาณิชย์ บ้านเดี่ยว และบ้านแฝด
3. ตลาดบ้านเดี่ยวราคาแพง ซึ่งมุ่งขายตรงต่อลูกค้าระดับบน
4. โครงการบ้าน BOI
5. อาคารชุดใจกลางเมือง เน้นกลุ่มเป้าหมายนักธุรกิจต่างชาติ เพราะมีกำลังเช่าสูง และต่อเนื่อง