23 ต.ค. 2019 เวลา 02:39 • ไลฟ์สไตล์
ใช้ชีวิตยังไงให้เป็น เศรษฐี
อ่านข้อความแล้วอย่าเพิ่งนึกว่า จะให้วิ่งไล่จับคนรวยมาเป็นคู่ครองนะ เพราะคำว่า “อนาคตทางการเงิน” ไม่ได้หมายถึงฐานะการเงินในปัจจุบัน แต่หมายถึงอุปนิสัยในการสร้างฐานะทางเศรษฐกิจ
การเลือกคู่ ต้องเลือกที่นิสัยใจคอเป็นอันดับแรก และในบรรดานิสัยทั้งหลาย ต้องไม่พลาดที่จะดูนิสัยที่เกี่ยวกับการสร้างความมั่นคงทางการเงินของเขาด้วย
เพราะถึงแม้ในปัจจุบันเขาจะมีฐานะร่ำรวย แต่ถ้ามีนิสัยทางการเงินไม่ดี ก็มีสิทธิ์ที่จะล่มจมได้ในภายหลัง
1
ถ้าเศรษฐกิจในครอบครัวฝืดเคืองแล้ว ปัญหาจะตามมาอีกมาก ทำให้ไม่สามารถครองเรือนกันได้อย่างมีความสุข
ในทางตรงกันข้าม ถ้าตอนนี้เขายังไม่รวย แต่มีอุปนิสัยที่ดี ก็มีสิทธิ์ตั้งตัวเป็นเศรษฐีได้เหมือนกัน
แต่ทางที่ดีที่สุด คือ เราควรฝึกตนให้สามารถสร้างฐานะให้ร่ำรวยด้วยตนเอง จะได้ไม่ต้องพึ่งพาหรือขอเงินใครให้ลำบากใจเปล่าๆ
… อุปนิสัยทางการเงินที่ต้องพิจารณามีอะไรบ้าง ? …
พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสสอนว่า หลักธรรมที่ทำให้คนสามารถสร้างฐานะให้เป็นเศรษฐีมี 4 ประการ ที่เราเรียกกันจนคุ้นกันว่า “หัวใจเศรษฐี” หรือ คาถา “อุ อา กะ สะ”
คาถานี้ย่อมาจากภาษาบาลี 4 คำด้วยกัน ถ้าแปลเป็นภาษาไทยง่ายๆ หัวใจเศรษฐี 4 ข้อก็คือ
1. หาเป็น ถ้าหาไม่เป็น สมบัติมันจะไม่มาให้เป็นเศรษฐีได้
2. เก็บรักษาเป็น
3. เลือกคบแต่คนดี เอามาเป็นที่ปรึกษา มาเป็นรั้วบ้านได้
1
4. ใช้เป็น
ประการที่ 1. คำว่าหาเป็น ในที่นี้หมายถึง ประกอบอาชีพที่เป็นสัมมาอาชีวะ คืออาชีพที่ไม่ผิดศีลธรรม แล้วก็ขยันด้วย ฉลาดด้วย อย่างนี้คือหาเป็น
ประการที่ 2. เมื่อได้มาแล้ว เก็บรักษาเป็นด้วย ถ้าได้แล้วไม่เก็บให้ดี ก็ไม่ต่างกับเอาชะลอมตักน้ำ ถึงจะตักได้มาแต่ก็ไม่เหลืออะไรเก็บไว้ให้ใช้
ประการที่ 3. เลือกคบแต่คนดี ซึ่งความจริงแล้ว มันไม่น่าจะเกี่ยวกับเรื่องหัวใจเศรษฐี แต่จริงๆ แล้วเกี่ยวกันมากเลย เลือกคบคนดีเข้าไว้ เราจะได้คนดี เพื่อนดี มาเป็นที่ปรึกษา มาเป็นรั้วบ้านให้ รั้วอะไรไม่สู้เท่ากับรั้วคน แต่รั้วเดินได้แบบนี้วิเศษนัก ถ้าเป็นรั้วของคนดี
ยิ่งกว่านั้น วันหนึ่งนอกจากเป็นที่ปรึกษา มาเป็นรั้วบ้านให้แล้ว ยังอาจมาเป็นผู้ร่วมงาน กลายเป็นเครือข่ายคนดีเกิดขึ้นในสังคมอีกด้วย
มันทำให้ในระหว่างที่ทำมาหากินอยู่นั้น มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย มีเพื่อนดีๆ เพิ่มขึ้นด้วย แล้วเราก็สามารถจะซึมซับเอาความดีจากคนเหล่านั้นมาไว้ในตัวได้อีกด้วย
ก็เลยกลายเป็นว่า เรามีทั้งอริยทรัพย์กับโลกียทรัพย์ คือทรัพย์ทางธรรมกับทรัพย์ทางโลก เกิดขึ้นพร้อมๆ กันด้วย ตรงนี้สำคัญ แต่ถ้าคบคนไม่ดี ก็อาจถูกชักนำไปในทางที่ผิด หรือถูกหลอกให้เสียทรัพย์ได้
ประการที่ 4. ใช้เป็น คือ ใช้เงินให้สมฐานะ ไม่ใช้จ่ายเกินรายได้ที่หามา และไม่ใช้ในทางผิดศีลธรรมนั่นเอง
...
เมื่อหาเป็น เก็บเป็น สร้างเครือข่ายคนดีก็เป็น แล้วยังใช้เป็นอีกด้วย แน่นอนมันน่ารวย อย่างไรก็ตาม บางคนทำตามหลักหัวใจเศรษฐีทั้ง 4 ประการแล้ว แต่ก็ยังไม่รวยสักที นั่นเป็นเพราะยังมีคุณสมบัติไม่ครบองค์ประกอบความรวยของมนุษย์ ซึ่งมี 2 อย่างคือ..
1. ความเพียรในปัจจุบัน
2. มีบุญเก่าหนุน ที่คนจีนเรียกว่า “เฮง” นั่นเอง
สี่ข้อในหัวใจเศรษฐีที่ว่านั้น เป็นเรื่องของความเพียรในปัจจุบัน ยังไม่ได้พูดถึงบุญเก่า เพราะฉะนั้นเมื่อเพียรไปถึง 4 ประการที่ว่านี้ ทำครบเครื่องดีแล้ว แน่นอนถ้ามีบุญเก่าอยู่ด้วย ต้องรวยแน่ๆ
แต่ว่าถ้าบุญเก่ามันน้อยไปหน่อย มันไม่รวยหรอก แต่ถึงไม่รวยก็ตั้งตัวได้ มีกินมีใช้ ไม่ต้องไปแบมือขอใครให้เป็นภัยเป็นปัญหาของสังคม แม้เท่านี้ก็ถือว่า คาถา 4 คำนี้ศักดิ์สิทธิ์แล้ว
จะแต่งงานกับใคร ให้ดูอนาคตทางการเงินด้วย
ถ้าเงินฝืด รักก็ไม่ค่อยยืด ใครจะว่า “งก” ก็ช่างเขา
เพราะหากเราตกยาก ก็ไม่มีใครลำบากด้วย...
ฝากไปคิด....
ชื่นชอบในบทความ หรือเป็นกำลังใจให้กับทางเพจ ช่วยกดไลค์ กดแชร์ หรือติชมคอมแม้นใด้ครับ👇👇
โฆษณา