29 ต.ค. 2019 เวลา 12:39 • บันเทิง
เรื่องสั้น 18+ : กตัญญู
โปรดใช้วิจารณญาณก่อนอ่าน
ฉันเหม่อมองต้นดอกไม้ตรงทางเข้าบ้าน พวกมันออกดอกสีขาวสด ห้อยลงมาราวกับโคมไฟระย้า สวยงามสมกับที่ตั้งใจลงทุนลงแรงปลูกมานานหลายปี
แม่นั่งอยู่บนล้อเข็น นั่งน้ำลายไหลออกมาจนหยดเปื้อนเต็มหน้าตัก อีกเดี๋ยวฉันค่อยจัดการ เพราะตอนนี้ฉันเหนื่อยเหลือเกิน เพียงอยากนั่งพักสักครู่
พลันภาพในอดีตก็ลอยย้อนกลับเข้ามาในความคิดอีกครั้ง
"น้องเป็นโรคโคลิคค่ะ ดีขึ้นแต่ยังไม่ค่อยหาย ไปหาหมอแล้วก็ได้ยามาทาน โตขึ้นคงดีขึ้นน่ะค่ะ"
เสียงแม่คุยกับคนข้างบ้านตั้งแต่ฉันยังจำความได้ คนแถวนั้นก็ต่างมองฉันเป็นเด็กประหลาด พากันห้ามไม่ให้ลูกเล็กเด็กแดงแถวนั้นมาเล่นกับฉัน เพราะเขากลัวว่าฉันเป็นโรคแปลกประหลาด เป็นเด็กเห็นผี ฉันจึงต้องเก็บตัวอยู่แต่ในบ้าน ไม่ค่อยได้พบเจอใคร
กลางคืนเป็นช่วงเวลาของความทรมาน ไม่มีคืนไหนที่ฉันจะได้หลับอย่างปกติ ภาพความโหดร้ายคอยหลอกหลอนฉันทุกคืน เสียงกระซิบที่ข้างหูนั่น บอกฉันเสมอว่าให้ฉันสงบปากไว้ จะปลอดภัยกว่าการเที่ยวบอกใคร ๆ เพราะไม่มีใครอยากข้องแวะกับเด็กบ้าและดูโรคจิตแบบฉัน
เสียงกรีดร้องของฉันดังจากห้องน้ำแทบทุกคืน เสียงแม่ตะโกนให้เบาเสียงลง ดังสลับเสียงร้องไห้กันไปมา จนบางทีตำรวจต้องมาที่บ้าน พอเห็นใบรับรองแพทย์ พวกเขาก็จากไป
พอฉันโตขึ้นหน่อย ทุกอย่างดีขึ้นบ้าง แต่การต้องอาศัยกับแม่เพียงลำพังสองคน มันก็แสนยากลำบาก แม่ส่งให้ฉันเรียนตามอัตภาพ เวลาไปโรงเรียนครูก็ไม่ค่อยใส่ใจกับพฤติกรรมฉันเท่าไหร่ ปล่อยให้นั่งเล่นอยู่เพียงลำพัง เพื่อน ๆ ไม่เคยเข้าใกล้ ต่างหลบไปเล่นที่อื่น ขนาดโต๊ะเรียนของฉันยังถูกแยกไว้หน้าชั้น เพียงโต๊ะเดียวติดกับโต๊ะคุณครู ซึ่งช่วงวัยเรียนหมดไปกับการนั่งตัวเกร็งและขีดเขียนไปเรื่อยตามที่พอเข้าใจ ฉันแทบไม่ได้อะไรเลยจากโรงเรียน
"เขาป่วย ก็ให้เขาเรียน ๆ ไป ครูไม่ต้องอะไรมากมายหรอก แม่เขาคุยกับผมแล้ว" ประโยคที่คุณครูใหญ่คุยกับครูประจำชั้นทุกคนของฉัน
1
แม่จัดแจงให้ทุกอย่างจริง ๆ ตั้งแต่ฉันแบเบาะจนถึงตอนนี้ จะทำอะไรได้ พ่อมาด่วนจากไปตั้งแต่ฉันไม่ถึงขวบ ทิ้งให้ฉันเผชิญชะตากรรมกับแม่เพียงลำพังจริง ๆ
พอมัธยมปลาย แม่ให้ฉันออกมาเรียนการศึกษานอกโรงเรียน เพราะแม่บอกว่าไม่มีปัญญาส่งฉันแล้ว ฉันจึงได้แต่เรียนจากตำราที่บ้านแล้วไปสอบ ระหว่างวันถ้าว่างต้องไปรับจ้างงานทุกอย่าง ล้างจาน เดินขายของตามร้าน ขายดอกไม้พวงมาลัย และรับของมาทำที่บ้านแล้วค่อยส่งขายรายวัน เหนื่อยจนสายตัวแทบขาด
ฉันไม่ได้เรียนมหาวิทยาลัยหรอก เพราะแม่บอกว่าไม่ต้องเรียนแล้ว เพราะความรู้แค่นี้ก็คงพอทำมาหากินได้ เงินทองที่เคยมีก็แทบจะหมดแล้ว เพราะแม่ได้แต่นั่งกินเหล้ายาดองทั้งวัน เพราะบอกว่าเครียดที่ต้องเลี้ยงลูกลำพัง พร้อมกับพร่ำเพ้อถึงอดีตว่าลำบากขนาดไหนที่เลี้ยงดูฉันมาจนถึงทุกวันนี้ ก็ไม่น่าแปลกใจที่แม่จะสูญเสียทุกอย่าง ยกเว้นฉันทียังต้องพยายามต่อไป เพราะคำว่า "กตัญญู"
ฉันแอบลงเรียนหลักสูตรพิเศษสำหรับนักเรียนทางไกล ด้วยเงินเก็บจากที่หาได้จากงานพิเศษ บวกกับงานพนักงานร้านสะดวกซื้อที่ทำงานไม่เป็นเวลา ฉันจึงได้แต่ซื้อข้าวกับทำอาหารง่าย ๆ ทิ้งไว้ให้แม่ ยังดีที่ฉันได้เลือกเรียนวิชาที่เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพบ้าง ฉันจึงปรุงอาหารบางมื้อให้แม่เป็นพิเศษ และหวังว่าแม่จะกินมัน ก่อนที่จะเมาพับไปก่อน
เวลาเคลื่อนที่รวดเร็วเสมอ ผ่านไปไม่ถึงปี แม่เริ่มคลุ้มคลั่ง ทำลายข้าวของและอาละวาดเพื่อนบ้านไปทั่ว บางทีถึงกับชี้หน้าด่าคนเดินผ่านไปมาว่าเป็นผีเป็นปีศาจจะมาทำร้าย ฉันได้แต่ขอโทษขอโพยผู้คนมากมายที่ต้องเจอกับความคลุ้มคลั่งของแม่
ชาวบ้านต่างเห็นอกเห็นใจฉันที่ต้องดูแลคนที่สติเริ่มฟั่นเฟือน แต่ก็ไม่มีใครอยากยื่นมือมายุ่ง นั่นเป็นธรรมดาของคนปกติ เรื่องความวุ่นวายของคนอื่นอย่าเอาตัวเข้าไปยุ่งจะดีที่สุด
1
แล้ววันหนึ่งขณะที่ฉันออกไปทำงาน แม่ก็แอบปีนออกจากบ้าน วิ่งไปอย่างบ้าคลั่งบนถนน รถชนแม่เข้าโครมใหญ่ สุดท้ายแม่ก็เป็นอย่างที่เห็น นั่งเหมือนผักที่รอวันเน่าเปื่อยอยู่ในรถเข็น
น้ำลายแม่ยังห้อยย้อยเป็นทาง ส่งเสียงอี้อ้อในลำคอ
พรุ่งนี้แล้วที่ศาลจะนัดฟังคำสั่งให้ฉันเป็นผู้อนุบาล ซึ่งแน่นอนเหล่าญาติที่หิวโหยของแม่จะกรูกันมาเพื่อขอแย่งสมบัติที่พ่อฉันทิ้งไว้ทั้งนั้น แต่ถ้าศาลไต่สวน เหล่าเพื่อนบ้านโดยรอบจะเป็นผู้สนับสนุนฉันเป็นอย่างดี เพราะเขาเห็นสิ่งที่ฉันทำให้แม่ในทุก ๆ วัน และโชคยังดีที่ยังเหลือบ้าน ที่ดิน แถมเงินอีกบางส่วนที่ฉันแอบเก็บไว้ก่อนที่แม่จะผลาญทิ้งทั้งหมด
ฉันเห็นดอกไม้หน้าบ้านต้องลม พวกมันแกว่งไกวเหมือนเด็กน้อยที่ถูกแม่ไกวเปลไปมา ฉันอยากมีสัมผัสแบบนั้นบ้าง เพราะในชีวิตที่ผ่านมามันเหมือนตกนรกทั้งเป็น
เพราะหลังจากแม่คลอดฉันแม่ก็สิ้นใจตาย พ่อหอบหิ้วฉันมาเลี้ยงหลังเผาแม่ไปได้แค่อาทิตย์เดียว ขายทุกอย่างที่มีแล้วมาอยู่กับเมียคนใหม่ที่ไม่รู้ว่าแอบคบกันมากี่ปีแล้ว
คนที่ฉันต้องเรียกว่าแม่มาตั้งแต่แบเบาะ มันควรถูกเรียกว่าปีศาจมากกว่า เพราะหลังพ่อพาฉันมาที่ขุมนรกนี่ไม่นานพ่อก็ตาย นังปีศาจยังเห็นว่าฉันมีประโยชน์จึงเลี้ยงฉันมาเหมือนหมูเหมือนหมา ฉันถูกด่าทอเฆี่ยตีทุกวัน เสียงกรีดร้องที่ดังทุกค่ำคืน กลับถูกหลอกลวงด้วยใบรับรองแพทย์ปลอม ๆ จนชาวบ้านหลงเชื่อ คำหวานสารพัดที่ป้อนให้ยามอยู่ต่อหน้าชาวบ้าน แต่ลับตาก็ตามด้วยมือเท้าและของใกล้มือที่พอจะคว้าได้ ทั้งท่อนไม้ ถ้วยชาม หรือกระทั่งถาดโลหะ เคยกระหน่ำลงบนเนื้อตัวฉันทั้งสิ้น
พอโตขึ้น นังปีศาจยังขู่ทุกเช้าค่ำเวลาฉันไปโรงเรียนประชาบาลที่เรียนฟรีใกล้บ้าน ว่าถ้าฉันบอกความลับที่ถูกเฆี่ยนตีกับใคร... มันจะฆ่าฉัน
ชีวิตวัยเรียนจึงเหมือนนรกไม่ต่างจากวัยเด็ก
พอโตขึ้นมันบังคับให้ฉันไปทำงานหาเลี้ยงมัน ที่วัน ๆ เอาแต่กินเหล้าและเล่นไพ่ ฉันพยายามอย่างหนักเพื่อรักษาสมบัติที่พ่อทิ้งไว้ต่างหน้า ฉันยังไปไหนไม่ได้จนกว่า…
ฉันจะได้แก้แค้น
และแล้ววันนี้ก็มาถึง นังปีศาจกลายเหมือนผักที่รอวันเน่า ไม่ใช่เพราะฤทธิ์เหล้าอย่างที่เข้าใจหรอก แต่เพราะฝีมือฉันทั้งนั้น ทั้งอาหารที่ทิ้งไว้ กับข้าวที่ทำให้กินในทุกมื้อ ที่บางทีมันก็เอาขว้างใส่หน้าฉันเวลาที่มันเมาหัวราน้ำ ทุกมื้อล้วนแล้วแต่มีประโยชน์...สำหรับฉัน
ดอกไม้สีขาวหน้าบ้านแกว่งไกวอีกครั้ง
ตอนฉันเรียนทางไกล ฉันพบว่าเจ้าดอกไม้สีขาวนี้มีพิษ พวกมันมีสารที่ออกฤทธิ์หลอนประสาท ถ้าในขนาดไม่มากพวกนักเสพใช้มันเพื่อสันทนาการ แต่ถ้าใช้ในขนาดสูงและบางส่วนมีพิษมาก หากได้รับติดต่อกันนาน ๆ จะทำลายสมองจนเสียหายถาวรและวิกลจริตได้
ถ้าใครผ่านมาหน้าบ้านมักเห็นฉันเก็บดอกไม้นี่เป็นประจำ
"แม่หนูขยันจริง เก็บดอกไม้เหรอจ๊ะ แม่เป็นไงบ้าง หนูนี่ประเสริฐแท้ ดูและแม่ดีเหลือเกินลูกเอ้ย" คำพูดที่ได้ยินอยู่ประจำ
ฉันได้แต่ยิ้มรับและเด็ดดอกไม้เพิ่มทุก ๆ วัน
ฉันลุกขึ้นแล้วเดินไปเข็นนังปีศาจกลับเข้าบ้าน พร้อมกระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูของมัน
"ฉันกตัญญูมากใช่ไหมจ๊ะ แม่จ๋า" ตามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอเบา ๆ ก่อนจะเข็นรถเข้าไปในห้องที่มืดมิด ที่บางคืนก็มีเสียงกรีดร้องดังออกมาทั้งคืน แต่ชาวบ้านต่างรู้ดีว่าสำหรับคนเสียสติก็คงเป็นเรื่องธรรมดา แต่คุณคงพอเดาได้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง..ในแต่ละคืน
ถ้าความกตัญญู คือการตอบแทนพระคุณ
กตัญญูของฉัน คงเป็นการตอบแทนความแค้นเป็นแน่

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา