29 ต.ค. 2019 เวลา 00:29 • กีฬา
ทำไงได้....ใจมันรัก
ก่อนเกมที่ลิเวอร์พูลจะลงเตะกับสเปอร์เมื่อคืนก่อน บอกเลยว่าสภาพร่างกายของผมมีปัญหาพอสมควร เนื่องจากมีโรคประจำตัวเกี่ยวกับภูมิแพ้อากาศ เมื่อถึงช่วงอากาศเย็นๆตอนกลางคืนผมมักจะมีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
บางคนอาจจะคิดว่าผมเล่นมุกอากาศหนาวอยู่หัวตารางหรือเปล่า .... ขอตอบเลยว่าไม่ใช่นะครับ อันนนี้เรื่องจริง 555555555
สำหรับเกมการแข่งขันลิเวอร์พูลในช่วงนี้ อย่างหนึ่งที่ทำผมปวดหัวมากๆก็เวลาเตะเนี่ยแหละ
โปรแกรม 3 นัดหลังสุดของลิเวอร์พูลคือ
วันอาทิตย์ 22.00 (บุกไปเยือนแมนฯ ยูไนเต็ด)
วันพุธ 02.00 (บุกไปเยือนเก็ง)
วันอาทิตย์ 23.30 (เปิดบ้านเจอสเปอร์)
ท่านเห็นอะไรในโปรแกรม 3 นัดหลังสุด ?
คือโปรแกรมของลิเวอร์พูลเตะดึกไม่พอ แถมวันต่อไปยังต้องไปทำงานอีกครับ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับแมนฯ ยูไนเต็ด ที่เวลาเตะพร้อมกันกับลิเวอร์พูลเป๊ะ ขนาดมีวันปิยมหาราชหยุดกลางสัปดาห์ที่ผ่านมา ไอ้เราก็ลุ้นให้เตะวันอังคาร เพื่อวันต่อไปจะได้พักผ่อน
ที่ไหนได้โปรแกรมดันเตะวันพุธอีก ปั๊ดโถ่!!!
สำหรับผมในฐานะแอดมินเพจสายขยี้ เอ๊ยยย สบายวิเคราะห์บอล หลังจบเกมที่ลิเวอร์พูลลงแข่งขัน ผมมักจะเขียนบทความไว้เผื่อพรุ่งนี้เช้าในวันถัดไป ตั้งเวลาโพสอัตโนมัติ
เฉลี่ยแล้วหลังจบเกมผมใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ถึงหนึ่งชั่วโมงครึ่ง ในการเขียนบทความหลังจบเกม ทำให้ผมต้องนอนดึกกว่าปกติ จะมาเขียนตอนเช้าก็ไม่ได้ เพราะมันมีเวลาไม่มากพอ
เบ็ดเสร็จแล้วเบื่อคืนก่อนผมนอนตี 3 ต้องตื่นไปทำงานตอน 7.00
ผมได้นอนไป 4 ชั่วโมง
จริงๆแล้วผมไม่ต้องทำตัวเองให้ทรมาณก็ได้นะครับ สามารถไปนอนได้เลย...
.
.
.
.
ถ้าหากลิเวอร์พูลไม่โดนยิงก่อนในนาทีแรก!!
คือใจจริงผมกะจะไปนอนหลังจากที่จบครึ่งแรก หากว่าลิเวอร์พูลขึ้นนำ 1-0 หรือ 2-0 ในบ้าน นั่นเท่ากับว่าเราปิดประตูแพ้ไปเรียบร้อยแล้ว ผมก็คงจะไปพักผ่อนอย่างสบายใจ ค่อยตื่นมาดูย้อนหลังแล้วสรุปหลังเกมตอนสายๆก็ได้
แต่มันดันพรากช่วงเวลานั้นไปหลังจากเริ่มเกมมาได้เพียงแค่ 51 วินาทีเท่านั้น
ไม่ต้องบอกเพื่อนๆก็พอจะเดาได้ สถากนการณ์ที่คาดว่าจะหนีไปนอนก่อนนั้น ถูกพับเก็บไว้ในแล้วทิ้งลงชักโครกไปซะตรงนั้น
จากคนที่มีอาการป่วยก็ดูแข็งแรงขึ้นมาทันที จากคนที่นอนห่มผ้า ต้องลุกจากที่นอนมานั่งดูแบบใจจดใจจ่อ
แต่ก็ถือเป็นช่วงเวลาที่คุ้มค่าสุดๆ เมื่อยามลิเวอร์พูลถูกคู่แข่งขึ้นนำไปก่อน ความรู้สึกของผมก็คือเรากำลังจะได้ดูอะไรมันส์ๆเปรียบเสมือนภาพยนต์ของหนังภาคต่ออย่าง The Avengers อย่างไงอย่างงั้น
4 นัด ที่ผ่านมาลิเวอร์พูลโดนนำไปก่อนในแอนฟิลด์แค่เกมเดียวเท่านั้น ก็คือเกมที่เปิดบ้านพบกับนิวคาสเซิ่ล ก่อนที่จะแซงกลับมาคว้าชัยไป 3-1
ซึ่งในเกมนั้นก็คล้ายๆเกมนี้แหละ ทันทีที่โดนนำ ลูกทีมของคล็อปป์ ก็รีบโหมกระหน่ำเพื่อทวงประตูตีเสมอ แล้วก็ตามตีเสมอในช่วงเวลาแค่ไม่กี่นาที สุดท้ายก็จบครึ่งแรก้วยการนำ 2-1
เกมกับสเปอร์ก็เช่นกัน
รูปเกมของลิเวอร์พูลมันเปรียบดั่งคลื่นของสึนามิที่มาเป็นระลอกๆ จะเห็นได้ว่าลิเวอร์พูลมีช่วงที่โจมตีเหมือนคลื่นน้ำ
พอได้จังหวะน้ำกระทบฝั่งแรก คลื่นลูกสองก็มา ตามด้วยคลื่นลูกที่สามสี่และห้า
ถ้าคุณไปลองไปยืนอยู่ริมทเะลแล้วให้คลื่นลูกใหญ่ๆตีเข้าที่หน้าคุณสัก 4-5 ครั้ง รับรองเริ่มออกอาการเป๋บ้างแหละ
ในเวลา 90 นาที คุณจะยืนรับมือกับคลื่นน้ำลูกใหญ่ๆพวกนี้ได้สักกี่ลูก ?
อย่างที่ผมบอกไปเมื่อวาน ใครที่พลาดไม่ได้ดูเกมนี้ถือว่าเสียหายมากๆ จะมาดูย้อนหลังมันก็ไม่ได้ฟิวส์เหมือนดูสด
ต้องขอบคุณ เฮนเดอร์สัน เอ๊ยย แฮรี่ เคน ที่ช่วยให้ผมอยู่จนครบ 90 นาที เพราะช่วงหลังๆเราไม่ค่อยได้ดูทีมรักบุกแบบโหมกระหน่ำอะไรแบบนี้มานานมาก ส่วนมากจะเป็นเกมที่ขึ้นนำไปก่อน ได้ลูกสอง ลูกสาม แล้วก็จบเกม
ถ้าถามผมว่าผมชอบแบบไหนมากกว่ากันระหว่างลิเวอร์พูลขึ้นนำกับลิเวอร์พูลโดนนำ ?
ก็ต้องตอบว่าลิเวอร์พูลขึ้นนำสิครับ ผลสกอร์ย่อมมีความหมายและสำคัญมากกว่าอยู่แล้ว
แต่ถ้าถามว่าผมชอบดูเกมของลิเวอร์พูลแบบไหนมากกว่ากัน ?
ตอบเลยว่าชอบดูตอนที่ลิเวอร์พูลโดนนำครับ เพราะในยุคของเจอร์เก้น คล็อปป์ เมื่อลิเวอร์พูลโดนนำ ความมันส์ระดับแปดสิบตีนถีบกำลังจะมาในอีกไม่ช้า
#ปลายสตั๊ดสีแดง
โฆษณา