6 พ.ย. 2019 เวลา 04:48 • ความคิดเห็น
กรอบความคิดแบบ Fixed Mindset / Growth Mindset ถ้าเลือกผิดชีวิตเปลี่ยน!!!
1
🌟ทำไมบางคน "แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน"
🌟ทำไมบางคน "ยิ่งแก่ ยิ่งเก๋า ยิ่งดูฉลาด"
🌟ทำไม "เด็กหลังห้องเรียนไม่เก่ง ทำไมพอมันโตขึ้นทำไมเก่งจัง(วะ)"
3
"แก่เพราะกินข้าว เฒ่าเพราะอยู่นาน"
สุภาษิตนี่เอาไว้ด่าคนแก่ได้อย่างแสบทรวง มันแปลว่าคนเราแก่ตัวลงโดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรให้กับสังคมและตัวเอง นอกจากนี้ยังเหมือนกับว่า ยิ่งแก่ยิ่งเบาปัญญาอีกด้วย ยิ่งแก่ยิ่งรู้สึกว่างเปล่า กลายเป็นมนุษย์ป้า มนุษย์ลุงกันไป
1
สาเหตุอะไรที่ทำให้ คนยิ่งแก่ยิ่งดูเบาปัญญา ไร้ประโยชน์ และไม่ทันโลก หรือมันจะเกี่ยวกับกรอบความคิดเรื่อง Fixed และ Growth mindset !!!!
1
Fixed Mindset: เชื่อว่า คุณสมบัติของคนเรา เช่นความฉลาด รูปลักษณ์ สถานะภาพ ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ มักเป็นคนมองโลกด้านลบเป็นส่วนใหญ่ ถ้าล้มเหลวแล้วก็มักเจ็บมากและเจ็บนาน ไม่พยายามเลยหรือพยายามน้อย หรือคิดว่าตัวเองว่าพยายามมาก(ทั้งๆที่พยายามน้อย) พยายามหลีกเลี่ยงสิ่งที่ท้าทาย กลัวการถูกปฎิเสธ กังวลมากว่าคนอื่นจะมองตัวเองเช่นไร กลัวคนอื่นจะมองเราว่าไม่เก่ง เลยมักขังตัวเองอยู่ใน comfort zone คิดเก่งวิจารณ์เก่งแต่ไม่กล้าลงมือทำ หรือทำๆเลิกๆ
พูดง่ายๆก็คือ fixed mindset เป็นคนยึดติดแบบสุดๆนั่นเอง คนมีอัตตาสูงนั่นเอง
Growth Mindset: เชื่อว่า คุณสมบัติต่างๆของคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ ค่อยๆเปลี่ยน ค่อยไดัดได้ เช่นฉันฉลาดขึ้นได้ ฉันฐานะดีขึ้นได้ ฉันสวยหล่อขึ้นเท่าที่สภาพจะอำนวยได้ ฉันมีความสุขขึ้นได้ ฉันเลือกเกิดไม่ได้แต่ฉันเลือกที่จะใช้ชีวิตได้ ฉันแบกบางเรื่องได้ วางหลายเรื่องได้
พวกเขาคือคนที่เข้าใจความหมายที่แท้จริงของความล้มเหลว มองความล้มเหลวเป็นสิ่งที่อยู่บนเส้นทางของความสำเร็จ มันเป็นสิ่งที่ต้องเจอบ้างอยู่แล้ว ก็ป้องกันและแก้ไขกันไป
พวกเขารู้สึกไม่ดีกับความล้มเหลวแต่ฟื้นตัว ฟื้นใจได้เร็ว
" มีความพยายาม" จนเป็นนิสัย มองโลกเชิงบวก หาสิ่งดีในปัญหาที่เผชิญอยู่ได้ แบกภาระก็ได้
"ช่างแม่ง" บ้างก็เป็น "เทคแคร์สุดๆบ้างก็ได้"
ยอมรับว่าความท้าทายเป็นเรื่องที่ต้องเจอ คิดเยอะในเรื่องการพัฒนาตัวเองและการเติบโต แต่ไม่กังวลกับเรื่องที่ยังไม่เกิด หรือเจ็บช้ำกับเรื่องดราม่าในอดีตที่จบไปแล้ว
เน้นอยู่กับปัจจุบัน
ไม่ค่อยคิดมาก ว่าคนอื่นจะคิดเกี่ยวกับตัวเขาเองอย่างไร จะมองฉันไม่เก่งก็ได้ เพราะยังไงอนาคตฉันก็เก่งขึ้นแน่นอน
ค่อยๆขยับออกจาก comfort zone หรือจะเรียกว่า ขยาย comfort zone ของตัวเองออกไปก็ได้
พูดง่ายๆก็คือ คน Growth mindset เป็นคนที่ยิ่งแก่ยิ่งเก๋า ยิ่งแก่ใจยิ่งหนักแน่น นั่นเอง
เราจะเห็นว่าเด็กหลังห้องเรียนแย่ แต่เรียนรู้เรื่อยๆ มีอีคิวสูง มีความพยายาม กลับพลิกมาเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเมื่ออายุมากขึ้นได้
แน่นอนว่าการมีกรอบความคิดแบบ growth mindset นั้นดีกว่า fixed mindset แน่นอน
แต่ความเป็นจริงคือ คนเรามีส่วนผสมของ Fixed และ Growth mindset ปนเปกันในตัวเองทุกคน เรา fixed mindset บางเรื่อง
เรา growth mindset บางเรื่อง
เช่นบางคน fixed ในเรื่องการใช้ชีวิตส่วนตัว แต่ growth ในการทำงาน
บางคนก็ fixed เรื่องระบอบการเมืองการปกครอง แต่ Growth สุดในเรื่องการดูแลครอบครัวและความรัก
ลองสำรวจตัวเองดูว่า คุณ fixed เรื่องอะไร growth เรื่องอะไร แน่ใจแล้วหรือที่จะ fixed เรื่องนี้ ถ้า growth ชีวิตจะดีขึ้นมั๊ย
คนที่มีสัดส่วน fixed mindset เรื่องโน้นนี่ในชีวีตมากๆ มีสัดส่วน growth อยู่นิดเดียว ต้องระวังเรื่องการยึดติด ระวังการคิดร้าย คิดว่าชีวิตตัวเองเฮงซวย แก้ไขชีวิตไม่ได้ คิดว่าคนอื่นได้ดีเพราะฟรุ๊คเพียวๆ ต้องบังคับตัวเองให้พอใจกับชีวิตตัวเองแบบจำยอม ไม่ได้พอใจในชีวิตจริงๆ
สิ่งที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบคิดดีหรือคอดร้ายกับตัวเอง ก็คือไม่ว่าคุณจะคิดดีอย่างไร
"คุณก็คิดถูกอยู่ดี"!!!!!!!
คิดไม่ผิดแน่นอน
1
เพราะความคิด ไม่ว่าจะดีหรือร้าย หากขยันคิดบ่อยๆ มันจะนำคุณไปสู่สิ่งที่คิดบ่อยๆนั่นเอง
ดังนั้นคิดดี ๆจะดีกว่า ชีวิตในระยะยาวจะได้ดี ๆ
อุปสรรคหรือความล้มเหลวบางคนก็มองว่าเป็นภูเขาที่กดทับชีวิตเขาไว้
บางคนก็มองเป็นภูเขาให้ปีน
มองว่าอุปสรรคหรือความล้มเหลวคือสินทรัพย์ คือ มันให้ข้อมูลความรู้
คนเรามักมองชีวิตโอเวอร์ไม่พอดีเสมอ คือชอบคิดว่า
"ตัวเองเก่งเกินไปในระยะสั้น หวังสูงไปในระยะสั้นแต่กลับคิดว่าตัวเองแย่เกินไปในระยะยาว หวังน้อยเกินไปในระยะยาว"
1
ดังนั้นเราควรถ่อมตัว เรียนรู้และอดทนในเรื่องที่ทำอยู่ในปัจจุบัน แต่มีความฝันที่น่าเร้าใจเป็นเป้าหมายในอนาคต เป้าหมายชีวิตที่กระตุ้นสารโดปามีนในตัวได้ ที่อยากได้จริงๆ เป้าหมายที่ถีบคุณให้ลุกจากเตียงได้ ผลักคุณให้สู้ในทุกวันจันทร์ได้
สิ่งหนึ่งนำทางไปสู่อีกสิ่งหนึ่งเสมอ การคิดเชิงบวกจะทำให้คุณอยู่ในเส้นทางไปสู่ความสำเร็จ แม้คุณจะพบความล้มเหลว ความท้าทายระหว่างทาง
อุปสรรคและความล้มเหลวทำให้รู้สึกแย่ และความท้าทายอาจจะทำให้รู้สึกเหนื่อยและไม่สบายใจ แต่คนที่มี Growth Mindset จะไม่รู้สึกแย่แบบเข้มข้นมากมาย รู้สึกแย่แบบข้ามวันข้ามคืน
ตรงข้ามกับคนที่มี Fix Mindset จะรู้สึกแย่แบบเข้มข้นมาก ๆ แย่ฝังแน่น สลัดออกยาก
Growth mindset ดีแบบนี้ เราจะสร้างมันยังไง???
🌟 🌟"เทคนิคการสร้าง growth mindset"🌟 🌟
จริงๆแล้ว หลักการที่จะเป็นคนที่มี Growth Mindset นั้น เป็นหลักการของเด็กทารก ปล่อยวาง ไม่คิดมาก เรียนรู้ เลียนแบบ ลองทำ ล้ม ลุกใหม่ เรียนรู้จากความผิดพลาด สนุกสนานกับชีวิต คุณคงไม่เห็นเด็กทารกปกติมาตีโพยตีพายว่าทำไม่เดินสองขาได้ช้ากว่าเด็กคนอื่น ก็มีแต่พอแม่นี่ล่ะที่กังวล คนเรานี่มามี Fixex Mindset กันเยอะๆก็ตอนโตๆเนี่ยล่ะครับ
ดังนั้นคุณมี growth mindset เป็นเชื้ออยู่ในตัวอยู่แล้ว แค่ปลุกมันขึ้นมาใหม่ เพาะเลี้ยงมันให้ขยายตัว แค่คิดแบบเด็กๆที่คุณเคยเป็น คิดจะสนุก มีพลัง มีสุขง่าย ทุกข์ยาก มีความฝัน หากล้มแล้วก็แค่ลุก
ฝันแบบเด็ก แต่ลงมือทำอย่างผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ทั้งความรู้และจิตใจ แค่นี้คุณก็สร้างเนื้อสร้างตัว และมีชีวิตได้อย่างมีความสุขแล้วครับ
มาเพิ่มสัดส่วน growth mindset ในความคิดตัวเองกันดีกว่าครับ ในระยะยาวคุ้มกว่าแน่นอน...
โฆษณา