1 พ.ย. 2019 เวลา 09:47 • ปรัชญา
ทุกเช้าที่เราตื่นขึ้น เราจะพบว่า
ทำไมตัวเรายังไม่สบาย.ทำไมคนนั้นคนนู้นคนนี้ ที่เราเห็น ถึงประสบความสำเร็จ เป็นดั่งที่เราเคยวาดฝันไว้ ทำไมเรายังต้องไปทำงาน เดิมๆใช้ชีวิตแบบเดิมๆ ไม่โตสักที...
มันแวบเข้ามาในหัว ทั้งๆที่ใจเราไม่ได้อยากจะคิด แต่สายตา และความจำ เรากลับจำ ภาพความสำเร็จของผู้คนต่างๆบน Social Media
นั่นเป็นเพราะ สิ่งที่เราเห็น ผู้คนเหล่านั้น มันเป็นเพียงภาพลักษณ์ภายนอก ที่เขา สร้างมา ด้วยความยากลำบาก และใช้ชีวิต ด้วยความรอบคอบ จนเขามาถึงจุดที่ สามารถ จะภูมิใจในความสำเร็จของตัวเอง ที่สามารถไขว่คว้ามาได้
มีอยู่วันหนึ่งผมได้ถามกับเศรษฐีคนนึง ซึ่งมีฐานะ และเป็นเจ้าของธุรกิจ ที่โด่งดัง ในเมืองเชียงใหม่ เขาได้บอกผมว่า ทุกครั้งที่เขา ท้อแท้ สิ้นหวัง และไร้กำลังใจ เขาจำไว้เสมอว่า วันนี้ เป็นวันที่ เขายังมีชีวิตอยู่ และเป็นวันที่สามารถแก้ไข เปลี่ยนแปลง สิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้
ผู้คนส่วนมากมักให้ความสำคัญกับภาพในอนาคตมากเกินไป จนลืมแปลว่า ตัวเราเองอยู่กับปัจจุบัน วันนี้ เราทำมันเช่นไร อนาคตเก็จะส่งผลเช่นนั้น
สิ่งหนึ่ง ที่ผม ให้ความสำคัญมากที่สุด คือครอบครัว และเวลาที่มีอยู่ และทุกสิ่งที่ผมมีในวันนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ การมองอนาคตจนมากเกินไป จนลืมไปว่าปัจจุบันเราควรทำอะไร
มีบทเรียนหนึ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตของผม เป็นบทเรียนราคาแพง และสูญเสียมากที่สุด นั่นคือ ในตอนที่ผม มองเห็นภาพคนสำเร็จคนอื่นๆ และเกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้า ทำให้ผม คิดแต่ว่าจะทำอย่างไรให้ผมได้สิ่งนั้นมา โดยที่ไม่ได้สนใจปัจจุบัน และสิ่งรอบตัวของผมเลย จากที่ได้กลับบ้านไปกินข้าวพร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัว กลับเปลี่ยนไป ผมให้ความสำคัญกับตัวของผมและอนาคตผมอย่างมาก จนวันหนึ่ง แม่ของผมป่วยหนัก กะทันหัน จนต้องเข้าโรงพยาบาล ที่เชียงใหม่ ตอนนั้น เป็นช่วงที่ผมอยู่ที่กรุงเทพฯ เป็นช่วงขาขึ้นของผม ที่มีงาน ต่างๆเข้า
ผมตัดสินใจ ให้เวลากับงานก่อน เพราะคิดว่า แม่คงไม่เป็นอะไรมาก และผมจะรีบกลับเมื่อผมเคลียร์งานเสร็จ ภายในวันมะรืนนี้ เมื่อผมมีแฟนในหัวทุกอย่างก็ราบรื่นไปด้วยดี
จนวันรุ่งขึ้น มีสายเรียกเข้า มาจากทางโรงพยาบาล แห่งหนึ่งในเชียงใหม่ โทรเข้ามา ด้วยความคิดที่ว่า แม่คงไม่เป็นอะไรมาก เราจึงคิดว่าหมอโทรมาเพื่อที่จะย้ายแม่ไปห้องพิเศษ ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
แต่สิ่งที่ได้ยินกับไม่เป็นดังคิด คุณหมอท่านนึง ได้โทรมาบอกว่า แม่ของผมได้เสียชีวิตแล้ว เมื่อผมได้ยิน ทุกอย่าง ผมลืมไปสนิททั้งงาน ทั้งเงิน ทั้งธุรกิจ เพราะสิ่งเดียวที่สำคัญกับผมมากที่สุดในตอนนั้น คือแม่ ของผม
ครั้งนั้นเป็นบทเรียนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของผม ผม ขอให้ข้อคิด สำหรับ คนรุ่นหลัง เพื่อให้มองโลกและความเป็นจริงอย่างถูกต้อง
ไม่ว่าคุณจะมีความฝันที่ใหญ่แค่ไหน คุณเก็บความฝัน เพื่อเดินทางไปให้ถึง นั่นเป็นสิ่งที่ถูก แต่ในขณะเดียวกัน คุณต้อง มีสติ และอยู่กับชีวิตความเป็นจริง ไม่เพ้อเจ้อ ไม่เห็นอนาคตสำคัญกว่าปัจจุบัน เพราะ คนเราอยู่กับปัจจุบัน และเปลี่ยนแปลง เริ่มต้นที่ปัจจุบัน เพื่อให้เกิดอนาคตที่ดีได้.
ดังนั้น จงทำทุกวันให้ดี เหมือนวันนี้เป็นวันสุดท้าย ของชีวิต
โฆษณา