1 พ.ย. 2019 เวลา 11:40
สรุปเรื่อง เศรษฐกิจ เงินแข็ง เงินเฟ้อ ของประเทศไทย แบบเข้าใจง่ายๆ
“ประเทศที่ภาวะเศรษฐกิจดี และมีแนวโน้มเติบโต ค่าเงินมักจะแข็งค่า”
นี่คือแนวคิดพื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์
แต่ประโยคนี้อาจใช้ไม่ได้กับประเทศไทยในปัจจุบัน
เพราะถึงแม้ว่าค่าเงินบาทจะแข็ง แต่เศรษฐกิจของเราชะลอลง
เรื่องนี้เป็นเพราะอะไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ตอนนี้บางฝ่ายกำลังคาดว่า เศรษฐกิจไทยปี 2019 จะเติบโตไม่ถึง 3%
IMF คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโต 2.9%
ล่าสุดกระทรวงการคลังก็คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะเติบโตเพียง 2.8%
ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นจริง เศรษฐกิจไทยจะเติบโตต่ำสุดในรอบ 5 ปี
หลายคนรู้ดีว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีระบบเศรษฐกิจเปิด เน้นภาคส่งออกเป็นตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ
ปี 2018 มูลค่าการส่งออกของไทยประมาณ 7.6 ล้านล้านบาท
คิดเป็นประมาณ 50% ของมูลค่า GDP ที่ 15.2 ล้านล้านบาท
เมื่อสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ เกิดขึ้น ย่อมส่งผลต่อการส่งออกของประเทศไทยอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะตลาดส่งออกของไทยที่ไปยังสหรัฐอเมริกาและจีน มีสัดส่วนกว่า 23% หรือ มูลค่ารวมกันเกือบ 1.9 ล้านล้านบาท
1
ผลของสงครามการค้าทำให้เศรษฐกิจชะลอตัว
จีนมีการเติบโตต่ำสุดในรอบ 30 ปี ซึ่งจีนเป็นตลาดส่งออกใหญ่ที่สุดของไทย
พอตลาดส่งออกอย่างจีนกำลังมีปัญหา ประเทศเราก็พลอยได้รับผลกระทบไปด้วย
นั่นจึงทำให้การส่งออกของไทยซึ่งเป็นเครื่องยนต์เศรษฐกิจสำคัญ เกิดปัญหา
เครื่องยนต์อีกตัวที่ถือว่าสำคัญคือ “การบริโภคภายในประเทศ” ที่มีขนาดใหญ่รองลงมาจากการส่งออก ซึ่งหลายคนหวังว่าจะมาช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจเติบโตอีกแรง
แต่เครื่องยนต์ที่เป็นความหวังนี้ก็อาจมีปัญหา เพราะปัจจุบันหนี้สินของครัวเรือนของประเทศไทยนั้นอยู่ที่ประมาณ 78% ของ GDP
1
หมายความว่า หนี้สินของครัวเรือนทั้งระบบอยู่ที่ประมาณ 12 ล้านล้านบาท
ถ้าเราคิดดอกเบี้ยเฉลี่ยที่ 8% ครัวเรือนทั้งหมดต้องจ่ายดอกเบี้ยเกือบ 1 ล้านล้านบาท หรือประมาณ 7% ของ GDP ซึ่งภาระหนี้เหล่านี้ส่งผลให้กำลังซื้อหายไปจากระบบเศรษฐกิจไทย
2
ในขณะที่หนี้ NPL ทั้งระบบอยู่ที่ประมาณ 450,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 337,000 ล้านบาท จากปี 2015 โดยเฉพาะหนี้เสียที่เป็นสินเชื่อเพื่อการบริโภคกำลังเพิ่มขึ้นอีกครั้ง
2
สรุปแล้ว ทั้งการส่งออกและการบริโภคที่พวกเราหวังจะให้มากระตุ้นเศรษฐกิจ กำลังเจอความท้าทายอย่างหนัก ซึ่งปกติแล้วเศรษฐกิจที่ชะลอตัว จะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าลง
อย่างไรก็ตาม เงินบาทกำลังแข็งค่าสวนทางกับภาวะเศรษฐกิจ..
1
นับจากต้นปี เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาแล้วกว่า 7% และตอนนี้ก็กำลังแข็งค่ามากสุดในรอบกว่า 6 ปี
เหตุผลที่เงินบาทแข็งค่ามาจากหลายปัจจัย
ปี 2018 ดุลบัญชีเดินสะพัดต่อ GDP ของไทยถือว่าสูงเป็นอันดับที่ 16 ของโลก สาเหตุก็เพราะไทยมีการค้าและบริการที่เกินดุล ทั้งจากการส่งออกมากกว่านำเข้า และการท่องเที่ยวที่สามารถดึงเม็ดเงินต่างชาติได้มาก
เมื่อต่างชาติเอาเงินต่างประเทศมาแลกเป็นเงินไทย ไทยก็ต้องถือครองเงินต่างประเทศมากขึ้น และเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุนสำรองระหว่างประเทศของไทยนั้นสูงถึง 6.5 ล้านล้านบาท มากเป็นอันดับที่ 12 ของโลก
เงินสำรองระหว่างประเทศที่มาก ทำให้ประเทศไทยถูกมองว่า มีสถานะการเงินที่แข็งแรง และทำให้เงินบาทแข็งค่า
รวมไปถึงเงินลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (Foreign Direct Investment) ในโครงการต่างๆ ในช่วงที่ผ่านมาก็ทำให้ความต้องการเงินบาทสูงขึ้นเช่นกัน
Cr. The Balance
สำหรับการลงทุนในตลาดหุ้นไทยนั้น หลายคนอาจสงสัยว่า ทั้งๆ ที่ต่างชาติขายหุ้นออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะปีที่แล้ว ที่ขายสุทธิในตลาดหุ้นมากกว่า 287,000 ล้านบาท มากสุดในรอบ 5 ปี แต่ทำไมเงินบาทยังแข็งค่า
จริงๆ แล้ว เงินนักลงทุนต่างชาติบางส่วนไม่ได้นำออกไปไหน แต่กลับถูกนำไปลงทุนในตลาดตราสารหนี้ที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ปี 2018 นักลงทุนต่างชาติถือครองตราสารหนี้ในไทย มูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัวจากปี 2015 ที่ประมาณ 5.7 แสนล้านบาท
อีกเรื่องคือเงินเฟ้อ
เงินเฟ้อ หมายถึง การด้อยของค่าเงินในประเทศนั้น
ประเทศไหนที่เงินเฟ้อสูง ย่อมไม่มีใครอยากถือครองเงินสกุลนั้น และจะทำให้ค่าเงินของประเทศนั้นอ่อนค่าในที่สุด
ในขณะที่ประเทศไหนที่เงินเฟ้อต่ำ เงินจะด้อยค่าเพียงเล็กน้อย ย่อมทำให้คนอยากถือครองเงินสกุลนั้น และจะทำให้เงินของประเทศนั้นแข็งค่าในที่สุด
สำหรับไทยนั้น ตั้งแต่ปี 2013 – 2018 เงินเฟ้อทั่วไปของไทยเฉลี่ยปีละ 0.9% เท่านั้น ต่างประเทศก็พากันอยากถือครองเงินสกุลไทยบาท และนั่นจึงทำให้ที่ผ่านมาเงินบาทจึงแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เราต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวอย่างเห็นได้ชัด จึงทำให้รัฐบาลแต่ละประเทศก็มีการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ต่างกัน บางประเทศลดดอกเบี้ยจนเข้าใกล้ศูนย์ บางประเทศออกนโยบายแจกเงินไปถึงมือประชาชน เรื่องเหล่านี้บางอย่างอาจได้ผลในระยะสั้น แต่บางอย่างก็อาจทำให้สภาพเศรษฐกิจผิดเพี้ยนไปจากอดีต
ปิดท้ายด้วยวิธีกระตุ้นเศรษฐกิจที่เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
ในโลกนี้ มีประเทศหนึ่งที่มีเงินเฟ้อต่ำ แต่ค่าเงินอ่อนลง ซึ่งขัดแย้งกับความเชื่อเดิมที่ว่าเงินเฟ้อต่ำจะทำให้ค่าเงินแข็ง
ประเทศนั้นก็คือ ญี่ปุ่น
Cr. Nippon
ประเทศญี่ปุ่นนั้น เงินเฟ้อต่ำต่อเนื่องมาหลายปี และค่าเงินญี่ปุ่นก็แข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น จนกระทั่ง ธนาคารกลางญี่ปุ่นเลือกที่จะใช้นโยบายพิเศษ โดยอัดฉีดเงินเข้าระบบครั้งใหญ่ เพื่อคาดหวังให้เงินเฟ้อกลับมาที่ 2% รวมไปถึงการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0% มาตั้งแต่ปี 2011 และล่าสุดกำหนดให้ดอกเบี้ยติดลบที่ 0.1%
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ
อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของญี่ปุ่นติดลบ
และทำให้คนอยากครอบครองเงินสกุลเยนญี่ปุ่นน้อยลง ส่งผลให้ค่าเงินเยนญี่ปุ่นอ่อนลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่น และนั่นก็เป็นสาเหตุที่เราคนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ถูกลงในช่วงที่ผ่านมา นั่นเอง..
2
โฆษณา